สวีเดนเปิดเผยในวันจันทร์(25ส.ค.) ได้ลงนามในข้อตกลงขายเครื่องบินขับไล่กริพเพน 4 ลำ ที่ผลิตโดยบริษัท Saab แก่ประเทศไทย โดยจะมีการส่งมอบล็อตแรกในปีนี้ ความเคลื่อนไหวที่ทำให้หุุ้นของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติสวีเดนดีดขึ้นทันที 3%
รายงานของรอยเตอร์อ้างคำกล่าวของ มิคาเอล แกรนโฮล์ม อธิบดีองค์การบริหารจัดการ ยุทธภัณฑ์ทางทหาร (Defence Materiel Administration) ของสวีเดน ระบุในถ้อยแถลงว่า "ข้อตกลงนี้จะช่วยเสริมโอกาสการพัฒนาในระยะยาวสำหรับเครื่องบินรบสวีเดน"
ส่วนบริษัท Saab เปิดเผยในถ้อยแถลงแยกกัน ระบุว่ามูลค่าคำสั่งซื้อ ซึ่งในนั้นประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่กริพเพน อี จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินขับไล่กริพเพน เอฟ จำนวน 1 ลำ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ การสนับสนุนและการฝึกฝน อยู่ที่ราว 556 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ประมาณ 18,000 ล้านบาท) และการส่งมอบจะมีขึ้นในช่วงปี 2025 ถึง 2030
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ไทย มีฝูงบินกริพเพน ซี/ดี ประจำการอยู่ก่อนหน้าแล้ว 1 กองบิน ในขณะที่ความเคลื่อนไหวสั่งซื้อเพิ่มเติมล่าสุด ช่วยดันหุ้นของบริษัท Saab ดีดตัวขึ้น 3% ในช่วงสายของการซื้อขายในวันจันทร์(25ส.ค.)
นอกเหนือจากเครื่องบินกริพเพน อี และกริพเพน เอฟ เช่นเดียวกับอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนและการฝึกฝนแล้ว ทาง saab.com เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทผู้ผลิต เปิดเผยด้วย Saab ยังได้ลงนามกับกองทัพอากาศไทย ในการมอบข้อเสนอการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Offset) ระยะยาวแก่ไทยด้วย ส่วนหนึ่งในแผนการซื้อเครื่องบิน ในนั้นรวมถึงการถ่ายโอนเทคโนโลยีป้องกันตนเองอันสำคัญและความร่วมมือทางอุตสาหกรรมกับไทย รวมไปถึงการลงทุนใหม่ในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจไทย
"เรายินดีกับไทย ในฐานะลูกค้ารายล่าสุดสำหรับเครื่องบินกริพเพนอี/เอฟ ไทยเป็นผู้ใช้กริพเพนที่ลงหลักปักฐานเป็นอย่างดีแล้ว และคุ้นเคยกับความเข้มแข็งต่างๆนานาที่กริพเพนนำพาสู่กองทัพไทย ไทยเลือกเครื่องบินขับไล่ทันสมัยที่สุดในตลาด ที่จะช่วยเสริมสร้างยุทธศาสตร์สมัยใหม่และศักยภาพที่เป็นอิสระ" ไมเคิล โจฮันส์สัน ประธานและซีอีโอของ Saab กล่าว
ในด้านเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของกองทัพอากาศไทย รายงานว่าทางกองทัพอากาศ ลงนามสัญญาแบบรัฐบาลกับรัฐบาล "ไทย - สวีเดน" ในการจัดหาเครื่องบินกริพเพน อี/เอฟ ระยะที่หนึ่ง เพื่อเสริมแกร่งอำนาจทางอากาศปกป้องประเทศ
รายงานของกองทัพอากาศระบุว่า พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ลงนามข้อตกลงกับ แกรนโฮล์ม และ โจฮันส์สัน เพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่จำนวน 4 เครื่อง โดยมีนาย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย และ ปาล จอนสัน เป็นสักขีพยาน
กองทัพอากาศไทยระบุว่าการลงนามครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านการป้องกันประเทศของทั้ง 2 ชาติ และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การลงทุน อุตสาหกรรม การศึกษา นวัตกรรม และเทคโนโลยี ผ่านการลงนามแพ็คเกจชดเชย (Offset Package) ทางอุตสาหกรรมควบคู่กัน
"#กองทัพอากาศ ขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจ โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนภายใต้ชื่อ Peace Burapha (บูรพาสันติ) ในการเข้าประจำการทดแทนเครื่องบิน F-16 ฝูงบิน 102 กองบิน 1 ครั้งนี้ จะดำเนินการด้วยความโปร่งใส เพื่อเสริมขีดความสามารถการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติ และพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ" ถ้อยแถลงระบุ
(ที่มา:saab.com/รอยเตอร์)