xs
xsm
sm
md
lg

ชายแดนจ่อระอุรอบใหม่! โซนชั้นในเกียร์ว่างไม่ได้ หลังมาเฟียอาทิตย์อุทัยก่อเรื่องกลาง “ธนิยะ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สภาวะการเมืองซึ่งเกิดสุญญากาศขึ้นในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับดราม่าเรื่องผลการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจครั้งล่าสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจือสมกับบรรยากาศที่ค่อนข้างร้อนระอุ ของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็กำลังรอการสุมฟืน ผันแปรเป็นเชื้อไฟ

ไม่รู้ยามไหน?! จะเกิดสงครามปะทุขึ้นรอบใหม่ให้คนไทยได้หวาดผวา ทว่าฝ่ายความมั่นคงทั้ง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง จำเป็นต้องทราบดี นอกจากการที่เราจะเข้มงวด กวดขัน ป้องกันอธิปไตย ตามรอยต่อพรมแดนระหว่างราชอาณาจักรไทย กับเพื่อนบ้าน ในทุกๆ ด้านแล้ว การเฝ้าระวังสถานการณ์ของบุคคลต่างด้าว ที่เราเปิดรับเข้ามา ทั้งในฐานะ นักท่องเที่ยว แรงงาน แม้กระทั่งสถานะนักเรียน นักศึกษา ที่อาจกลายร่างเป็นอาชญากรได้ทุกเมื่อ ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ดังเช่นเหตุการณ์เมื่อกลางดึกวันที่ 29 สิงหาคม ต่อเนื่องเที่ยงคืน วันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทีมข่าว MGR ONLINE ได้รับเบาะแสจากผู้ขับขี่รถโดยสาร ผู้เป็นแฟนข่าว ขณะกำลังตระเวนขับรถ รอรับ-ส่ง นักท่องเที่ยว ในพื้นที่ซอยธนิยะ ย่านสีลม เขตรับผิดชอบ สน.บางรัก! เจ้าของเรื่องบอกให้ฟังว่า คืนนั้นเกิดการรวมตัวกันของเหล่าพีอาร์สาว ที่เป็นพนักงานบาร์ญี่ปุ่น ในซอย จำนวน 2-3 ร้าน แบ่งฝ่ายถาโถม โรมรัน ตบตีกัน จับใจความได้ว่า “ชนวนเหตุมาจากเรื่องการแย่งลูกค้า”


ภาพกลุ่มสาวๆ แต่งกายเซ็กซี่ ในอากัปกิริยา ตั้งการ์ดก่อนพุ่งเข้าตะลุมบอน ส่งเสียงด่าทอ เอะอะโวยวายใส่กัน สร้างความตระหนกตกใจให้กับเหล่านักท่องเที่ยวสารพัดเชื้อชาติ นักท่องเที่ยวเหล่านั้น อุตส่าห์แวะเวียนมาแสวงหาความสุนทรีย์ที่ซอยธนิยะ แต่กลับรู้สึกเสมือน ว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางสมรภูมิชายแดนไทยกับกัมพูชา

เหตุการณ์โกลาหลไม่ต่างจากพื้นที่ อานม้า หรือ ช่องบก ในภาพข่าว! เคราะห์ดีที่หลังสงบศึก ไม่มีใครเจ็บหนัก ล้ม ตาย ไม่มีทรัพย์สินของทางราชการ หรือสินทรัพย์ของชาวบ้านในละแวกนั้นได้รับความเสียหาย แม้คู่กรณี พีอาร์สาวๆ ในสังกัดผู้ประกอบการทุกฝ่าย ซึ่งก่อเรื่องพิพาทกันในค่ำคืนนั้น จะมีรอยจ้ำ คราบริ้วกรงเล็บ จากฝ่ายตรงข้ามประทับกันมา คนละเล็ก ละน้อย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครเลือกเดินขึ้นโรงพักเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดี?!

