xs
xsm
sm
md
lg

พท.ไฟเขียวถก MOU43–44 แต่ขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายล้ำเส้น–เขมรรู้ทาง ฝ่ายค้านซัดปิดหูปิดตาปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“เพื่อไทย” ไฟเขียวถก MOU43–44 แต่ขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายล้ำเส้น–กัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านซัดเท่ากับปิดหูปิดตาประชาชน

วันนี้ (28 ส.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติด่วนที่เสนอโดย 4 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน พรรคเป็นธรรม และพรรคเพื่อไทย ให้สภาฯ พิจารณาประเด็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเกี่ยวข้องกับบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544

ก่อนเข้าสู่การพิจารณา นายวัชระพล ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในนามวิปรัฐบาล ระบุว่า ไม่ขัดข้องที่จะให้พิจารณาญัตติดังกล่าว แต่เสนอให้ประชุมลับ โดยให้เหตุผลว่าบางประเด็นมีความอ่อนไหว อย่างไรก็ดี ส.ส.ฝ่ายค้านทักท้วงว่า เนื้อหาของ MOU ทั้งสองฉบับถูกเผยแพร่มากว่า 20 ปีแล้ว การประชุมลับจึงเสมือนเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่า เหตุผลที่ต้องขอประชุมลับเพราะเกรงว่าจะควบคุมการอภิปรายไม่ได้ และอาจสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายว่า นักการเมืองมีเสรีภาพในการพูด แต่บางเรื่อง เช่น ความมั่นคงและประเด็นความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ต้องใช้วุฒิภาวะสูง หากอภิปรายล้ำกรอบอาจยั่วยุและกระทบอำนาจต่อรองของไทย พร้อมย้ำว่าการประชุมลับไม่ใช่เรื่องผิด เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และไม่ใช่การปิดหูปิดตาประชาชน แต่เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

ในที่สุด นายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ วินิจฉัยว่า การเสนอให้ประชุมลับต้องมีเสียงรับรองอย่างน้อย 1 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด หรือ 123 เสียง ผลการลงมติปรากฏว่า มีผู้เห็นชอบให้ประชุมลับ 198 เสียง ที่ประชุมจึงตกลงให้พิจารณาญัตติดังกล่าวในรูปแบบการประชุมลับ กลัวผู้เสนอญัตติแถลงเสร็จสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น