เพื่อไทยขู่ยุบสภาหากประชาชนไม่หนุน 'ชัยเกษม' ประชาชนโต้เชิญยุบเลยไม่ต้องรอ 'ประเสริฐ' ชี้ยุบสภาทางออกหนึ่งหากบ้านเมืองตัน 'พริษฐ์' ย้ำเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภาอยู่แล้ว ประชาชนยันไม่ไว้ใจทั้งเพื่อไทยและภูมิใจไทย รอสรุป 2 ก.ย. นี้
ไม่รู้ว่าระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน จะร่วมรัฐบาลกันหรือจะหาเรื่องทะเลาะกันรายวัน ภายหลังแกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาประกาศขู่ยุบสภาผู้แทนราษฎรเป็นระยะ หากพรรคประชาชนไม่ยกมือสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดทของพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ พรรคประชาชน ประกาศตอบโต้เช่นกันว่าพรรคเพื่อไทยสามารถยุบสภาฯได้เลยไม่ต้องรอฟังมติจากพรรคประชาชน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคม แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เรื่องการยุบสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นทางออกทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้บ้านเมืองเกิดทางตัน สมมติเกิดกรณีพรรคประชาชน ไม่ตัดสินใจร่วมมือกับพรรคใดเลย ถ้าเกิดแบบนี้จะทำอย่างไร ถ้าเขาไม่เดินทางไหนเลย แบบนี้บ้านเมืองจะไปอย่างไรต่อ ซึ่งทางออกเรื่องการยุบสภาก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าสามารถทำได้และทำไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญด้วย ในอนาคตคงจะต้องมีความชัดเจนในประเด็นนี้ด้วย
ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาาณ์ตอบโต้ว่า ความจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องรอให้พรรคประชาชนตัดสินใจ ก็สามารถดำเนินการยุบสภาได้ เนื่องจากมาถึงวันนี้ เราก็ยังคงยืนยันว่า ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี อำนาจในการยุบสภายังอยู่ในนายภูมิธรรม เวชยชัย และพรรคเพื่อไทย จึงขอย้ำกับประชาชนว่า เหตุผลที่เราต้องมาประชุมด้วยความหนักใจ ณ เวลานี้ เพราะก่อนหน้านี้จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการยุบสภา ดังนั้น เราจึงต้องหารือว่า เราจะสามารถใช้เสียงของเรา 143 เสียงในสภาอย่างไร เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ไปทำหน้าที่ไปยุบสภา
"เราเรียกร้องให้มีการยุบสภา ตั้งแต่วันที่มีคลิปเสียง องค์ประกอบของรัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถทำให้เรามีรัฐบาลที่มีคุณสมบัติในแก้ไขปัญหาประเทศได้ ทั้งความเชื่อใจทางการเมือง เสถียรภาพ รวมถึงศักยภาพการแต่งตั้งคนเข้ามาขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ยากๆ ของประเทศ ซึ่งเรายังคงยืนยันในจุดเดิมว่า เราเรียกร้องการยุบสภามาตลอด"
ขณะที่ การประชุมของพรรคประชาชนในการพิจารณาท่าทีของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยว่า เนื่องจากมี สส.มาร่วมประมาณ 90 กว่าคน หรือ 60 เปอร์เซ็นต์ของ สส.ทั้งหมด เพราะว่าหลายคนมีการติดภารกิจที่นัดไว้ล่วงหน้า ทั้งกรรมาธิการ และในพื้นที่ แต่คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะมี สส.เข้าร่วมประชุมมากกว่าเดิม
"พูดตรงๆ ไม่ไว้ใจทั้งคู่ แต่ก็ต้องมาประเมินความเสี่ยงกัน ว่าจากสาระและท่าทีที่เราเห็น ชั่งวัดกันด้วยหลักฐานว่า อันไหนมีความเสี่ยงน้อยกว่า ยืนยันว่าตัดสินใจด้วยเหตุและผล ไม่เอาอารมณ์มาตัดสิน เพราะถ้าเราทำเช่นนั้น บางคนก็มีความรู้สึกว่า พรรคเพื่อไทยก็ฉีก MOU ร่วมรัฐบาล ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็อภิปรายตอนโหวตคุณพิธาเป็นนายกฯ ย้ำว่าจะทำให้ประเทศนี้มีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน เพื่อแก้ปัญหาประชาชนโดยเร็ว"
นายพริษฐ์ ย้ำว่า พรรคประชาชนไม่ลืมอยู่แล้ว แต่เราไม่เอาอารมณ์มาเป็นตัวตัดสิน แม้ไม่ไว้วางใจก็ต้องคุยกันได้ข้อสรุปในวันที่ 2 กันยายน