เข้าใจว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ของผู้ประกอบการแต่ละราย ที่มีหุ้นส่วน เป็นทั้ง นายทหาร นายตำรวจ ทั้งนอกและในราชการ น่าจะเลือก “แนวทางไกล่เกลี่ย เกี้ยเซี้ย” ร้องขอให้ยุติกันด้วยดี เป็นที่เรียบร้อย ในสภาพเศรษฐกิจ ที่มันวิกฤติตามปัญหาบ้านเมือง กับภาวะสงครามตอนนี้ ก็เป็นที่อิดหนาระอาใจ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ทำมาหากินกันอย่างลำบากลำบน คงไม่มีใครเลือกที่จะบากหน้าไปชนกันต่อบนโรงพัก


ซอยธนิยะ มีประวัติความเป็นมา ในฐานะตำนานถนนสายเศรษฐกิจเส้นเลือดหลักของไทย มาตั้งแต่สมัย พ.ศ.2513 โดยเฉพาะ ธนิยะ พลาซ่า ที่เคยเป็นศูนย์รวมด้านกีฬากอล์ฟใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแหล่งรวมตัวของนักธุรกิจญี่ปุ่น พี่ยุ่นจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่ข้ามน้ำ ข้ามทะเล มาทำมาหากินกับคนไทย ตั้งแต่สมัยนั้น ที่สำคัญเป็นสถานที่ก่อเกิดร้านคาราโอเกะในประเทศไทย ครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2520

ก่อนจะพัฒนาจนเป็นสถานบริการ “บาร์ญี่ปุ่น” มาจวบจนถึงปัจจุบัน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ยังมี “มาเฟียญี่ปุ่น” ที่คอยสืบทอดอำนาจ คอยอยู่เบื้องหลัง บงการขับเคลื่อนธุรกิจ สีขาว สีเทา สีดำ ชนิดต่างๆ บนถนนธนิยะ แหล่งข่าวที่เป็นแค่ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ แต่ทำมาหากินอยู่ในซอยมาเกือบค่อนชีวิต บอกด้วยว่า แผนประทุษกรรมของมาเฟียแดนอาทิตย์อุทัย ก้าวหน้า เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะสังคมแห่งโลกโลกาภิวัฒน์ อย่างเวลานี้ มีขาใหญ่ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม “มิสเตอร์ยูกิ” กับ กลุ่มลิ่วล้อ อาทิ มิสเตอร์บูยะ มิสเตอร์ไดจิ และ มิสเตอร์ไคจิ


ซึ่งคนเหล่านี้เข้าราชอาณาจักรไทย มาในฐานะนักศึกษา ถือวีซ่า มาขอเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน ในเมืองไทย ที่ไหนได้กลับมาตั้งแก๊งรวมพลคนมิจฉาชีพ ตามแบบฉบับ “ไอ้ยุ่นมาเฟีย”ทำมาหากินประกอบธุรกิจโซนสีเทา บนถนนธนิยะ ตั้งก๊วนยึดอาชีพไกด์เถื่อน ขายบุหรี่ไฟฟ้า เป็นธุระจัดหาหญิงบริการให้กับนักท่องเที่ยว หากลูกค้าเป้าหมายรายใด แสดงอาการปฏิเสธไม่ยินดีที่จะใช้บริการ ก็มักจะโดนข่มขู่คุกคามทางวาจา บางรายหนักกว่า ถูกวิ่งตามยกพวกรุมทำร้าย

โดย “มิสเตอร์ยูกิ” จะรับหน้าที่เป็นตั้วโผ เคลียร์ทาง ประสานเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้พรรคพวกเดินเหินกันได้สะดวก ทุกๆ คืนบนถนนธนิยะ จึงมักเห็นภาพ “มิสเตอร์ยูกิ” ถือวิทยุสื่อสารสั่งการ ให้ลูกสมุนมาเฟีย คอยทำนั่น โน่น นี่ จนชินตา ที่สำคัญเหตุการณ์สาวๆ พีอาร์ฟัดกันอุตลุต กลางถนนรอบล่าสุด ก็เป็นผลพวงมาจาก การบลัฟแย่งลูกค้ากันเอง ของทีมไกด์เถื่อนในความปกครองของ “มิสเตอร์ยูกิ” ผู้นี้ นี่แค่คนขับรถจ้างยังมีข้อมูลเชิงลึกขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ทั้งตรวจคนเข้าเมือง ทหาร ฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะ ตำรวจ สน.บางรัก ในความรับผิดชอบกองบังคับการนครบาล 6 จะรอให้ "มาเฟียญี่ปุ่น" แสดงแสนยานุภาพ ก่อวีรกรรม สร้างเวร มากกว่านี้ ไม่คิดที่จะรับรู้อะไรกันเลยจริงๆ หรือ?!
กำลังโหลดความคิดเห็น