พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น
วันนี้ (5 ก.ย.) จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านแพลตฟอร์ม X บัญชี Thaksinlive ระบุถึงเหตุที่เปลี่ยนเส้นทางบินจากสิงคโปร์ไปยังดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า เกิดจากตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถ่วงเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้เครื่องบินไปลงที่สนามบินเซเลตาร์ สำหรับเครื่องบินไพรเวตเจ็ทไม่ทัน เพราะสนามบินเปิดให้บริการถึงแค่ 4 ทุ่มเท่านั้น โดยระหว่างรอขออนุญาตจากสนามบินดูไบ นักบินต้องบินวนรออยู่พักใหญ่ กระทั่งได้รับอนุญาตจึงได้หันหัวบินต่อไปยังดูไบ ยืนยันว่าตั้งใจจะกลับประเทศไทยไม่เกินวันที่ 8 ก.ย. เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง วันที่ 9 ก.ย. นั้น
ทีมงาน Sondhi X ได้รับข้อมูลที่ส่งต่อกันมาจากชาวเน็ต โดยอ้างถึงข้อมูลภาพรวมโดย AI จาก Google ว่า "สนามบินเซเลตาร์ (Seletar Airport) ไม่ได้ปิดให้บริการตามเวลาทำการปกติเหมือนสายการบินพาณิชย์ แต่เปิดให้บริการเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง 365 วันต่อปี ดังนั้น จึงไม่มีเวลาปิด สำหรับการบินส่วนตัว แต่คุณสามารถจองและเดินทางได้ตลอดเวลาที่ต้องการ"
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลเว็บไซต์ uas.aero และ universalweather.com พบว่า ท่าอากาศยานเซเลตาร์ มีเวลาที่เรียกว่า ไนท์ เคอร์ฟิว (Night curfew) เพื่อลดเสียงรบกวน ในช่วงเวลาพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้เคียงสนามบิน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 เป็นต้นมา โดยไม่อนุญาตให้ทำการบินระหว่างเวลา 14.00-23.00 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) หรือเทียบกับเวลาสิงคโปร์คือ 22.00 น. ถึง 07.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยมีข้อยกเว้นเฉพาะเที่ยวบินเพื่อการเคลื่อนย้ายทางการแพทย์และเที่ยวบินฉุกเฉินเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีช่วงเวลาสำหรับฝึกการบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วงเวลา ได้แก่ 09.30-10.30 น., 12.00-13.00 น., 15.00-16.00 น. และ 17.00-18.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ทำการบินช่วงดังกล่าว
ถึงกระนั้น ที่ท่าอากาศยานเซเลตาร์ นอกจากจะมีอากาศยานส่วนบุคคลมาใช้บริการแล้ว ยังมีเที่ยวบินพาณิชย์ของสายการบินไฟร์ฟลายแอร์ไลน์ ไปยังปลายทางท่าอากาศยานซูบัง (SBZ) ใกล้กับกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันละ 6 เที่ยวบิน โดยใช้เครื่องบินใบพัดเทอร์โบ ATR-72 ทำการบิน อีกด้านหนึ่ง ประเทศสิงคโปร์ยังมีสนามบินหลัก ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติชางงี ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง แต่อากาศยานส่วนบุคคลนิยมใช้ท่าอากาศยานเซเลตาร์มากกว่า เพราะบริการภาคพื้นดินมีราคาถูกกว่า ใช้เวลาทางรถยนต์เพียง 20 นาทีเข้าสู่ใจกลางเมือง แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่มีรันเวย์ยาวเพียงเส้นเดียว ยาว 6,024 ฟุต (1,836 เมตร) และอาจมีความล่าช้าในการผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง
อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า "เพื่อนผู้รู้เรื่องการบิน ส่งข้อมูลมาให้ว่า "สนามบินที่สิงคโปร์ เค้าเปิด 24 ชั่วโมง" สำหรับเครื่องบินส่วนตัวครับ
โดยสนามบินที่รองรับเครื่องบินส่วนตัวที่สิงคโปร์ ก็มีสนามบิน ชางงี Singapore Changi Airport ที่มีเทอร์มินอลสำหรับเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งเปิด 24 ชั่วโมงแน่ๆ
และก็สนาม เสเลตาร์ Seletar Airport (ที่เป็นข่าว) ที่แม้ว่าจะเปิดถึง 4 ทุ่ม แต่ถ้าเป็น medical evacuation flight ก็สามารถขอลงได้ 24 ชั่วโมงเหมือนกันครับ
ดังนั้น บินไปลงสิงคโปร์ ไม่ใช่เรื่องยากครับ ยิ่งถ้าบอกว่า มาหาหมอด่วนแล้วด้วย ยิ่งบนลงจอดได้ครับ ไม่ได้ต้องหักหัวกลับกระทันหัน ไปประเทศอื่น
ป.ล. ที่เค้างงกันคือ ถ้าลงสิงคโปร์ไม่ได้ แล้วทำไมไม่บินกลับมาลงไทยก่อน ค่อยไปใหม่ทีหลัง ... ยังไม่นับรวม เรื่องที่เติมน้ำมันไว้เต็มลำ เตรียมบินระยะไกล (ซึ่งจะไม่ทำกัน ถ้าตั้งใจจะบินไปลงแค่สิงคโปร์) นะครับ"
สำหรับเครื่องบินไพรเวตเจ็ท บอมบาดิเออร์ โกลบอล 7500 (Bombardier Global 7500) ทะเบียน T7-GTS ออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 19.17 น. ของเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย ก่อนจะหันหัวไปทางทิศตะวันตกที่บริเวณรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ออกไปทางช่องแคบมะละกา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วบินวน 2 รอบ บนมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับเกาะเกรทนิโคบาร์ แล้วไปทางประเทศอินเดีย ก่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานดูไบ เวิลด์ เซ็นทรัล (DWC) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงปลายทางเวลา 23.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 02.40 น. ของวันที่ 5 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย รวมระยะทาง 4,885 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 23 นาที