เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี อนุญาตให้หลวงพ่ออลงกต ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ มีผลทันที ด้านสุชาติเผยก่อนลงพื้นที่ ระบุ ถึงลาออกแต่ถ้าพบความผิดถือเป็นเจ้าพนักงาน เชื่อไม่ให้ขัดขวางการสอบสวน
วันนี้ (19 ส.ค.) เฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยแพร่คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ที่ 022/2568 เรื่อง ให้พระสังฆาธิการลาออกจากตำแหน่ง ระบุว่า ด้วยพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกฺขปญฺโญ อายุ 65 พรรษา 38 วิทยฐานะ น.ธ.โท เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตําบลเขาสามยอด อําเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ขอลาออกจากตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น
อาศัยอํานาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกฺขปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตําแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 เดือน สิงหาคม พุทธศักราช 2568 พระธรรมวชิรสุนทร เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
ด้านความเคลื่อนไหวที่วัดพระบาทน้ำพุ พบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเพียงแต่สื่อมวลชนมาปักหลักรอทำข่าว ไม่มีคนมาทำบุญ โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา รถประจำตัวหลวงพ่ออลงกต ได้ขับออกจากวัดไป ส่วนบริเวณอาคารเมตตาธรรม ทางวัดได้มีการขนข้าวของไปทิ้งแล้ว และเตรียมเข้ามาทำความสะอาดในภายหลัง แต่ยังมีข้าวของบางส่วนที่ยังเก็บไว้อยู่ เช่นห น้ากากอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้ ส่วนโกดัง ฝั่งตรงข้ามอาคารเมตตาธรรม พบว่าคนงานทยอยทิ้งผลิตภัณฑ์ยาสีฟัน ครีมกันแดด ครีมทาหน้า ยี่ห้อนาถะ ซึ่งหมดอายุไปแล้วตั้งแต่ปี 2565
ขณะที่นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า การลาออกจากเจ้าอาวาสไม่มีผลอะไร เพราะเจ้าอาวาสคือเจ้าพนักงาน ถึงลาออกแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าเกิดมีการกระทำความผิด ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสก็ถือเป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งทราบว่าการลาออกเพื่อไม่ให้ขัดขวางการสอบสวน โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะลงพื้นที่เพื่อฟังรายงานและติดตามความคืบหน้า โดยเฉพาะมูลนิธิ 4-5 แห่ง ที่มีความสงสัยว่าเป็นเทคนิคหลบการบริจาคเงินวัด จึงต้องดูจุดประสงค์จริงๆ ว่าหลบหรือไม่ มีการใช้เทคนิคหรือไม่
นอกจากนี้ จะไปดูการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ รวมถึงการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งการใช้เงินของมูลนิธิ แม้ตนจะไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง แต่ในฐานะที่กำกับดูแลจะต้องเข้าไปดู ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเจอใครบ้าง และถ้าหากพบว่าอยู่ตรงนั้นก็จะเรียกมาซักถาม หากทุกคนพร้อมจะให้ข้อมูลก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่คงจะเจอเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีการใช้เงินบริจาคที่เป็นชื่อบัญชีส่วนบุคคลของพระ ซึ่งมีมูลค่าเข้าไปในบัญชีแต่ละเดือนจำนวนมาก ถ้าผิดวัตถุประสงค์หรือใช้เงินไม่ถูกต้องตามที่ตนได้เคยพูดไปแล้วว่า เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ การจะใช้เงินก็เหมือนกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการไปตรวจสอบ ส่วนการบริจาคไม่จำเป็นต้องเสียภาษี
