ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว แจงพื้นที่ป่าบ้านหนองจาน คือพื้นที่บางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด ยันจะใช้กฎหมายทวงคืนให้ได้ ด้าน "วีระ สมความคิด" จวกยับทหารและเจ้าหน้าที่ละเว้นมานาน ไม่ได้ช่วยชาวบ้านเลย ปล่อยให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชามานาน 40-50 ปี กังขายังไม่ถึงหลักเขตแดนถูกจับได้อย่างไร
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีพื้นกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ระบุว่า ก่อนอื่นต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ทำให้มาในวันนี้ ทิ้งไร่ทิ้งนากันมา เนื่องจากมีความเข้าใจผมผิดว่า ผมพูดไปบอกว่าพี่น้องไม่มีเอกสารสิทธิ์ บางส่วนก็บอกว่าน้อยใจผู้ว่าฯ ต้องเล่าให้ฟังก่อน เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) เป็นวันที่คณะผู้สังเกตการณ์ ผู้ช่วยทูตทหารมากันหลายคน แล้วก็เป็นการประชุม RBC ช่วงเช้า พอตอนบ่ายก็มีการพบปะกับผู้ช่วยทูตทหาร โดยมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นประธาน เป็นคนเชิญผู้ช่วยทูตทหารมาและมีพื้นที่เป้าหมายที่จะมาดูว่าแปลงที่พี่น้องประชาชนชาวกัมพูชาบุกรุกพื้นที่ประเทศไทยอยู่ตรงไหน แล้วเข้าไปดู แต่ระหว่างนั้นก็ได้มีการพูดคุยสอบถามกัน แล้วก็ให้แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดใจ
พอช่วงท้ายๆ ก่อนที่จะลงมาดูพื้นที่หนองจานบ้านเรา ก็มีการถามแม่ทัพภาคที่ 1 ว่า แล้วตรงพื้นที่ที่มีปัญหามีเอกสารสิทธิ์หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 1 ก็บอกว่าขออนุญาตให้ผู้ว่าฯ ตอบ ผมก็ตอบแทนแม่ทัพภาคที่ 1 ว่าในพื้นที่สามเหลี่ยม ขออนุญาตให้พวกเราและสื่อมวลชน วันนั้นเป็นการมาดูพื้นที่สามเหลี่ยมสีฟ้าในจอ ผมก็ตอบในขอบเขตพื้นที่สามเหลี่ยมสีฟ้าในสองประเด็น 1. ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ในสีฟ้ามีบ้านเรือนกัมพูชาอยู่ 2. ผมก็บอกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ป่า วันนี้จะมาขยายความทั้งหมด 3. ผมก็บอกไปหมู่บ้านที่กัมพูชาเขาอยู่ ไม่ได้ใช้น้ำ ใช้ไฟจากประเทศไทย ไม่มีการออกบ้านเลขที่ แล้วก็ไม่มีการออกบัตรประชาชนให้ทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจ พี่น้องสื่อมวลชนว่าทำไมผมถึงตอบอย่างนี้ เฉพาะในพื้นที่สามเหลี่ยมนี้ ไม่ใช่ในพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน เป็นการชี้แจงในที่ประชุมซึ่งมีผู้ช่วยทูตทหารทั้งหมด ผมก็ต้องตอบในกรอบที่เขามาดู ตอบในกรอบที่เขาถาม
