xs
xsm
sm
md
lg

คำพูดที่ไร้ค่า! สื่อเอเชียบอก เขมรคุยโวทลายแก๊งสแกมเมอร์ แต่พบไม่แตะต้องตัวการใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ทางออนไลน์ที่หยั่งรากลึกในประเทศและการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามล่าสุดชาแนลนิวส์เอเชียเผยแพร่รายงานในวันอาทิตย์(10ก.ย.) ระบุปฏิบัติการดังกล่าวกลับไม่มีการแตะต้องตัวการใหญ่ๆแต่อย่างใด

ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่าเมื่อวันที่ 16 กรฏาคม คำสั่งหนึ่งจากนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ของกัมพูชา ยอมรับว่าอุตสาหกรรมสแกมเมอร์กำลังก่อภัยคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ และออกคำสั่งให้พวกเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด หน่วยงานบังคับใช้กฎหายทั้งหลาย ศาลและคณะกรรมการด้านการพนันแห่งนี้ ลงมือจัดการ

ในขณะที่ตำรวจเริ่มปฏิบัติการจู่โจมที่ตั้งศูนย์สแกมเมอร์ทั่วประเทศ ชาแนลนิวส์เอเชียระบุว่าพวกอาชญากรทางไซเบอร์ทั้งหลายได้ใช้ช่องเทเลแกรม เตือนคนอื่นๆเกี่ยวกับความจริงจังในการปราบปรามครั้งนี้ บางโพสต์อ้างว่าตำรวจจัดตั้งด่านตรวจทั่วประเทศ ควบคุมตัวคนที่ไม่มีพาสปอร์ตและเรียกเงินสินบนแลกกับการปล่อยตัว นอกจากนี้แล้วยังพบวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพที่ผู้คนจำนวนมากกำลังอพยพออกจากเขตรั้วของศูนย์สแกมเมอร์ต่างๆ

รายงานของชาแนลนิวส์เอเชีย ระบุว่าไม่นานหลังจากนั้นรัฐบาลกัมพูชาได้ป่าวประกาศความสำเร็จ โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แถลงว่าได้ทำการจู่โจมที่ตั้งต่างๆเกือบ 140 แห่ง นำมาซึ่งการจับกุมพวกผู้ต้องสงสัยมากกว่า 3,000 ราย จากชาติต่างๆอย่างน้อย 19 ประเทศ แต่มากกว่าครึ่งมาจากจีนและเวียดนาม

ที่น่าสังเกตคือพวกเจ้าน้าที่บอกว่ามีผู้ต้องสงสัยเพียงเล็กน้อยที่ถูกบีบบังคับให้ร่วมขบวนการ แต่ทางชาแนลนิวส์เอเชียกล่าวอ้างงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่เคยเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ The Conversation พบว่ามีหลายพันคนที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือล่อลวงให้ไปยังที่ตั้งเหล่านั้น และบีบบังคับให้ทำงานในสภาพแวดล้อมไม่ต่างจากการเป็นทาสในยุคสมัยใหม่

ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่าแม้ปฏิบัติการปราบปรามขนานใหญ่ ท่ามกลางคำประกาศกร้าวของรัฐบาลในการกำจัดแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชา แต่มีความเคลือบแคลงอย่างกว้างขวางว่าความพยายามเหล่านั้้น เพียงพอที่จะขุดรากถอนโคนอุตสาหกรรมผิดกฎหมายนี้หรือไม่

การปราบปรามเมื่อเดือนที่แล้ว เกิดขึ้นโดยบังเอิญกับเหตุความขัดแย้งช่วงสั้นๆระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่ทำให้ชาวบ้านต้องพลัดถิ่นฐานมากกว่า 300,000 คน

ชาแนลนิวส์เอเชียอ้างนักวิเคราะห์ชี้ว่าความตึงเครียดที่มีมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นต่อการตายของทหารเขมรนายหนึ่งในเหตุปะทะเดือนพฤษภาคม เป็นเหตุผลของความเป็นปรปักษ์ แต่ ไทย โยงความขัดแย้งดังกล่าวกับการปราบปรามปฏิบัติการสแกมเมอร์ของกัมพูชา

