ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ปชป. ชี้ศาลชำแหละราชทัณฑ์ กระบวนการส่งตัวทักษิณไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ ป.ป.ช.รับไม้ต่อ ขอบคุณเจ้าตัวยอมมาฟังคำพิพากษา แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียวทั้งที่ความเสียหายเป็นแสนล้าน ด้านกลุ่ม คปท.นัดพฤหัสฯ นี้ จี้ ป.ป.ช.เดินหน้าเอาผิดข้าราชการที่ช่วยเหลือด้วย
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับไปรับโทษจำคุก 1 ปี เนื่องจากกระบวนการส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า วันนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ศาลได้มาอ่าน ในรายละเอียดของหลักฐาน ศาลได้อ่านการกระทำของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่ากระทำความผิดอะไรบ้าง ซึ่งความผิดนี้ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะได้ดำเนินการต่อ เพราะทราบว่าเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) ไปร้องที่ ป.ป.ช. เอาไว้
ขณะเดียวกัน ศาลกล่าวว่า นายทักษิณรู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ป่วย ก็ยังไปอยู่เบื้องหลังในการกระทำความผิดครั้งนี้ จึงทำให้การไปอยู่โรงพยาบาลมีส่วนรู้เห็น เพราะฉะนั้นการกระทำทั้งหมดไม่ได้เป็นความผิด จะอ้างว่าเป็นเรื่องของความผิดเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เหมือนนายทักษิณคือผู้สนับสนุนหรือตัวการ ตามกฎหมายอาญามาตรา 76 อีกทั้งศาลได้ตัดสินว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ การพักโทษอีก 6 เดือนโดยใช้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์นั้นถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย เป็นเหตุให้ต้องจำคุกทั้งหมด รวมทั้งที่ไปอยู่โรงพยาบาล กับไปพักโทษที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมกันแล้ว 1 ปี ศาลก็ลงโทษตามความเป็นจริงของกฎหมายและการกระทำของตัวนายทักษิณเอง ไม่ใช่ใครเป็นคนไปแกล้งเขา หรือกฎหมายไปเขียนขึ้นมาเองหรืออะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดนายทักษิณรู้เห็นเป็นใจ
ทั้งนี้ ชัยชนะทั้งหลายทั้งหมด ตนไม่สามารถทำคนเดียวได้ แต่เป็นคนเซ็นเรื่องเข้ามา เปิดหน้าสู้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สุดท้ายขอบคุณนายทักษิณ ที่แสดงความรับผิดชอบเดินทางกลับมาฟังคำพิพากษา ยอมรับว่านายทักษิณคิดถูกที่กลับมารับโทษ แต่ประเทศไทยไม่คุ้ม ติดคุกปีเดียว เป็นเรื่องที่กฎหมายทำได้แค่นั้น แต่ความเสียหายเป็นหมื่นล้านถึงแสนล้านบาท
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่า วันนี้ศาลได้พูดชัดว่าการบังคับใช้มาตรา 55 ของ พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ รวมกับกฎกระทรวงในการส่งตัวนักโทษรายนี้ไม่สามารถบังคับได้ในการส่งนักโทษออกไปรักษาภายนอก ดังนั้นรับรู้ได้เลยว่าการบังคับใช้มาตรา 55 ที่ทางทีมกรมราชทัณฑ์ส่งตัวออกไปรักษาภายนอกไม่เป็นไปตามข้อกฎหมาย
ส่วนนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ขอบคุณศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่คืนความยุติธรรมให้กับสังคมไทย และขอชื่นชมนายทักษิณที่กล้ากลับมา เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าต่อไป
อีกด้านหนึ่ง นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มีขบวนการช่วยเหลือไม่ให้นายทักษิณติดคุกโดยช่วยให้มานอนที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ที่ผ่านมา ดังนั้น ต้องดำเนินการกับข้าราชการที่ช่วยเหลือ และนายทักษิณเป็นหัวหน้าสั่งการให้เกิดการกระทำผิด โทษที่ต้องได้รับไม่ใช่แค่ 1 ปีตามศาลสั่ง แต่โทษที่กระทำผิดอีกคือ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ในการไม่บังคับโทษให้เป็นไปตามกฎหมาย อันนี้จะเป็นโทษใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย. คปท. นัดพร้อมกันที่สำนักงาน ป.ป.ช. เวลา 10.00 น. เพื่อเดินหน้าเอาผิดข้าราชการที่ร่วมขบวนการต่อไป