ต้องเรียนว่าในพื้นที่สามเหลี่ยม เป็นพื้นที่ที่ท่านรู้ประวัติกันดีอยู่แล้ว ทั้งพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งสื่อมวลชนที่ได้เผยแพร่ไปว่าทางกัมพูชาเข้ามาตั้งแต่สมัยสงครามอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ในพื้นที่ตรงนี้เป็นอำเภอโคกสูง บ้านหนองจาน ฝั่งตรงข้ามเป็นอำเภอโอโจโร (จังหวัดบันเทียมินเจย ประเทศกัมพูชา) คนในพื้นที่ทราบอยู่แล้ว ก็เรียนพี่น้องสื่อด้วยว่าในพื้นที่ตรงข้ามเขาได้เข้ามาอยู่ แล้วก็เป็นที่บุกรุก โดยมีครอบครัวประมาณ 170 ครอบครัว ลักษณะนี้อย่างที่กองทัพภาคที่ 1 ได้ล้อมรั้วลวดหนามแล้ว ก็ยังมีคนอยู่ประมาณ 600 คน มีบางส่วนที่ยึดคืนกลับมา ก็ขอให้ดูภาพแผนที่ในสามเหลี่ยมเป็นหลัก
ต่อมาผู้ว่าฯ สระแก้วได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงแต่ละประเด็น อาทิ กองกำลังบูรพา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว ป่าไม้จังหวัดสระแก้ว โดยระหว่างนั้น ผู้ว่าฯ สระแก้ว ได้ย้ำกับสื่อมวลชนสำนักหนึ่ง ที่สอบถามเรื่องไม่มีเอกสารสิทธิ์ ยืนยันว่าเฉพาะพื้นที่หมายเลข 2 ตามแผนที่ เพราะเขามาดูพื้นที่หมายเลข 2 มาถามแม่ทัพภาคที่ 1 ตนก็ตอบเฉพาะพื้นที่หมายเลข 2 ยืนยันว่าไม่ได้ตอบว่าทั้งหมู่บ้านหนองจาน เฉพาะพื้นที่สามเหลี่ยมเท่านั้น ซึ่งพื้นที่อยู่นอกเอกสารสิทธิ์เป็นพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ก็จะมีกฎหมายตามมา ส่วนการลงทะเบียนได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดิน หากตอบมาเร็วคนที่ถือเอกสารสิทธิ น.ส.3 และหลักเขตที่ 46 ก็จะเป็นโฉนดที่ดินเลย
ส่วนกรณีพื้นที่อ้างสิทธิทั้งหมดได้แบ่งประเภท 3 พื้นที่ และแนวถนนศรีเพ็ญเข้ามา ยืนยันว่าเข้ามาทำกินได้จนกระทั่งถึงเส้นสีฟ้าที่กองกำลังบูรพาล้อมเอาไว้ ยืนยันว่าไม่ใช่เขตประเทศ ส่วนพื้นที่ทุ่นระเบิด บริเวณหลักเขตที่ 48 เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเขมรแดง ยังไม่ได้เก็บกู้ จึงเข้าไปรังวัดและทำกินไม่ได้ อย่าเข้าไป ซึ่งชาวบ้านหนองจานทราบดีเพราะรู้ว่ามีทุ่นระเบิด ที่ผ่านมามีเรื่องข้อตกลงอยู่ มีพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังทำอะไรไม่ได้ ส่วนข้อมูลในพื้นที่สามเหลี่ยม ยืนยันว่าเป็นประเทศไทย ไม่ได้บอกว่าตรงไหนไม่ใช่ประเทศไทยเลย ผม กองทัพภาคที่ 1 และป่าไม้ จะเอาคืนพื้นที่หมายเลข 2 ทุกท่านทราบทุกตารางนิ้วในประเทศไทยมีกฎหมายทั้งนั้น
"ผมในฐานะผู้ว่าฯ สระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 กรมป่าไม้ อำเภอโคกสูง และทุกส่วนราชการ รวมทั้งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะนำพื้นที่หมายเลข 2 กลับมาให้พี่น้องประชาชนคนไทย เหตุผลคือ หมายเลข 2 มันเป็นแปลง 2484 (พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484) คนต่างชาติไม่มีสิทธิ์เข้ามาทำกิน เขาจะอยู่กันกี่ปีก็แล้วแต่ จะย้อนหลังไปกี่สิบปีก็แล้วแต่ แต่ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เมื่อผมบอกกับทุกท่านแล้วว่า ไม่มีเอกสารสิทธิ์และเป็นพื้นที่ป่า ผม ทางป่าไม้ก็ต้องดำเนินคดี เพื่อที่จะเอาพื้นที่แปลงหมายเลข 2 กลับมา ผมได้หารือในวิธีการปฎิบัติกับทางกองกำลังบูรพาแล้ว เราล้อมรั้วอยู่ เพื่อไม่ให้เขารุกล้ำเพิ่มเติม แต่ว่าในอนาคตสถานการณ์จะเป็นอย่างไร จะเลิกแล้วต่อกันหรือจะอะไรก็ตาม ผมก็ยังต้องเอากลับมาให้พี่น้องประชาชนคนไทยอยู่ดี เพราะเลข 2 เป็นพื้นที่ประเทศไทย แล้วเขาจะอ้างไม่ได้เพราะมันอยู่นอกเส้นสีแดง มันอยู่นอกพื้นที่อ้างสิทธิ์ ขอยืนยันต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนงว่า เมื่อพบข้อเท็จจริงอย่างนี้ ... ก็คาดหวังว่าทุกท่านจะช่วยเอาผืนดินประเทศไทยกลับมาจากคนกัมพูชา ซึ่งมาบุกรุกที่ทำกิน มาบุกรุกพื้นที่ดินแดนของประเทศไทย ผมให้สัญญา" ผู้ว่าฯ สระแก้ว กล่าว
ด้านนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ซึ่งเดินทางมาดูข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง กล่าวว่า ได้ฟังข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว วันนั้นที่มีปัญหาความเข้าใจผิด เนื่องจากผู้ว่าฯ ไม่ได้เน้นพื้นที่สามเหลี่ยมสีฟ้าอย่างชัดเจน คนทั้งประเทศจึงเข้าใจผิดว่า พื้นที่บ้านหนองจานทั้งหมดไม่มีเอกสารสิทธิ์ แล้วผู้ว่าฯ สระแก้วไม่ได้อธิบายหรือชี้แจงอย่างละเอียดว่า พื้นที่หมายเลข 2 ที่ผู้ว่าฯ สระแก้วยืนยันว่าไม่มีเอกสารสิทธิ์และผู้ว่าฯ กำหนดว่าเอกสารสิทธิ์ในความเข้าใจของผู้ว่าฯ ต้องมีโฉนดเท่านั้น แต่ในความเข้าใจของชาวบ้าน เข้าใจว่าพื้นที่ทั้งหมดมีเอกสารสิทธิ์ นส.3 นส.2 สค.1 เขาเข้าใจว่าเขาก็มีสิทธิ เพราะไม่เช่นนั้นทางราชการคงไม่ออกหนังสือรับรองให้เข้าไปทำประโยชน์
เมื่อได้ฟังทาง พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (กองกำลังบูรพา) กล่าวว่า มีพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ทับซ้อนเข้ามาในประเทศไทย ผู้ว่าฯ และทหารกล่าวว่าพื้นที่ล้อมลวดหนามถึงถนนศรีเพ็ญเป็นพื้นที่ของไทย และอธิปไตยของไทย ตนมีคำถามว่า เมื่อปี 2553 นายฐิติพัฒน์ เสมาทอง อดีตนายกเทศมนตรีบ้านใหม่หนองไทร ร้องเรียน ได้พาผมลงมาที่ถนนศรีเพ็ญ พอเดินลงมาเล็กน้อย ทางกัมพูชาจับกุมตนพร้อมคนไทย 5 คน กัมพูชาเอาสิทธิ์อะไรมาจับ อีกครั้งหนึ่งในปีเดียวกัน นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ พาตนไปดูหลักเขตแดนที่ 46 เมื่อเดินมาที่ถนนลูกรัง ถูกกัมพูชาจับกุมพร้อมคนไทย 7 คน ตนถูกจับได้อย่างไร ทั้งที่ยังไม่ถึงหลักเขตแดนที่ 46 และยังไม่ถึงเส้นเขตแดน ทหารไทย รัฐบาลไทยปล่อยให้กัมพูชามาจับ 7 คนไทย พิพากษาลงโทษที่ศาลกรุงพนมเปญได้อย่างไร
