xs
xsm
sm
md
lg

อันวาร์ลั่นมาเลเซียไม่ยอม เสียดินแดนซาบาห์ให้อินโดนีเซีย กรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ลั่นจะปกป้องทุกตารางนิ้วของรัฐซาบาห์ ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการตกลงยกพื้นที่พิพาท "แหล่งพลังงานอัมบาลัต" ในน่านน้ำสุลาเวสีให้แก่อินโดนีเซีย หลัง รมว.พลังงานอินโดนีเซียเผย กำลังถกความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งสำรวจน้ำมันบริเวณชายแดนร่วมกับมาเลเซีย

วันนี้ (5 ส.ค.) เว็บไซต์มาเลย์เมล์ (Malaymail)ของมาเลเซียรายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวปราศรัยบนเวทีงานเปิดตัววันเกษตรกร พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ และชาวประมงแห่งชาติ (HPPNK) ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่เมืองโคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ (Sabah) บนเกาะบอร์เนียว ทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย กรณีพิพาทเกี่ยวกับเขตน่านน้ำอัมบาลัต (Ambalat) กับอินโดนีเซีย

โดยนายอันวาร์กล่าวว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจาที่กำลังดำเนินอยู่ พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่าข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ

“นี่เป็นปัญหาชายแดนระหว่างสองประเทศ และอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ประธานาธิบดีปราโบโว (นายปราโบโว ซูบียันโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย) เป็นเพื่อนส่วนตัวของผม เป็นเพื่อนของครอบครัว ผมต้องการให้ความสัมพันธ์นี้ดียิ่งขึ้น ... เราคุยกันเรื่องสุลาเวสี และผมอยากให้ฮาจิจิ (นายฮาจิจิ นัวร์ มุขมนตรีแห่งรัฐซาบาห์) ได้ยินด้วยตัวเอง และแสดงความเห็นของเขา"

"เราจะหารือเรื่องขอบเขต การปฏิบัติตามกฎหมายทางทะเล และการปฏิบัติตามประวัติศาสตร์ ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลของรัฐ และสภานิติบัญญัติของรัฐต่อไป เราจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ" นายอันวาร์ ระบุ

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวเพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในรัฐสภาเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีการเสนอว่าข้อพิพาทดังกล่าวได้รับการยุติไปแล้ว ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่เขาปฏิเสธ

“เราจะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์ ผมจะปกป้องหลักการนี้ ผมเลือกที่จะตอบคำถามนี้ตอนนี้ เพราะเรากำลังปกป้องซาบาห์ในนามของรัฐบาลกลาง” นายอันวาร์ กล่าว

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า แหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี นอกชายฝั่งตะวันออกของรัฐซาบาห์ ใกล้กับเมืองตาเวา (Tawau) ประเทศมาเลเซีย และจังหวัดกาลิมันตันเหนือ (Kalimantan Utara) ประเทศอินโดนีเซีย ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มาเป็นเวลานาน อันเนื่องมาจากศักยภาพด้านน้ำมันและก๊าซเป็นหลัก

โดยความขัดแย้งเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2543 เมื่อทั้งสองประเทศได้ออกสัมปทานสำรวจพลังงานที่ทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย บริษัทพลังงานแห่งชาติปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell)


ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเทมโป (Tempo) ของอินโดนีเซีย รายงานว่า นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย (Bahlil Lahadalia) รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย (ESDM) ให้สัมภาษณ์ระหว่างเข้าร่วมงานเทศกาลพลังงานและแร่ธาตุ ที่จัดขึ้นในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซอัมบาลัตร่วมกัน ซึ่งตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างสองประเทศ แต่เรื่องนี้ยังไม่ถือเป็นข้อสรุปขั้นสุดท้าย อยู่ระหว่างการพิจารณา

ในทางธรณีวิทยา บล็อกอัมบาลัตตะวันออกตั้งอยู่ในแอ่งตารากัน (Tarakan) ในน่านน้ำทะเลลึกของจังหวัดกาลีมันตันเหนือ ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออกประมาณ 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร บล็อกทะเลนี้มีศักยภาพด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะคงอยู่ต่อไปอีก 30 ปี

นายบาห์ลิลเน้นย้ำถึงพื้นที่อัมบาลัต ซึ่งปัจจุบันอินโดนีเซียและมาเลเซียอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าว แม้ว่าอัมบาลัตจะมีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำรองอยู่ แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากข้อพิพาทที่ยังคงดำเนินอยู่ ดังนั้น ประเด็นหนึ่งที่หารือกันระหว่างอินโดนีเซียและมาเลเซียก็คือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร

หากในที่สุดอินโดนีเซียและมาเลเซียสามารถบรรลุข้อตกลงในการบริหารจัดการแหล่งน้ำมันและก๊าซในอัมบาลัตตะวันออก บาห์ลิลกล่าวว่า บริษัทพลังงาน เปอร์ตามีนา (Pertamina) จากอินโดนีเซีย และปิโตรนาสจากมาเลเซีย จะบริหารจัดการอย่างแน่นอน แน่นอนว่าหากดำเนินการระหว่างประเทศ ก็จะมีความร่วมมือระหว่างรัฐวิสาหกิจของมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยมีตัวแทนในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซคือทั้งสองบริษัทดังกล่าว

ขณะที่นายซูจิโอโน รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า แผนการที่อินโดนีเซียและมาเลเซียจะร่วมกันบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนในแหล่งพลังงานอัมบาลัตตะวันออก ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของทั้งสองประเทศ จึงไม่ได้รับการหารือโดยเฉพาะในการประชุมทวืภาคีประจำปีอินโดนีเซีย-มาเลเซีย ครั้งที่ 13 ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 29 ก.ค.

ทั้งนี้ โดยหลักการแล้ว ทั้งสองประเทศเข้าใจถึงศักยภาพมหาศาลของพื้นที่ชายแดนในอัมบาลัต ดังนั้น จำเป็นต้องมีความร่วมมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพศักยภาพนี้ ซึ่งรวมถึงภาคส่วนทางทะเลและการประมงด้วย อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงหารือเกี่ยวกับแผนดังกล่าวอยู่ และเมื่อแผนดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการหารือรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติมโดยกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้ เนื่องจากการหารือยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ บริษัท เปอร์ตามินา ฮูลู เอเนอร์จี (PT Pertamina Hulu Energi) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเปอร์ตามินา บริษัทพลังงานของอินโดนีเซีย ระบุว่า พร้อมที่จะพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซในเขตอัมบาลัตตะวันออก แต่ขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากรัฐบาลอินโดนีเซีย


กำลังโหลดความคิดเห็น