"อนุทิน" เมินเพื่อไทยร้องศาลตีความ MOA ยันถูกต้องตามกฎหมาย ด้าน "พรรคประชาชน" โพสต์เตือนอย่าตั้ง "รมต.เทา" ปมเอี่ยวคดีค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ฟินแลนด์ พร้อมเร่งสอบสวนเอาผิดข้าราชการระดับสูง
ท่ามกลางความชื่นมื่นของพรรคภูมิใจไทยภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ปรากฎว่าส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้เข้าชื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความทันทีว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นนี้ นายกฯป้ายแดง ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายอนุทิน ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งข้อเสนอและข้อตกลงที่พรรคภูมิใจไทยมีต่อพรรคประชาชน ไม่ต่างกับพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอ ก่อนที่จะมีการลงมติ ให้ตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยเสนอว่าหากพรรคประชาชนโหวตเลือก นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็จะยุบสภาในทันที ซึ่งถ้าหากพรรคประชาชนยอมรับ ก็ถือว่าเป็นข้อตกลง แต่พรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทย คงต้องมีมากกว่า MOA เพราะพรรคเพื่อไทยเคยผิดสัญญามาแล้ว และเรื่องนี้ควรต้องไปถามพรรคเพื่อไทยมากกว่า
ขณะเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวของออกมาจากพรรคประชาชนที่น่าสนใจ โดยมีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของพรรค โดยระบุว่า "คนมีคดีค้ามนุษย์ติดตัว ไม่ควรเป็นรัฐมนตรี" ซึ่งมีเนื้อหาพอสังเขปดังนี้
"เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ศาลเขตลัปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ มีคำพิพากษาจำคุกอดีตผู้บริหารระดับสูงของหนึ่งในบริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเบอร์รี่รายใหญ่ของฟินแลนด์ และ นายหน้าชาวไทย ฐานมีส่วนในขบวนการค้ามนุษย์ คดีนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะเหยื่อการค้ามนุษย์คือแรงงานคนไทยกว่า 60 ชีวิตที่ถูกหลอกให้ไปทำงานเก็บผลไม้ป่า โดยมีการโฆษณาว่าเป็นงานรายได้สูง ได้เงินเป็นแสนภายในเวลาไม่กี่เดือน แต่ความเป็นจริงแรงงานต้องทำงานอย่างหนัก ไม่มีค่าจ้างขั้นต่ำ หลายคนถูกยึดเอกสารสำคัญ เจ็บป่วยก็ยังถูกกักขังให้ทำงานต่อ ต้องหลับนอนในที่แออัดคับแคบท่ามกลางอากาศหนาวเย็น"
"ย้อนไปเมื่อ 25 มีนาคม 2568 สหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7 พรรคประชาชน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ โดยอ้างอิงสำนวนคดีจากฟินแลนด์และสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่ส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีอดีตข้าราชการระดับสูงและอดีตรัฐมนตรีในกระทรวงแรงงานเกี่ยวข้อง โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการค้ามนุษย์จากการรับสินบนจากนายหน้าชาวไทย เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดส่งแรงงานไทยไปเป็นแรงงานทาสที่ฟินแลนด์และสวีเดน"
"จากสำนวนคำให้การคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐดังกล่าว เราจะเห็นความเชื่อมโยงระหว่างนายหน้าชาวไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในขณะนั้น ทั้งการเดินทางไปเยี่ยมบริษัทที่มีปัญหาถึงฟินแลนด์ รวมถึงแชทและกล่องเงินระหว่างนายหน้ากับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางฟินแลนด์เองมีคดีที่เกี่ยวเนื่องกันและมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันที่ทำให้ข้าราชการระดับสูงของฟินแลนด์ถูกตัดสินโทษจากเรื่องนี้ไปแล้ว"
"สหัสวัตจึงเรียกร้องให้ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทบทวนถึงความเหมาะสมและคำนึงถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่กำลังจับตาการตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ไม่ให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี สหัสวัตจะดำเนินการตามกลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้กระบวนการของคดีนี้ในฝั่งไทยเร่งสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยเสนอว่าควรนำคำตัดสินล่าสุดของศาลที่ฟินแลนด์ในคดีค้ามนุษย์ มาประกอบการพิจารณา เชื่อว่ามีแนวโน้มสูงมากที่จะเป็นน้ำหนักเพิ่มเติมในการเอาผิดอดีตรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงแรงงาน"
"พรรคประชาชนยืนยันว่าเราพร้อมดำเนินการทุกช่องทางเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับบทลงโทษโดยปราศจากการละเว้นหรือการแทรกแซงจากฝ่ายบริหาร เพื่อพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยมีมาตรฐาน บังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอหน้า และประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อีกจำนวนมาก จะได้รับความยุติธรรม"