ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพน 4 ลำแก่กองทัพอากาศ เสริมความแข็งแกร่ง รักษาอธิปไตยเหนือน่านฟ้า หลังใช้จริงจากการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้
วันนี้ (5 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติเห็นชอบการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39 Gripen รุ่น E และ F จากประเทศสวีเดน จำนวน 4 ลำ พร้อมเรือดำน้ำ วงเงินรวม 19,500 ล้านบาท เป็นเฟสแรกในแผนจัดซื้อ 3 ระยะ ภายใน 10 ปี ตามที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือเสนอผ่าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม หลังดำเนินการจัดทำรายละเอียดครบถ้วน โดยเดิมกำหนดเสนอ ครม.ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ล่าช้าเพราะปัญหาเอกสาร
ทั้งนี้ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ระบุว่า เครื่องบิน F-16 ของไทยจะทยอยปลดประจำการระหว่างปี 2571–2578 จึงต้องหาเครื่องบินใหม่มาทดแทน โดยกองทัพอากาศได้คัดเลือกจาก 20 แบบ และลงมติเลือกกริพเพน 1 ฝูงบิน รวม 12 ลำ มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท โดยรูปแบบการจัดซื้อเป็นแบบรัฐต่อรัฐ (G2G) กับรัฐบาลสวีเดน เฟสแรกจะส่งมอบในปี 2572 ซึ่ง ผบ.ทอ. เตรียมเดินทางไปลงนามในสัญญาจัดซื้อที่ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 23–27 ส.ค. โดยเครื่องกริพเพนรุ่นใหม่ได้รับความสนใจ หลังปฏิบัติภารกิจคุ้มครองน่านฟ้าบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ "กองทัพอากาศไทย Royal Thai Air Force" โพสต์ข้อความระบุว่า "Saab JAS 39 Gripen E/F ... Ready for Take Off ครม.อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนแบบ Saab JAS 39 Gripen ให้กองทัพอากาศเสริมความแข็งแกร่งเพื่อดำรงขีดความสามารถในการรักษาอธิปไตยเหนือน่านฟ้าสืบไป"
ก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศไทย ได้สั่งซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C จำนวน 7 ลำ และ Gripen 39 D จำนวน 4 ลำ ประจำการอยู่ที่ฝูงบิน 701 กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีบทบาทสำคัญในด้านการปกป้องอธิปไตย โดยเฉพาะเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 24-28 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา พบว่าเครื่องบินกริพเพนรบต่อเป้าหมายทางทหารของกัมพูชา ถือเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้จริงในสงคราม ทำให้ชาวเน็ตถึงกับแซวว่า สวีเดนผลิต ไทยซื้อ กัมพูชารีวิว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีเครื่องบินกริพเพน 39 C ตกที่บริเวณสนามบินกองบิน 56 จังหวัดสงขลา ในวันเด็กแห่งชาติปี 2560 เป็นเหตุทำให้นาวาอากาศตรี ดิลกฤทธิ์ ปัถวี นักบิน เสียชีวิต สาเหตุเกิดจากการหลงสภาพการบินชั่วขณะ (Spatial Disorientation) โดยที่เครื่องบินไม่มีปัญหา สภาพดีพร้อมใช้งาน และนักบินผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี แต่เกิดเหตุสุดวิสัย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฝูงบินกริพเพนเหลือ 11 ลำ จากทั้งหมด 12 ลำ