แม่ทัพภาคที่ 2 เผยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายัง 50-50 ไว้วางใจไม่ได้ ผบ.สส.และ ผบ.ทบ. ลงไปตรวจเยี่ยม ยืนยันพร้อมทั้งคุยกันแบบมิตรภาพ หรือถ้ามีเหตุจะปะทะกันอีกก็พร้อม หวังว่าเหตุการณ์ยุติโดยเร็ว ยืนยันทุกอย่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฎิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” พล.ท.บุญสิน กล่าว
พล.ท.บุญสิน กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน จึงต้องขอบคุณทุกท่านที่สอบถามไปยังหน่วย
“ช่วงนี้สถานการณ์ยัง 50-50 ตามภาพข่าว ประเทศกัมพูชา ก็เป็นไปตามที่เราเข้าใจ ไม่มีอะไรที่เราไว้ใจได้ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 โดย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) มีความห่วงใยได้ลงไปตรวจเยี่ยมเป็นประจำ รวมถึง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งเหล่าทัพมีความพร้อม ทั้งที่จะคุยกันแบบมิตรภาพ ถ้ามีเหตุจะปะทะกันอีกก็พร้อม” พล.ท.บุญสิน กล่าว
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องทุกท่านสบายใจในการปฏิบัติของทหารเรา หวังว่าเหตุการณ์พวกนี้จะยุติโดยเร็ว ปลายเดือน ส.ค. นี้ ตนจะประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC กับฝ่ายกัมพูชาเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และนำไปสู่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC อีกรอบ จึงหวังว่าจะคุยกันเข้าใจ โดยทุกสิ่งทุกอย่างตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก พร้อมยืนยันว่า พวกเราพร้อมทำหน้าที่ ตามที่ทุกท่านส่งกำลังใจให้และฝากความหวังไว้ พวกเราจะทำให้ดีที่สุด
ก่อนหน้านี้ พล.ท.บุญสิน ยังกล่าวถึงกรณีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observation Team – IOT) ลงพื้นที่บริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชานายหนึ่งพยายามเข้ามาขัดขวาง โดยอ้างว่าฝ่ายไทยไม่ยอมแจ้งรายละเอียดล่วงหน้า และมีการนำคณะลงพื้นที่จำนวนมากเกินไป ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเพียงลีลาเชิงสัญลักษณ์ ของฝ่ายกัมพูชา เพราะในความเป็นจริง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยและสามารถนำคณะเดินทางเข้าไปได้ อีกทั้งที่ผ่านมา กัมพูชาเองก็เคยนำคณะลงพื้นที่สังเกตการณ์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากฝ่ายไทยเช่นกัน
โดยย้ำว่า คณะ IOT ที่ลงพื้นที่ครั้งนี้มีความเป็นกลาง ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ไทยสามารถนำคณะดังกล่าวลงพื้นที่ได้ในวันนี้ เพราะข้อมูลที่เก็บรวบรวมทั้งหมดจะถูกนำเสนอต่อนานาชาติ ซึ่งจะเพิ่มน้ำหนักและความน่าเชื่อถือให้กับจุดยืนของไทย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศเคยนำคณะทูตลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชาในพื้นที่พลเรือน อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านผือ จังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าข้อเท็จจริงจากพื้นที่จริง จะช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสายตาประชาคมโลก