xs
xsm
sm
md
lg

สาวผวา! ไปแว็กซ์บราซิลเลียน พบช่างสวมแว่นตาบันทึกวิดีโอของ Meta

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สาวนิวยอร์กเซ็งแว่นอัจฉริยะบุกโลกส่วนตัว โชว์เรื่องจริงสุดช็อกจากห้องสปาที่ไปใช้บริการ Brazilian wax จนทำให้รู้สึกไม่สบายใจสุดขีด ตั้งคำถามเทคโนโลยีปลอดภัยแค่ไหน? ท่ามกลางเส้นแบ่งระหว่างความสะดวกสบายกับความเป็นส่วนตัวที่บางลงต่อเนื่อง

ต้นเรื่องของเหตุการณ์นี้คือ Influencer ชื่อ อานิเอสซา นาวาร์โร ซึ่งไปทำแว็กซ์ที่สปาแห่งหนึ่งใน Manhattan แต่สิ่งที่เธอพบทำให้รู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะช่างทำแว็กซ์ได้สวมแว่น Ray-Ban สีดำที่ดูธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาระหว่างให้บริการ

นาวาร์โรเล่าว่าไปใช้บริการ Brazilian wax ที่ European Wax Center เหมือนเดิม เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวพักผ่อน แต่พอเข้าไปในห้อง สิ่งที่เธอสังเกตเห็นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะแว่นของช่างนั้นเป็น Smart Glasses ของ Meta ที่มีราคา 350 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 12,000 บาท

แว่นตัวนี้มีความสามารถพิเศษหลายอย่าง สามารถบันทึกวิดีโอได้แบบไม่ต้องใช้มือ มีลำโพงบลูทูธ สามารถโทรและส่งข้อความผ่านคำสั่งเสียงได้ และที่สำคัญที่สุดคือ มีกล้องในตัว

ตอนแรกนาวาร์โรไม่ได้สงสัยอะไร แต่เมื่อคุยกับช่างไปสักพัก แล้วสังเกตเห็นแว่นแปลกๆ จึงถามไป ช่างคนนั้นตอบว่าเป็นแว่นสายตาธรรมดา แต่ไม่ได้เสียบปลั๊ก

แต่นาวาร์โรไม่วางใช้ เพราะเธอรู้ว่าแว่นรุ่นนี้ออกแบบมาให้มีไฟสัญญาณเล็กๆ เพื่อบอกว่ากำลังบันทึกอยู่ แต่ที่น่ากลัวคือ มีบางโพสต์ออนไลน์ที่อธิบายวิธีการปิดไฟสัญญาณนี้ แต่ยังคงสามารถบันทึกได้

แฟ้มภาพแว่น Meta
การทำ Brazilian wax นั้นเป็นบริการที่ต้องเปิดเผยร่างกายในส่วนที่เป็นความลับที่สุด ถ้าหากมีการบันทึกเกิดขึ้น นี่คือการละเมิดความเป็นส่วนตัวระดับสูงสุด ดังนั้นหลังจากกลับบ้าน นาวาร์โรยังคิดถึงเหตุการณ์นั้นอยู่เรื่อยๆ จึงตัดสินใจโพสต์คลิป TikTok เล่าเรื่องนี้ เพื่อขอคำแนะนำจากผู้ติดตาม

ผลตอบรับที่ได้ทำให้เธอตกใจ หลายคนแนะนำให้ติดต่อทนายความ หรือไปร้องเรียนกับสำนักงานใหญ่ของ European Wax Center

นาวาร่อเลยลองส่งอีเมลไปหาฝ่ายบริการลูกค้าก่อน แต่ได้รับการตอบกลับแบบมาตรฐาน หลังจากนั้นทางบริษัทบอกว่าจะติดต่อไปยังสาขานั้นเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อนาวาร์โรไปปรึกษาทนายความ 2 บริษัท ทนายทั้งสองบริษัทบอกว่าเธอมีมูลฐานเพียงพอที่จะฟ้องร้องได้ แต่เธอไม่อยากให้ใครตกงาน ถ้าหากช่างคนนั้นไม่ได้ทำผิดจริงๆ

สิ่งที่นาวาร์โรต้องการจริงๆ คือการสร้างความตรตื่นตัวเรื่องความเสี่ยงของ Smart Glasses ในสถานที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และผลักดันให้มีนโยบายที่ชัดเจนในการห้ามใช้อุปกรณ์บันทึกในสถานที่แบบนี้

แฟ้มภาพ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ขณะเปิดตัวแว่น Meta รุ่งแรกๆ
เมื่อเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมากขึ้น European Wax Center ออกมาแถลงการณ์กับ The Washington Post ว่าแว่นดังกล่าวได้ปิดเครื่องไปแล้วระหว่างการให้บริการ

***ซ้ำรอยต่อเนื่อง

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก โดยเฉพาะในช่วงที่ Google Glass เริ่มแนะนำ Smart Glasses มาตั้งแต่มากกว่า 10 ปีที่แล้ว โดยเทคโนโลยีนี้ไม่ได้รับความนิยมมากจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ และมีพัฒนาการต่อเนื่อง ซึ่งในขณะที่โลกกำลังคุยกันเรื่องความกังวลของ Smart Glasses อยู่นี้ Meta ก็กำลังเตรียมตัวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Meta Connect ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 กันยายน 2025

จากการเปิดเผยของ Meta พบว่างานปีนี้จะเน้นเรื่อง Smart Glasses เป็นหลัก โดย Mark Zuckerberg CEO ของ Meta จะขึ้นมาพูดในงาน keynote เรื่อง "AI glasses และวิสัยทัศน์ของ Meta สำหรับ AI และ metaverse"

ตามรายงานจากนักวิเคราะห์ supply chain ชื่อดัง Ming-Chi Kuo และหลายสำนักข่าว ชี้ว่า Meta กำลังเตรียม Smart Glasses รุ่นใหม่ที่มีจอแสดงผล โดยใช้ชื่อรหัสว่า 'Hypernova' คาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 800 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,000 บาท

Meta กำลังเตรียมตัวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Meta Connect ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17-18 กันยายน 2025
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลหลุดจากนักล้วงข้อมูลชื่อ 'Luna' ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าแว่นรุ่นนี้ (ชื่อรหัสอีกชื่อคือ 'Celeste') อาจจะไม่ได้ทำร่วมกับ Ray-Ban อย่างเดิม แต่เป็นโปรเจกต์เดี่ยวของ Meta เอง

สเปกที่น่าสนใจคืออาจมีจอ heads-up display แบบดูตาเดียว และที่พิเศษคือมาพร้อมกับตัวควบคุมหรือ controller ที่สวมที่ข้อมือ ใช้เทคโนโลยี EMG (electromyography) ที่อ่านสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อเพื่อควบคุมได้ ซึ่ง Andrew Bosworth ประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ Meta เคยให้สัมภาษณ์ว่างาน Connect 2025 จะมี "big wearables announcement" หรือการประกาศครั้งใหญ่เรื่องอุปกรณ์สวมใส่ได้ ในงานปีนี้

นี่แสดงให้เห็นว่า Meta กำลังผลักดัน Smart Glasses อย่างจริงจัง แต่ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่สปาก็เตือนเราให้ระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย ดังนั้น คำถามคือ เมื่อ Smart Glasses มีความสามารถมากขึ้น มีจอแสดงผล มี AI ในตัว โลกจะจัดการกับปัญหาความเป็นส่วนตัวอย่างไร? และสังคมของเราพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีนี้แล้วหรือยัง?


กำลังโหลดความคิดเห็น