ยืนยัน “พล.ท.สรัย ดึก” รอง ผบ.ทบ.กัมพูชา เสียชีวิตแล้ว ขณะไปตรวจแนวรบ โดน F-16 ทิ้งระเบิดลงพอดี แต่ “ฮุนเซน” สั่งปิดข่าว กลัวเสียหน้า แม้จะเคยเป็นทหารคู่ใจตั้งแต่อยู่กับเขมรแดง งานศพก็ไม่ไปร่วม กลัวเป็นข่าวเอิกเกรืก ส่งแค่ลูกสาวไปแทน
แหล่งข่าวในกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ว่า พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ในฐานะผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 เสียชีวิตแล้วในช่วงสู้รบกับกองทัพไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่วันต่อมาทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยอ้างว่า พล.ท.สรัย ดึก ยังคงอยู่กับกองทัพกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไป 1 เดือน ก็ยังไม่เห็นการปรากฏตัวของ พล.ท.สรัย ดึก แต่อย่างใด และเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจ “กองทัพบก ทันกระแส” ได้โพสต์ภาพประกอบข้อความว่า “เสียหน้าไม่ได้ แหล่งข่าวเชื่อถือได้ให้ข้อมูลว่า พล.ท.สรัย ดึก รอง ผบ.ทบ./ผบ.พล.สสน.3 เสียชีวิตแล้ว ขณะไปตรวจแนวรบ เจอไข่ F-16 ลงพอดี จัดงานศพแบบปกปิด และกัมพูชาปิดข่าว เพราะไม่อยากให้ทหารตนเองเสียขวัญ (ขอแสดงความเสียใจในฐานะทหารที่เสียสละรบในทุกสมรภูมิ และขอประณามฮุนเซนที่กลัวเสียหน้า จนไม่ให้เกียรติลูกน้องคนสนิท)”
ซึ่ง ทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกมาปฏิเสธทันที โดยอ้างว่า ข่าวที่โพสต์ในเพจ “กองทัพบก ทันกระแส” เป็นข่าวปลอม
ล่าสุด เฟซบุ๊ก “Wassana Nanuam” ของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์ข้อความว่า “พล.ท.สรัย ดึ๊ก” แม่ทัพใหญ่แห่งพระวิหาร-ข่องบก สังเวย ไข่ F16 เสียชีวิตแล้ว จริงหรือไม่??
ข่าวจากหน่วยข่าวใน ทบ.ไทย ยืนยันว่าเสียชีวิต แต่ข่าวจากฝั่งเขมรยังยืนยันว่ายังไม่ตาย
ข่าวนี้ ออกมาอีกครั้ง เพราะพบความเคลื่อนไหวบางประการหลังเคยมีข่าวว่า บาดเจ็บสาหัสในการสู้รบวันสุดท้าย จากการถูกโจมตีทางอากาศ ด้วย F16 ของ ทอ.ไทย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ทางการเขมรปิดข่าว หวั่นทหารเขมรเสียขวัญ โดยกลาโหมเขมรอ้างว่าเป็นข่าวปลอม
แต่มาตอนนี้ มีรายงานข่าวจากหน่วยความมั่นคงของ ทบ.พบว่า มีรายงานว่าเพิ่งจัดพิธีศพให้เมื่อเร็วๆ นี้ที่อำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร
“ฮุนเซน” ไม่มาร่วมพิธี แม้เป็นแม่ทัพชายแดนคู่ใจ ตั้งแต่สมัยเขมรแดง ก็ตาม
“ฮุนมาเนต” ก็ไม่มา หวั่นเป็นข่าวแพร่หลาย
มอบ “ฮุน มานา” (ลูกสาวฮุนเซน) ร่วมพิธีแทน จึงสรุปว่า มีแนวโน้มว่าเสียชีวิตจริง
เผย ”ฮุนเซน“ จึงมอบ ”พล.ท.ฮิง บุนเฮียง“ ผบ.กกล.พิทักษ์ฮุนเซน BHQ ทหารเมือง มาช่วยคุมชายแดนเสริมอีกแรง พร้อมกำลังทหาร BHQ ไม่ต่ำกว่า 5 พันนาย แม้ในห้วงการสู้รบ จะสูญเสียไปไม่น้อยก็ตาม
โดยจะเห็นว่า ที่ผ่านมา ทหาร BHQ ที่สวมหมวก Fast พร้อมยูนิฟอร์มครบชุด มาประจำการหน้าแนว เสริมกำลังทหารบ้าน และทหารในพื้นที่ โดยใช้โดรนในการบินลาดตระเวน และทำหน้าที่วางทุ่นระเบิดใหม่ดักทหารไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวภายในกัมพูชาว่า สมเด็จฮุนเซน ไม่พอใจการที่ พล.ท.สรัย ดึ้ก สั่งทหารเขมรถอยออกจากพื้นที่ช่องบก จากแนวต้นพญาสัตตบรรณ เขตแดนไทย ที่ทหารเขมรล้ำมาวางกำลังราว 150 เมตร แล้วยังถอยไกลออกไปอีก 600 เมตร กลับไปที่แนวศาลาตรีมุขเดิม เมื่อ 8 มิ.ย.2568 หลังเจรจากับ ทหารไทย แต่ท้ายที่สุดฝ่ายไทยก็ไม่ยอมเปิดด่าน เสมือนว่าถูกหลอกให้ถอย แต่ทว่า ในการเจรจาครั้งนั้น ฝ่ายไทยไม่ได้มีการเจรจาตกลงเรื่องจะเปิดด่านแต่อย่างใด เพราะการเปิดด่านเป็นระดับนโยบาย
แต่การถอนกำลังครั้งนั้น ทหารเขมรไม่ได้ถอยเปล่าๆ แต่ได้วางทุ่นระเบิดไว้จนต่อมา ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดคนแรก ที่ทำให้ฮุนเซนเลิกบ่น
การเสียชีวิตของระดับแม่ทัพนายกอง ทั้ง พล.ท.สรัย ดึ๊ก รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.พล.สนับสนุนที่ 3 และ พลตรี ดวง ซอมเนียง ผบ.พลเคลื่อนที่เร็วที่ 7 ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กัมพูชาต้องปรับโผระดับแม่ทัพนายกองชายแดนใหม่ พร้อมเสริมกำลังพร้อมปะทะรอบ 2