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปี ไทยตัดไฟและอินเตอร์เน็ตที่ให้ป้อนแก่เมืองปอยเปต อันเป็นที่ตั้งของแหล่งสแกมเมอร์ จากนั้นในช่วงต้นเดือนกรกฏาคม ไทยใช้มาตรการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการไล่ล่าเศรษฐีและวุฒิสภาทรงอิทธิพลรายหนึ่งของกัมพูชา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเจ้าของสินทรัพย์จำนวนมากในปอยเปต โดยเจ้าหน้าที่ของไทยกล่าวอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการสแกมเมอร์ออนไลน์

ศาลอาญาของไทยออกหมายจับวุฒิสมาชิกกัมพูชารายนี้ และจู่โจมที่อยู่ของเขาในกรุงเทพฯ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเล็งเป้าไปที่ลูกๆและทรัพย์สินของพวกเขาในไทยด้วย ในความเคลื่อนไหวตอบโต้ ทางเจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวหาไทยเป็น "ศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ" ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาช้านาน และโยนปัญหากล่าวโทษกัมพูชาแทน

ท่ามกลางสงครามน้ำลาย พวกเจ้าหน้ากัมพูชายืนกรานว่าการปราบปรามอุตสาหกรรมสแกมเมอร์จะเดินหน้าต่อไป และทางชาแนลนิวส์เอเชียบอกว่าต้องให้เครดิตกับกัมพูชา ต่อขอบเขตยุทธการปราบปรามครั้งใหญ่ในระดับชาติครั้งนี้ ที่ต่างจากคราวก่อนๆที่จำกัดวงอยู่แค่ในสีหนุวิลล์ ศูนย์กลางสแกมเมอร์

อย่างไรก็ตามชาแนลนิวส์เอเชียรายงานว่าแพลตเทิร์นอื่นคล้ายๆกันได้เริ่มโผล่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเช่นเดียวกับในอดีต พวกเจ้าหน้าที่กัมพูชามุ่งเน้นจัดการเฉพาะกับปฏิบัติการขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง แต่กลับไม่ได้แตะต้องพวกสแกมเมอร์รายใหญ่แต่อย่างใด

สื่อแห่งนี้รายงานว่าในหลายกรณี ที่ตั้งศูนย์สแกมเมอร์รายใหญ่มักได้จับแจ้งล่วงหน้าและอพยพหนีได้ทัน และนับตั้งแต่นั้นพบที่ตั้งศูนย์สแกมเมอร์ขนาดใหญ่เพิ่มจำนวนขึ้นมากอย่างในบริเวณใกล้ชายแดนเวียดนาม ซึ่งดูเหมือนจะสามารถดำเนินกิจการได้อย่างเป็นปกติไม่มีการแทรกแซงใดๆ

ชาแนลนิวส์เอเชีย ระบุว่าปฏิบัติการปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์ในอดีตที่ผ่านมา ประสบความล้มเหลว สืบเนื่องจากไม่ได้จัดการกับเสาหลักพื้นฐาน 2 อย่างที่ช่วยให้อุตสาหกรรมนี้เฟื่องฟู หนึ่งคือเครือข่ายท้องถิ่นทรงอิทธิพลที่คอยทำหน้าที่ปกป้องพวกปฏิบัติการสแกมเมอร์ และสองคือโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่ล้ำสมัยของที่ตั้งเหล่านี้

รายงานข่าวของชาแนลนิวส์เอเชียสรุปว่า ตราบใดที่ไม่มีการแตะต้องชนชั้นสูงที่มอบการคุ้มครองศูนย์สแกมเมอร์ทั้งหลาย และที่ตั้งศูนย์สแกมเมอร์เหล่านั้นยังคงยู่ดี เครือข่ายสแกมเมอร์ก็สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว หลังแรงกดดันลดลง

การปราบปรามเป็นระยะๆสามารถสั่นคลอนปฏิบัติการสแกมเมอร์ได้เพียงชั่วคราว และพวกที่ถูกจับกุมนั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นคนงานในระดับร่างเท่านั้น ไม่ใช่พวกที่อยู่ในระดับสูง

(ที่มา:ชาแนลนิวส์เอเชีย)
กำลังโหลดความคิดเห็น