xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนกระแสบวก ตอบรับ 'คนละครึ่ง' เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอกชนหนุน "คนละครึ่ง" คืนชีพ! หวังช่วยเศรษฐกิจฐานราก-ลดค่าครองชีพ อนุทินลั่นพร้อมเดินหน้าทันทีที่รับตำแหน่ง ภัตตาคารไทยเผยยอดขายตกฮวบ มอง "คนละครึ่ง" ตรงจุด-ช่วยเหลือประชาชน

แม้ว่าจะยังไม่มีอำนาจในการทำงานอย่างเป็นทางการ แต่เวลานี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเดินหน้าทำงานเต็มตัว โดยเฉพาะการเตรียมฟื้นนโยบายคนละครึ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า กรรมการบริหารพรรคมีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทีมนโยบายมีการพูดคุยกันว่านโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น จะมีอะไรบ้าง โครงการคนละครึ่งก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่อาจจะมีอะไรที่มากกว่าเช่น เรื่องสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น มีการรับฟังโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการที่ดีในอดีต ซึ่งโครงการเหล่านี้น่าจะนำมาต่อยอดได้ และทำให้ดีขึ้น ข้อผิดพลาดของหลายโครงการที่ผ่านมาในอดีตไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด ถ้าดีแต่ยังมีข้อผิดพลาดเราจะนำมาปรับปรุง

ขณะที่ ท่าทีของภาคเอกชนถือว่าตอบรับนโยบายดังกล่าวไปในทางที่ดีพอสมควร นายสรเทพ โรจน์พจนารัช สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทลประเทศไทย แสดงความคิดเห็นว่า โครงการคนละครึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เกือบทั้งระบบ ทั้งพ่อค้าแม่ขายร้านระดับล่างข้างทางไปจนถึงร้านระดับเอสเอ็มอี ที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานออฟฟิศและบุคคลทั่วไปที่ทำงานเงินเดือนไม่สูงด้วย หวังว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ จะเร่งทำในทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สนับสนุนรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ฟื้นมาตรการคนละครึ่ง โดยครั้งนี้ขอเสนอให้เป็นมาตรการคนละครึ่ง ภาคพิเศษ หรือรูปแบบใหม่ที่รัฐบาลจะช่วยส่งแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะฐานรากที่ประสบสภาวะซบเซาเป็นสิ่งประชาชนและผู้ประกอบการรอคอยที่จะเห็นเป็นรูปธรรม และนำปัญหา อุปสรรคในอดีตมาปรับปรุงแก้ไขให้เป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มต่างๆ มากยิ่งขึ้น

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันของธุรกิจร้านอาหารยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยลดลง 25-50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ข้อมูลเชิงสถิติจากแพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์หลักแสดงการหดตัวอย่างชัดเจน เสียงสะท้อนของผู้ประกอบการรายย่อยที่ต้องเผชิญการขาดทุนจนถึงขั้นปิดกิจการจำนวนมาก ร้านอาหารปิดตัวลงจำนวนมาก ผู้ประกอบการที่เหลือรออยู่ต้องลดจำนวนพนักงาน และลดชั่วโมงการดำเนินการ เสียงจากภาคประชาชนและผู้ประกอบการต่างสะท้อนตรงกันว่า "Co payment" หรือโครงการคนละครึ่ง เป็นมาตรการที่ตรงจุดที่สุด เพราะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนโดยตรง ลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ สร้างรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ธุรกิจ ร้านอาหารรายเล็ก รายกลาง กระตุ้นซัพพลายเชนอาหารท้องถิ่น ในทุกจังหวัด สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่แรงงานในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอาหาร สมาคมภัตตาคารไทย ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารกว่า 7 แสนรายทั่วประเทศ พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในทุกมิติ เพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์และสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ “โครงการ Co payment จะถือเป็นของขวัญและความหวังแก่ประชาชนในฐานะผู้บริโภค และเป็นแรงประคับประคอง ผู้ประกอบการร้านอาหารให้สามารถยืนหยัดและเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงเศรษฐกิจที่ท้าทาย
กำลังโหลดความคิดเห็น