สส.พรรคประชาชน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร แซะหมอ พยาบาลไม่เลิก อ้างถึงคำสอนสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เจอชาวเน็ตโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์สวนกลับ จะสั่งสอนหรือแสดงอีโก้ ชี้สถานการณ์ไม่ปลอดภัย สามารถปฏิเสธการรักษาก่อนได้
วันนี้ (4 ส.ค.) บนสื่อโซเชียลฯ วิจารณ์กรณีที่ เฟซบุ๊กของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อ้างถึงคำสอนของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ระบุว่า “I do not want you to be only a doctor But I also want you to be a man.” แปลเป็นไทยความว่า “ขอให้พวกเธอจงเข้าใจและจำไว้ว่า ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอมีความรู้ทางแพทย์อย่างเดียว ฉันต้องการให้พวกเธอเป็น คนด้วย” ซึ่งเป็นการสนับสนุนแนวคิดของตัวเอง กรณีแสดงความไม่เห็นด้วยที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวก้มพูชา
ปรากฎว่ามีชาวเน็ต โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ แสดงความคิดเห็น ไม่เห็นด้วยกับนายวิโรจน์จำนวนมาก เพราะเห็นว่าเป็นการอ้างถึงประโยคดังกล่าวเพื่อความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อาทิ
“เคยไป รพ.สรรพสิทธิประสงค์มั้ยครับ ว่าคนไข้ล้นทะลักขนาดไหน คนไทยด้วยกันยังดูแลแทบไม่ไหว บุคลากรทาวการแพทย์เหนื่อยแค่ไหน ต่างด้าวมารักษา เงินก็ไม่ค่อยจ่าย รพ ต้องแบกรับภาระเท่าไหร่ ผมว่าพรรคประชาชน ควรต้องเรียนรูัที่จะเงียบบ้าง ในสถานการณ์เช่นนี้ คนที่ไม่ชอบจะยิ่งเกลียด คนที่เชียร์มาตลอด ก็เริ่มเบื่อและหมดใจครับ”
“จุดประสงค์ของโพสนี้คืออะไรหรอครับ เพื่อสั่งสอนบุคคลากรทางแพทย์ ?? เพราะ Ego ไม่รับฟังคนเห็นต่าง ?? ทุกคนรู้ว่าจุดประสงค์ของพรรคคืออะไร แต่วิธีการหรือการสื่อสารอาจจะไม่ถูก ไปแจ้งแพทยสภาก็ได้ หรือ แค่คุณไปคุยกับ รพ. แก้ตัวอักษรเล็กน้อย เอกสารเป็นแค่เอกสารเวียน สื่อสารคนในรพ. ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ปล.ความเห็นส่วนตัว แลกเปลี่ยนความคิดได้ครับ”
“จรรยาบรรณแพทย์นั้นสูงส่งมาตลอด คำถามคือ จรรยาบรรณของนักการเมืองมีมาตรฐานแบบแพทย์หรือไม่“
“ผมว่า คุณวิโรจน์รับสมัครแพทย์ที่ใจที่มีหัวใจความเป็นคน ไปตั้ง รพ ตามแนวชายแดนดีกว่าครับ ไม่ก็ข้ามไปรักษาฝั่งนู้นเลยดีกว่า ผมว่าชาวเขมรต้องซาบซึ้งแล้วหยุดยิงข้ามมาฝั่งเราแน่ครับ ผมเห็นชาวเขมรแล้วสงสารมากครับ”
“รอบนี้ผิดหวังกับคุณวิโรจน์นะคะ อยากให้คุณได้ปรึกษาหารือ กับทีมบุคลากรสาธารณสุขก่อนจะโพสว่า รพ.สรรพสิทธิ์ นะคะ ตาม WHO/WHA มีการคุ้มครองแพทย์ หากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย สามารถปฏิเสธการรักษาได้ค่ะ ... ของสรรพสิทธิ์ แค่งดรับคนไข้คลินิกพิเศษ SMC เป็นการบริหารจัดการลดความเสี่ยงอันตรายต่อบุคลากร ไม่ได้ปฏิเสธเคสฉุกเฉินที่อยู่ตรงหน้าเลย ตอนโควิดหลาย ๆ โรงพยาบาลก็ปิดคลินิกพิเศษนี้ค่ะ ผิดหวัง มากนะคะ จากใจคนสาธารณสุข”
“อ่านประกาศ รพ. ให้ครบถ้วนก่อนนะคะ รณรงค์ให้ชาวไทยอ่านหนังสือเกิน 8 บรรทัดค่ะ ไม่ต้องโพสถามหาจรรยาบรรณแพทย์ไปทั่ว ถ้าว่างแนะนำให้เดินเข้าไปเดินดูใน รพ. สรรพสิทธิ์ฯ ไปดูเค้าทำงานของจริงดูแล้วลองถามพวกบุคคลากรทางการแพทย์ว่าเค้ายังขาดเหลืออุปกรณ์หรือยาอะไรบ้างดูค่ะ จะเป็นการใช้เวลาว่างที่เกิดประโยชน์มากกว่านะคะ ป.ล. อ่านภาษาไทยในประกาศ อ่านให้ครบ อ่านให้เข้าใจถูกต้อง เราเป็นคนไทย อายเค้า“
“เราก็ไม่ต้องการนักการเมืองที่ยึดแต่อุดมการณ์ แต่ลืมความเป็นคน และความเป็นจริงค่ะ ถ้าเลือกจะนำ Quote นี้ของพระบิดามาย้ำแพทย์เราในเวลาแบบนี้ ถามตัวเองก่อนดีมั๊ยคะ ว่าคุณมองแพทย์เป็น "คน" บ้างหรือไม่? หรือเป็นเพียงตัวอักษรที่คุณเห็นในอนุสัญญาเจนีวา? สุดท้าย ทบทวนตัวเองก่อนดีมั๊ยคะว่าตีความอะไรผิดรึเปล่า? รอบแรกแถลงการณ์ไม่ดี อ่านไม่ดี ก็อ่านใหม่ หรืออ่าน/ฟังคำอธิบายของเค้าบ้าง ที่น่าตอบมากกว่าคือการไม่รับผู้ป่วยใหม่กัมพูชาที่ไม่หนัก ไม่ฉุกเฉิน มันละเมิดสัญญาอย่างไร ผิดจรรยาบรรณอย่างไร?“