โครงการอีสานโพล มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจประชาชนชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 59.6% เห็นด้วยสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกัน 61% เห็นควรยกเลิก MOU 43-44 และ 68.3% ให้รอดูสถานการณ์ก่อนเปิดด่าน ส่วนเรื่องการเมืองพอใจแพทองธารพ้นนายกฯ เกินครึ่ง เห็นสมควรจัดให้มี สสร. และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
วันนี้ (17 ก.ย.) โครงการอีสานโพล (E-Saan Poll) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “คนอีสานกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองช่วงสิงหาคม-กันยายน 2568” ผลสำรวจพบว่าเกินครึ่ง เห็นด้วยที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ควรยกเลิก MOU ปี 2543 และ 2544 เห็นด้วยกับการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ควรรีบเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ควรเปิดทางให้เลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชน และเห็นสมควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นอกจากนี้ ยังมีเสียงยังก้ำกึ่งว่า พรรคประชาชนควรช่วยประคองรัฐบาล หรือไม่หากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพื่อเร่งการยุบสภาภายในเดือนตุลาคม 2568
รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อสถานการณ์และข่าวสารบ้านเมืองที่สำคัญในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน 2568 ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 13 ถึง 15 กันยายน 2568 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,058 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด เมื่อสอบถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรีจากคดีคลิปเสียง พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 51.6 พอใจ/เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 27.2 เฉยๆ/ไม่ทั้งพอใจและไม่พอใจ และ ร้อยละ 21.2 ไม่พอใจ/ไม่เห็นด้วย
เมื่อสอบถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบข่าว ในการโหวตเลือกนายกฯ พรรคประชาชนเสนอเงื่อนไขยุบสภาภายใน 4 เดือน ทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญ และไม่ร่วมเป็นคณะรัฐมนตรี พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 46.1 เฉยๆ/ไม่ทั้งพอใจและไม่พอใจ รองลงมา ร้อยละ 43.8 พอใจ/เห็นด้วย และร้อยละ 10.1 ไม่พอใจ/ไม่เห็นด้วย
เมื่อสอบถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบข่าว พรรคประชาชนโหวตให้อนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 51.1 เฉยๆ/ไม่ทั้งพอใจและไม่พอใจ รองลงมาร้อยละ 30.3 พอใจ/เห็นด้วย และร้อยละ 18.6 ไม่พอใจ/ไม่เห็นด้วย
เมื่อสอบถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบข่าว ทักษิณ ชินวัตร รับโทษจำคุก 1 ปี ผลจากคดีชั้น 14 พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 44.4 เฉยๆ/ไม่ทั้งพอใจและไม่พอใจ รองลงมา ร้อยละ 44.2 พอใจ/เห็นด้วย และร้อยละ 11.4 ไม่พอใจ/ไม่เห็นด้วย
เมื่อสอบถามว่า ท่านรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบข่าว โครงการคนละครึ่งของรัฐบาลอนุทิน พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 49.4 พอใจ/เห็นด้วย รองลงมาร้อยละ 39.8 เฉยๆ/ไม่ทั้งพอใจและไม่พอใจ และร้อยละ 10.8 ไม่พอใจ/ไม่เห็นด้วย
เมื่อสอบถามว่า หากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ พรรคประชาชนควรตัดสินใจอย่างไร พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 52.3 ช่วยรัฐบาลให้ทำงานต่อ แต่อาจจะขาดกลไกในการควบคุมรัฐบาลเพื่อให้ยุบสภาภายใน 4 เดือน รองลงมาร้อยละ 47.2 ไม่ช่วยรัฐบาลเพื่อให้เกิดการยุบสภาโดยเร็ว และร้อยละ 0.5 ความคิดเห็นอื่นๆ
เมื่อสอบถามว่า ควรยกเลิก MOU ปี 2543 และ 2544 ระหว่างไทยและกัมพูชาหรือไม่ พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 61.0 เห็นว่าควรยกเลิก รองลงมา ร้อยละ 18.5 เห็นว่าศึกษาให้รอบคอบก่อน ร้อยละ 9.7 เห็นว่าไม่ควรยกเลิก และร้อยละ 3.6 ความคิดเห็นอื่นๆ
เมื่อสอบถามว่า ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชา พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 59.6 เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 24.8 ควรศึกษาให้รอบคอบก่อน และร้อยละ 14.0 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 1.6 ความคิดเห็นอื่นๆ
เมื่อสอบถามว่า ท่านต้องการให้มีการเปิดด่านชายแดนไทยและกัมพูชาเพื่อให้มีการค้าขายตามปกติในช่วงนี้เลยหรือไม่ พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 68.3 ให้รอดูสถานการณ์ก่อน รองลงมา ร้อยละ 23.5 ต้องการ และร้อยละ 8.2 ความคิดเห็นอื่นๆ
เมื่อสอบถามว่า ควรแก้รัฐธรรมนูญ หมวด 15 เพื่อเปิดทางให้เลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยประชาชนหรือไม่ พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 54.5 เห็นว่าควร รองลงมา ร้อยละ 35.3 เห็นว่าไม่ควร เพราะรัฐสภาตั้งคณะหรือสภาร่างรัฐธรรมนูญได้อยู่แล้ว และร้อยละ 10.2 ความคิดเห็นอื่นๆ
เมื่อสอบถามว่า หากมีการทำประชามติ เพื่อถามว่า “สมควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” ท่านจะเลือกข้อใด พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 55.6 ระบุว่าสมควร รองลงมา ร้อยละ 32.9 ระบุว่าไม่สมควร และร้อยละ 11.5 ความคิดเห็นอื่นๆ
ทั้งนี้ ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง มีความเชื่อมั่นในการพยากรณ์ 99% และคลาดเคลื่อนได้บวกลบ 4% ประกอบด้วยเพศชาย ร้อยละ 46.9 เพศหญิงร้อยละ 49.4 และอื่นๆ ร้อยละ 3.7 ด้านอายุ อายุ 18-24 ปี ร้อยละ 7.9 อายุ 25-30 ปี ร้อยละ 11.5 อายุ 31-40 ปี ร้อยละ 19.9 อายุ 41-50 ปี ร้อยละ 24.2 อายุ 51-60 ปี ร้อยละ 19.5 และอายุ 61 ปี ขึ้นไป ร้อยละ 17.0
ด้านระดับการศึกษา ประถมศึกษา/ต่ำกว่าร้อยละ 19.3 มัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 18.4 มัธยมศึกษาตอนปลาย/ระดับปวช. ร้อยละ 15.4 อนุปริญญา/ปวส./สูงกว่า ม.ปลาย ร้อยละ 18.3 ปริญญาตรี ร้อยละ 26.2 และสูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 2.3
ด้านอาชีพส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 40.8 รองลงมาผู้ใช้แรงงาน/ลูกจ้างสถานประกอบการ ร้อยละ 15.0 ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 13.3 งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ10.1 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 9.8 พ่อบ้าน/แม่บ้าน ร้อยละ 5.4 นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 4.0 และอื่นๆ ร้อยละ 1.6
ด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้ไม่เกิน 5,000 บาทร้อยละ 10.2 รายได้ระหว่าง 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 18.2 รายได้ระหว่าง 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 25.2 รายได้ 15,001-20,000 บาท ร้อยละ 22.1 รายได้ 20,001-40,000 ร้อยละ 19.9 และรายได้มากกว่า 40,001 บาทขึ้นไปร้อยละ 4.3