สภาทนายความไม่รับทำคดีวัดพระบาทน้ำพุ ชี้ไม่เข้าเงื่อนไขช่วยเหลือทางกฎหมาย ด้าน "หมอบี" ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอโทษทุกฝ่าย วัดพระบาทน้ำพุเผยยอดบริจาคลดลง หวั่นกระทบค่าใช้จ่าย
ปัญหาเรื่องเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ กำลังจะกลายเป็นหนังชีวิตที่มีความยืดเยื้อและมีหลายประเด็นให้น่าติดตาม โดยเฉพาะในส่วนของคณะกรรมการบริหารของวัดที่เริ่มออกมาระบุว่าจากข่าวที่ออกมาทำให้มีเงินบริจาคเข้าวัดลดลง
โดยพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ “หลวงพ่ออลงกต” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด นายสมพร โสมะเค็ง ไวยาวัจกรวัดพระบาทน้ำพุ นายบรรเจต เทพพำนัก คณะกรรมการวัดพระบาทน้ำพุ และคณะกรรมการมูลนิธิของวัดพระบาทน้ำพุ ได้เข้าร่วมประชุมโดยไม่มี นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายชื่อดังเข้าร่วมประชุม
นายสมพร กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติร่วมกัน และได้ประสานกับทีมกฎหมาย เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับวัด รวมทั้งจะแถลงข่าวในเร็วๆ นี้ ส่วนที่มีข่าวทางสื่อและเพจว่าตนเองมีชื่อเป็นผู้ครองที่ดินกว่า 2 พันไร่ นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะไม่เคยถือครองที่ดินเลย ไปค้นจากสำนักงานที่ดินก็ได้ ถ้าเรื่องนี้ทำให้เกิดความเสียหาย ทีมกฎหมายก็จะเข้ามาดูแลทั้งหมด จากที่พูดคุยกัน ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่ช่วงนี้ยอดบริจาคเข้ามาน้อย ยังกังวลว่า ค่าใช้จ่ายเดือนละ 3 ล้านจะพอหรือไม่
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ฑูตสื่อวิญญาณ หลัจากให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ส่วนตัวอยากจะขอโทษ อาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร ที่เคยพูดจาไม่ดีใส่ รวมทั้งครูบาอาจารย์ของตนทุกท่าน และหลวงพ่ออลงกต
"อยากจะขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้พื้นที่ความเป็นส่วนตัว ไม่ไปดักรอบริเวณหน้าบ้านหรือปีนรั้วบ้านถ่ายเข้ามา รวมทั้งเรื่องของเงินบริจาคที่จะนำไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยหรือพื้นที่ชายแดนขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะตอนนี้บัญชีของมูลนิธิถูกปิดตัวลงชั่วคราว แต่ยืนยันว่าไม่มีตกหล่นแน่นอนทั้งเงิน สิ่งของ หรือแม้แต่ข้าวสารอาหารแห้ง" หมอบี ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในประเด็นเงินสดที่นำไปมอบกับหลวงพ่ออลงกตนั้น หมอบี ขอยังไม่แสดงความคิดเห็น โดยระบุว่าขอสงวนที่จะให้ปากคำ เพราะเกรงว่าจะกระทบกับรูปคดีแต่ยืนยันว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่เคยเก็บไว้กับตัว ให้ทีมงานนำเงินสดไปมอบให้กับหลวงพ่อครบทุกบาททุกสตางค์
สำหรับกรณีที่นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ประกาศขอถอนตัวจากการเป็นคณะทำงานด้านกฎหมายของวัดพระบาทน้ำพุ เนื่องจากสภาทนายความ ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีของวัดพระบาทน้ำพุอย่างเป็นทางการนั้น ในเรื่องนี้ สำนักโฆษกและประชาสัมพันธ์ของสภาทนายความได้ เผยแพร่ประกาศของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า สภาทนายความขอเรียนชี้แจงว่า ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับทางหลวงพ่ออลงกต (พระอลงกต ติกขปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุได้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 โดยข้อกำหนดของพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุว่า การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจะต้องเป็นไปเพื่อผู้ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งกรณีของวัดพระบาทน้ำพุนั้นไม่ถือเป็นคดีที่เข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าว และไม่ใช่คดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ อีกทั้งการถอนตัวของทนายความเกิดผล แก้วเกิด เป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับสภาทนายความแต่อย่างใด