และที่กล่าวว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นอธิปไตยของไทย ชาวบ้านสามารถเข้ามาทำนาได้ ก็เพิ่งมาพูดวันนี้ ก่อนหน้านี้ไม่มีชาวบ้านเข้าไปทำมาหากินได้เลย เพราะลงไปทางกัมพูชาห้ามหมด ส่วนพื้นที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้บอกว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ก็อยากจะถามว่าตั้งแต่ชาวเขมรเข้ามาอยู่ตั้งแต่ปี 2518 หลังจากที่มีการยกเลิกศูนย์อพยพฯ ในปี 2528 ทำไมป่าไม้ปล่อยให้เขมรมันอยู่ ทำไมไม่ใช้อำนาจของป่าไม้ดำเนินคดีกับชาวเขมร ต่อมาในปี 2532 กองทัพภาคที่ 1 มาทำเรื่องขอใช้พื้นที่ป่าไม้ อ้างว่าต้องการทำหมู่บ้านป้องกันตนเอง ทำสัญญาอ้างว่าเช่าที่ดินกับกรมป่าไม้เป็นเวลา 30 ปี เพิ่งครบกำหนดในปี 2562 จนถึงบัดนี้ทหารกองทัพภาคที่ 1 ก็ยังไม่คืนพื้นที่ให้กับป่าไม้เลย ทหารเอาสิทธิ์อะไรไม่คืนที่ดินทั้งหมด ที่อ้างว่าเช่าจากป่าไม้ คืนให้กับกรมป่าไม้สักทีหนึ่ง
นายวีระ กล่าวว่า ต้องให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า มีเจ้าหน้าที่ละเว้นมานาน ไม่ว่าจะเป็นกองทัพภาคที่ 1 และป่าไม้ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชามาเป็นเวลา 40-50 ปี ผมมาช่วยชาวบ้านตามที่ร้องเรียน จะเข้าไปรังวัดที่ดินไม่ได้ กัมพูชาเอาอำนาจตรงไหนมาจับ ไหนบอกว่าเป็นอธิปไตยไทย ปล่อยให้กัมพูชาจับกุมคนไทยได้อย่างไร ผมถึงบอกว่าในวันนี้ความจริงมันต้องถูกเปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีปัญหาสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านหนองจานและคนไทยทั้งประเทศ เนื่องเจ้าหน้าที่รัฐไทยไม่ว่าทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ป่าไม้ อำเภอโคกสูงซึ่งดูแลพื้นที่ทั้งหมด ไม่ได้ช่วยชาวบ้าน เรื่องนี้ถ้าไม่ถูกเปิดโปงออกมา ผมเชื่อว่าไม่มีวันนี้ คือวันที่ผู้ว่าฯ เรียกชาวบ้านมาลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ วันนี้ไม่เกิดขึ้นแน่นอน ลำพังชาวบ้านเขาก็ยืนยันว่าถ้าผมไม่เข้ามาช่วย ชาวบ้านไม่มีทางจะไปสู้รบปรบมือกับเจ้าหน้าที่รัฐได้เลย ชาวบ้านไปพบกับผู้ว่าฯ ทุกคน และทหารมาทุกคนแล้ว ไม่มีใครช่วยชาวบ้านเลย ระยะเวลาหลายสิบปี ปัญหาทั้งหมดถ้าบอกว่าหลังจากเส้นสีแดงเป็นแผ่นดินไทยทั้งหมด แต่พื้นที่ป่าไม้จะเอาคืน
ตนไม่รอวันที่ 27 ส.ค. จะบอกกับทหารให้พาตนกับสื่อมวลชนไปชี้จุดที่ถูกจับกุมทั้งสองครั้งเมื่อปี 2553 ผู้ว่าฯ บอกว่า สามารถเดินไปถึงหลักเขตแดนที่ 46 ผู้ว่าฯ สระแก้ว และทหารต้องพาตนไปดูหลักเขตแดนที่ 46 พร้อมกับชาวบ้านและสื่อมวลชนวันนี้เลย ผู้ว่าฯ บอกว่าไม่มีชาวเขมรอยู่แล้ว เดี๋ยววันนี้ไปดูพื้นที่บ้านหนองจานทั้งหมด ชาวบ้านอยากจะไปดูหลักเขตแดนที่ 46 เพราะเอกสาร นส.3 ของนายเข็ม แพงลานูน จดไว้ที่หลักเขตแดน 46 ซึ่งวันนี้นางนารี จันทศร เป็นผู้ครอบครองอยู่