xs
xsm
sm
md
lg

ฮุน มาเนต ร้องอันวาร์และชาวโลก หนุนหยุดยิงกัมพูชา-ไทย กระทรวงบัวแก้วแถลงตามฟอร์ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทำหนังสือถึง อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน ให้ไทยและกัมพูชาทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และไม่ให้ฝ่ายไทยทำอะไรกับชาวกัมพูชา หลังเกิดการปะทะที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว วานนี้ (17 ก.ย.) ด้านกระทรวงการต่างประเทศของไทย ทำได้แค่ออกแถลงการณ์ตามฟอร์ม

วันนี้ (18 ก.ย.) สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา เผยแพร่หนังสือที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งถึงนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ปี 2025 เรียกร้องให้อาเซียนสนับสนุนการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีเสถียรภาพในพื้นที่พิพาทบริเวณชายแดน

"ต้องมีการปฎิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงและข้อตกลงที่บรรลุระหว่างการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคกัมพูชา-ไทย (RBC) อย่างเคร่งครัด และต้องยุติการดำเนินการใดๆ แต่เพียงฝ่ายเดียวก็ตาม ที่มีความเสี่ยงจะเพิ่มความตึงเครียดและความขัดแย้งให้ขยายวงกว้างขึ้นโดยทันที" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุ

นอกจากนี้ นายฮุน มาเนต ยังได้ทำหนังสือไปถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และองค์การสหประชาชาติอีกด้วย

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาปลุกระดมประชาชนฝ่ารั้วลวดหนาม และปะทะเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และตำรวจท้องที่ บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อบ่ายวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ระบุในเอกสารข่าว ว่า นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขอการสนับสนุนจากประธานอาเซียนและผู้นำโลก เพื่อส่งเสริมการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงทั้งหมดที่บรรลุร่วมกันระหว่างกัมพูชาและไทยให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ

โดยนอกจากข้อเรียกร้องให้ยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ยังเรียกร้องให้งดเว้นจากการใช้กำลังต่อพลเรือนและทรัพย์สินของชาวกัมพูชา การหยุดยั้งแผนการที่วางไว้ทั้งหมด และอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับอย่างปลอดภัยของพลเรือนชาวกัมพูชาที่ถูกขับไล่ให้ออกจากบ้านและที่ดิน การใช้กรอบการทำงานของ JBC และ GBC เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยการเจรจาอย่างสันติ แทนการใช้กำลังทางทหาร และการปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่ถูกควบคุมตัวในประเทศไทยในทันที

ด้าน กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีการประท้วงของประชาชนกัมพูชาบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ระบุว่า ตามที่ปรากฏรายงานข่าวเหตุการณ์การประท้วงของประชาชนกัมพูชาเพื่อขัดขวางการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ซึ่งกองทัพบกได้ออกมาชี้แจงด้วยแล้ว นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำประเด็นสำคัญ ดังนี้

1. การดำเนินมาตรการดังกล่าวของฝ่ายไทยอยู่ในพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน การเข้ามาเพื่อพยายามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจนทำให้เจ้าหน้าที่ไทยจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายไทยในหลายมาตรา

2. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้แสดงความอดกลั้นอย่างสูงสุดมาโดยตลอด และได้ใช้เวลาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนกัมพูชา อย่างไรก็ดี ยังคงมีการยั่วยุและดำเนินการรุกล้ำอย่างต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำเป็นต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล โดยใช้มาตรการที่ได้สัดส่วนและมีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

3. การปลุกระดม ยั่วยุ ให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงและก่อความไม่สงบของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ อีกทั้งไม่ยึดถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง

4. ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการปลุกระดมและยั่วยุให้ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงและก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงละเว้นการกระทำใด ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการลดความตึงเครียดและการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ




กำลังโหลดความคิดเห็น