xs
xsm
sm
md
lg

ขุดงบสีเทา กทม. สัญญาณเตือน 'ชัชชาติ' ระวังเพลี่ยงพล้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



พรรคก้าวไกลขุดงบ กทม. 10.4 ล้าน จัดสัมมนาผู้สูงอายุ จี้ 'ชัชชาติ' สอบใช้งบเที่ยวทิ้งทวนพาข้าราชการใกล้เกษียณไปหัวหิน 3 วัน 2 คืน 'วิโรจน์' ห่วง 'ชัชชาติ' โดนคดีทุจริต หากปล่อย ส.ก. หากินงบแปร

เวลานี้งบประมาณของกรุงเทพมหานครกำลังถูกพรรคประชาชนขุดคุ้ยอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพรรคประชาชน เพิ่งออกมาเปิดเผยถึงการจัดทำงบประมาณสำหรับการปรับปรุงอาคารสถานที่ของสภากรุงเทพมหานคร ล่าสุดเป็นคิวของคนคุ้นเคยที่ออกมาเปิดโปงงบประมาณของกรุงเทพมหานครอย่าง นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับงบเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัย มูลค่ารวม 10.4 ล้านบาท ที่รายละเอียดภายในทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการพาข้าราชการใกล้เกษียณไปเที่ยวทิ้งทวนหรือไม่

นายศุภนัฐ ระบุว่า ภายใต้โครงการชื่อเท่ๆ ค่าใช้จ่ายเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยที่ผู้ว่า กทม. เสนอเข้าสู่สภา กทม.ในปีงบ 69 มูลค่าราว 10.4 ล้านบาท ถ้าอ่านแค่ชื่อโครงการ หลายคนคงคิดว่าเป็นงบฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ กทม. เพื่อเตรียมพร้อมให้มาดูแลประชาชนที่เข้าสู่สังคมสูงวัย แต่เปล่าเลยครับ มันคืองบ “สัมมนา” ภายใต้ชื่อเท่ๆ โดยผมแบ่งงบ 10.4 ล้านบาท นี้เป็น 2 ก้อน

ก้อนที่ 1: ประมาณ 9.4 ล้านบาท พาข้าราชการและลูกจ้างประจำ กทม. ที่จะเกษียณในปี 69 (อายุ 59 ปีขึ้นไป) จำนวน 1,620 คน ไปสัมมนา 3 วัน 2 คืนที่ ประจวบฯ (ซึ่งประจวบเป็นที่ตั้งของ หัวหิน นั่นเอง) ทยอยไปเป็นรุ่น ๆ รุ่นละ 135 คน ตั้งแต่มกราคม–สิงหาคม สัมมนาเสร็จสิงหา เกษียณต่อทันที ในเดือนกันยายน ถามจริง… ผู้บริหาร กทม. เห็นดีเห็นงามกับการใช้งบ “เที่ยวทิ้งทวน” แบบนี้ได้ยังไง หรือถ้าบอกว่าไม่รู้เรื่อง ก็น่ากลัวละว่างบอื่นจะรู้เรื่องไหม เพราะอะไรแปลกๆ ก็โยนว่าหน่วยงานเสนอกันมาเอง และที่งง คือแทนที่จะไปเตรียมระบบ หาวิธีดูแลคนไทย ดูแลสังคมที่เข้าสูงสังคมสูงวัย แต่กลับไปเตรียมความพร้อมให้ตัวเองเนี้ยนะ

ก้อนที่ 2: งบ 987,000 บาท สำหรับเจ้าหน้าที่อายุ 55–58 ปี คนกลุ่มนี้ ยังต้องอยู่ดูแลประชาชนต่ออีก 2–5 ปี แต่ได้สัมมนาแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ ในกทม. มีแค่ 350 คน

งบก้อนแรก: คนใกล้เกษียณ พาไปประจวบฯ 3 วัน 2 คืน งบก้อนสอง: คนยังทำงานต่อ กลับประชุมแบบไปเช้า-เย็นกลับ นี่มันยังไงกันแน่ คนทำงาน ไม่ควรต้องสัมมนานานกว่าหลอกหรือ? หรือคนใกล้เกษียณโหลดข้อมูลนานกว่า เลยใช้เวลาสัมมนานานกว่า ที่แปลกกว่าคือ กลุ่มที่ 2 แม้ว่าจะไปเช้า-เย็นกลับ แต่ที่เจอคือ ให้ไปสัมมนา โรงแรม ในกทม.

คือสัมมนาในกรุงเทพ และเป็นสัมมนาภายในของจนท.กทม. กันเองแท้ๆ ไม่มีคนนอก ก็ยังจะไปเสียเงินเช่าโรงแรม ทั้งที่ กทม. เองมีห้องประชุมเพียบ จะอ้างว่า หาห้องประชุมไม่ได้ เพราะสัมมนาแต่ละรุ่น มีแค่ 60–80 คนเท่านั้น จะผลาญงบไปเพื่ออะไร คำถามต่อมา คือ ถ้าสัมมนาใน กทม. ได้ แล้วก้อนที่ 1 จะต้องไปประจวบฯ ทำไม

การสัมมนาที่ดูจะผลาญงบเล่นของกทม. และยังหาตรรกะรองรับไม่ได้แบบนี้ เอาจริงๆ มันใช่ งบเที่ยวทิ้งทวน ก่อนเกษียณ หรือไม่ คิดว่าประชาชนพิจารณากันเองได้ แต่ที่น่าเศร้า คือ ผู บริหาร กทม. เห็นดีเห็นงามกับการใช้งบภาษีร่วม 10 ล้านบาทแบบนี้ใช่ไหม

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความคิดเห็นผ่านแอปพลิเคชั่น X โดยระบุว่า "ผมเรียนอาจารย์ชัชชาติด้วยความห่วงใยจริงๆ ถ้าอาจารย์ยังหลับตาข้างหนึ่งปล่อยให้ ส.ก. บางคน หากินกับ #งบแปร เอางบที่ปรับลดไปล็อคสเป็คกินเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา คนที่จะโดนคดีทุจริต คือ ตัวอาจารย์เอง เพราะคนที่เซ็นอนุมัติโครงการ #งบแปร คือผู้ว่า กทม."

"ประเด็นที่สภา กทม. ใช้เทคนิคการเสนอชื่อกรรมการเกินโควต้า แล้วใช้การโหวตเพื่อไม่ให้คนนอกได้มาเป็น 'กรรมการงบ' ยิ่งทำให้คน กทม. เห็นพิรุธ น่าจะกลัวเรื่อง #งบแปร หรือการเอางบที่ปรับลด ไปจัดซื้อจัดจ้างในโครงการที่ ส.ก. บางคนล็อคสเป็ค ขอเงินทอนจากผู้รับเหมาไว้แล้ว"
กำลังโหลดความคิดเห็น