xs
xsm
sm
md
lg

จีนยกย่อง “Flying Tigers” ฝูงพยัคฆ์เวหาประจัญบานจากอเมริกา ผู้ช่วยต้านทานการรุกรานของกองทัพซามูไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


พลโทแคลร์ ลี เชนนอลต์ ( 6 กันยายน ค.ศ. 1893 – 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1958 ) ภาพนี้ถ่ายขณะยศพลตรี – ภาพ : วิกิพีเดีย
มีชาวอเมริกันเพียงไม่กี่คน ที่ได้รับเชิญจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิงให้เข้าร่วมชมพิธีสวนสนามอันเกรียงไกรของกองทัพจีนเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 3 กันยายน

หนึ่งในจำนวนนี้ก็คือบุตรสาวและหลานสาวของนายพลแคลร์ ลี เชนนอลต์แห่งสหรัฐอเมริกา ผู้ก่อตั้งฝูงบินฟลายอิ้ง ไทเกอร์ส (Flying Tigers) หรือ “เสือบิน” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อกลุ่มอาสาสมัครอเมริกัน (AVG) แห่งกองทัพอากาศจีน ในปี พ.ศ. 2484 ( ค.ศ.1941)

ย้อนหลังไปในช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นาน จีนถูกกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์เหนือชั้นกว่า ทิ้งระเบิดถล่มเมืองต่าง ๆ ในจีนเป็นว่าเล่น นายพลเจียง ไคเช็ก ผู้นำจีนในเวลานั้นจึงว่าจ้าง แคลร์ เชนนอลต์ นักบินแห่งกองทัพบกสหรัฐฯ นอกราชการ ให้จัดตั้งกองกำลังทางอากาศขึ้นมาต่อสู้กับพวกญี่ปุ่น

โรเบิร์ต ที. สมิท นักบินของ Flying Tiger ถ่ายภาพฝูงบินของเขาขณะบินเหนือประเทศจีนเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2485 – ภาพ : แบรด สมิท
ตอนนั้นรัฐบาลประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลต์ยังวางตัวเป็นกลางในสงคราม

ตามข้อมูลบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Flying Tigers นั้น อันดับแรก เชนนอลต์ได้สร้างเครือข่ายเตือนภัยทางอากาศและสร้างฐานทัพอากาศทั่วประเทศจีน จากนั้น เดินทางไปสหรัฐฯโดยอาศัยคอนเน็กชั่นที่ดีในรัฐบาลรูสเวลต์เพื่อหานักบินกับเครื่องบินที่เหมาะสม และก็ได้เครื่องบินขับไล่เคอร์ติส พี-40 บี จำนวน 100 ลำ ซึ่งสร้างสำหรับอังกฤษ ส่งไปยังจีนแทน

อาสาสมัครหรือทหารรับจ้างชาวอเมริกันเหล่านี้ประกอบด้วยนักบิน ช่างเครื่อง และบุคลากรสนับสนุน ขับเครื่องบินรบ ที่มีสัญลักษณ์อันดุร้าย เป็นรูปฉลามอ้าปากกว้าง เห็นฟันแหลมคม สร้างวีรกรรมเป็นที่จดจำ โดยสูญเสียชีวิตอาสาสมัครไป 2,000 คน และสามารถยิงเครื่องบินขับไล่ฝ่ายญี่ปุ่นตกกว่า 2,600 ลำ ในการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินและเครื่องบินตั้งแต่จีนไปจนถึงพม่าและเวียดนาม ฝูงพยัคฆ์เวหาอเมริกันช่วยจีนต่อสู้กับการรุกรานของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างมาก และการต่อสู้ของพวกเขากลายเป็นตำนาน


ทหารจีนกำลังเฝ้าเครื่องบินขับไล่ P-40 Flying Tiger ของสหรัฐฯ ที่สนามบินแห่งหนึ่งในประเทศจีน - หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐอเมริกา
ต่อมา เชนนอลต์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพลจัตวาในกองทัพสหรัฐฯ และได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้นไปอีก

แม้ทุกวันนี้เกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตัน กับรัฐบาลปักกิ่ง แต่สายสัมพันธ์ที่อาสาสมัครชาวอเมริกันมีกับจีนเมื่อ 80 ปีก่อนยังคงมั่นคง


มีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับฝูงบินฟลายอิ้ง ไทเกอร์สไม่น้อยกว่า 6 แห่งในประเทศจีน เรื่องราวของพวกเขายังปรากฏในภาพยนตร์และการ์ตูนร่วมสมัยอีกด้วย


รูปถ่ายและชุดเครื่องแบบเก่าของ Flying Tigers จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์สงครามต่อต้านญี่ปุ่นในเขตต้าอี้ มณฑลเสฉวนของจีน เมื่อปีพ.ศ. 2548 – ภาพ : เอเอฟพี
อุทยานมรดกฟลายอิ้ง ไทเกอร์ส (Flying Tiger Heritage Park) ตั้งอยู่บนสนามบินเก่าในเมืองกุ้ยหลิน ซึ่งครั้งหนึ่งเชนนอลต์เคยมีฐานบัญชาการในถ้ำ

“ ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสัญลักษณ์ของฟลายอิ้ง ไทเกอร์ส จะยังคงปรากฏอยู่บนเวหาตราบเท่าที่จำเป็น และจะถูกจดจำตลอดไปบนสองฟากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในฐานะสัญลักษณ์ของประชาชนผู้ยิ่งใหญ่สองชาติซึ่งทำงานไปสู่เป้าหมายร่วมกันทั้งในสงครามและสันติภาพ” จากข้อความสุดท้ายในบันทึกความทรงจำของนายพลเชนนอลต์


พิธีเปิดผลงานประติมากรรม ชื่อ “ฟลายอิ้ง ไทเกอร์ส : ความผูกพันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ”เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  โดยแพตตี ลู เชนนอลต์ และเรย์มอนด์ รัสเซลล์ สมิท หลานสาวและหลานเขยของเชนนอลต์มาร่วมในงาน  ผลงานชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจจากรูปถ่ายของเชนนอลต์กับทหารจีนขณะกำลังเฝ้าป้องกันเครื่องบิน โดยจัดแสดงถาวรที่พิพิธภัณฑ์สงครามต่อต้านญี่ปุ่นใน เทศบาลนครฉงชิ่ง - ภาพ : ไชน่าเดลี
“จีนจะจดจำคุณูปการและการเสียสละที่สหรัฐฯ และประชาชนชาวอเมริกันมีต่อจีนในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองไว้เสมอ” หนังสือพิมพ์ People’s Daily Online ของรัฐบาลจีนระบุในบทความรำลึก

ที่มา : ไชน่าเดลี / ซีเอ็นเอ็น

กำลังโหลดความคิดเห็น