อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร แจงผ่านแพลตฟอร์ม X อ้าง ตม.ไทยถ่วงเวลา เครื่องบินไปสิงคโปร์ไม่ทัน สนามบินเซเลตาร์ปิด 4 ทุ่ม เลยไปดูไบแทน ยันกลับไทยไม่เกิน 8 ก.ย.นี้เพื่อไปศาลแน่ ขณะที่ รมว.ยุติธรรมรีบตัดจบบอก "ไม่ทราบ"
วันนี้ (5 ก.ย.) ในแพลตฟอร์ม X ชื่อบัญชี Thaksinlive ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 02.07 น. ตามเวลาในประเทศไทย ระบุว่า "วันนี้ผมตั้งใจเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อไปตรวจสุขภาพ กับหมอที่เคยดูแลระหว่างอยู่ต่างประเทศ
ตม. ที่ไทย ถ่วงเวลาผมไว้เกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ผมได้ชนะคดี ที่ถูกห้ามออกเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว มีสิทธิเดินทางเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป
ระหว่างเส้นทางบิน นักบินแจ้งว่า การที่โดน ตม. ถ่วงเวลาผมไว้นาน ทำให้เครื่องจะไปลงสนามบิน Seletar ซึ่งใช้สำหรับเครื่อง Private Jet ลงที่สิงคโปร์ไม่ทัน เพราะสนามบินเปิดให้บริการ ถึงแค่ 4 ทุ่ม เท่านั้น (เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1 ชม.)
เมื่อไม่สามารถไปลงที่สิงคโปร์ได้ ผมจึงตัดสินใจให้นักบินเปลี่ยนแผนไปลงดูไบ เพราะที่ดูไบผมมีหมอกระดูก และหมอปอดที่ผมใช้ประจำมานาน และยังมีโอกาสได้เยี่ยมเพื่อนที่ดูไบ ซึ่งไม่ได้เจอกันมา 2 ปีกว่าแล้ว
ระหว่างรอขออนุญาตจากสนามบินดูไบ นักบินต้องบินวนรออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับอนุญาตจึงได้หันหัวบินต่อไปยังดูไบ
ผมตั้งใจจะกลับไปไทยไม่เกินวันที่ 8 เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง วันที่ 9 กันยายนนี้ ครับ"
ข้อความดังกล่าวปรากฎขึ้น หลังจากที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เครื่องบินไพรเวตเจ็ทของนายทักษิณบินออกนอกเส้นทาง จากที่กล่าวกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และเจ้าหน้าที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ว่าจะไปประเทศสิงคโปร์ แต่เมื่อมีประชาชนติดตามผ่านเว็บไซต์ตรวจสอบพิกัดเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ เช่น Flightradar24 พบว่าเวลาประมาณ 20.21 น. เครื่องบินของนายทักษิณเปลี่ยนเส้นทางบริเวณรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ไปทางทิศตะวันตก แล้วออกทะเลอันดามัน โดยไม่ตรงไปยังปลายทางประเทศสิงคโปร์
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่อาคารรัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยนายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา และเลขาธิการพรรคประชาชาติ เข้าร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทย ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี ไม่ได้ฟังคำถามจนจบ โดยรีบตัดบทและกล่าวว่า “ไม่ทราบ”
สำหรับเครื่องบินไพรเวตเจ็ท บอมบาดิเออร์ โกลบอล 7500 (Bombardier Global 7500) ทะเบียน T7-GTS ออกจากท่าอากาศยานดอนเมืองเวลา 19.17 น. ของเมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย ก่อนจะหันหัวไปทางทิศตะวันตกที่บริเวณรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ออกไปทางช่องแคบมะละกา ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วบินวน 2 รอบ บนมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับเกาะเกรทนิโคบาร์ แล้วไปทางประเทศอินเดีย ก่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานดูไบ เวิลด์ เซ็นทรัล (DWC) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงปลายทางเวลา 23.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 02.40 น. ของวันที่ 5 ก.ย. ตามเวลาในประเทศไทย รวมระยะทาง 4,885 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง 23 นาที
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีผู้โดยสาร 5 คน นอกจากนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้โดยสารคนที่ 4 แล้ว ยังมีผู้โดยสารประกอบด้วย 1. SIMALA CHARATPHAEO, 2. TAWATCHAI KLEBMEK, 3. PRATUEANG MONCHAIPUM และ 5. KAEWJAI SINGTHONG
โดยชื่อ SIMALA CHARATPHAEO คาดว่าน่าจะเป็น สิมลา จรัสแผ้ว ซึ่งในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่าทำงานที่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร, TAWATCHAI KLEBMEK คือ ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ เป็นอดีตนายทหารหน่วยซีลแห่งกองทัพเรือ ทำงานอารักขานายทักษิณมานานกว่า 20 ปี, PRATUEANG MONCHAIPUM คาดว่าน่าจะเป็น ประเทือง มอญชัยภูมิ ที่เคยถ่ายรูปคู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567 หลังวันเข้ารับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และ KAEWJAI SINGTHONG หรือ แก้วใจ สิงห์ทอง
พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 (ผบก.ตม.2) แถลงข่าวว่า เมื่อเวลา 16.50 น.วานนี้ ได้รับแจ้งจากบริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด (MJETS) ว่า จะมีผู้โดยสารเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว เพื่อเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ ปรากฎชื่อนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้โดยสาร เพื่อเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบข้อมูลในระบบ พบว่าไม่มีคำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไม่มีหมายจับคดีอาญา ส่วนคดีมาตรา 112 มีหนังสือจากศาลอาญา ลงวันที่ 22 ส.ค. แจ้งเพิกถอนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว จึงอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรตามกฎหมาย
อนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้นายทักษิณ ชินวัตร มาฟังคำสั่งศาล กรณีการบังคับโทษจำคุกแก่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ หรือคดีชั้น 14 พร้อมกับ นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.00 น.
