โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร 862 นาย ขยับ พล.อ.อุกฤษฎ์ ตท.24 เป็น ผบ.ทสส. พล.ร.อ.ไพโรจน์ จาก เสธ.เป็น ผบ.ทร. พล.อ.อ.เสกสรร ขยับเป็น ผบ.ทอ. พบ พล.ท.อมฤต จาก มทภ.1 ขยับเป็น ผช.ผบ.ทบ.ตามคาด
วันนี้ (5 ก.ย.) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ โดยมีนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จำนวน 862 ตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป
สำหรับตำแหน่งสำคัญที่น่าสนใจ อาทิ พล.อ.ธราพงศ์ มะละคำ (ตท.24) จากรองปลัดกระทรวงกลาโหม ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ (ตท.24) จากรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งมีอายุราชการ 2 ปี โดยจะเกษียณปี 2570 พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ จากเสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ
ขณะที่กองทัพบก พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ (ตท.28) จากแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ดูแลพื้นที่ภาคกลาง พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ (ตท.26) ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน แทน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่เกษียณอายุราชการ ส่วน พล.ต.วรเทพ บุญญะ (ตท.26) รองแม่ทัพภาคที่ 3 ขยับขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ และ พล.ต.นรธิป โพยนอก (ตท.26) โยกจากตำแหน่งรองเเม่ทัพภาคที่ 2 เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ดูแลพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วน พล.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ (ตท.26) ย้ายจากผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก แล้วขยับ พล.ต.อดุลย์ จันทร์มา (ตท.26) จากรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง ที่เคยลาออกจากโฆษกกระทรวงกลาโหมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขยับจากรองผู้อำนวยการ เป็นผู้อำนวยการสำนักกิจการมวลชนและสารนิเทศ สำนักงานปฎิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก