สภาถกงบปี 69 วันที่ 13-15 ส.ค.นี้ จับตาเสถียรภาพรัฐบาล พร้อมแนะวางแผนรับมือภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ สส. เตรียมอภิปรายรายมาตรา ปรับลดงบไม่เหมาะสม และหาทางเยียวยาผลกระทบจากภาษีทรัมป์
หนึ่งในหมุดหมายสำคัญทางการเมืองที่ต้องจับตา คือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เพราะจะเป็นตัวชี้วัดรัฐบาลจะมีเสถียรภาพมากพอในการผ่านร่างกฎหมายสำคัญได้หรือไม่
ในเรื่องนี้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาทุกหน่วยงานจบแล้ว โดยในวันที่ 5 สิงหาคม จะเป็นการพิจารณาการแปรญัตติหลังจากที่อนุคณะกรรมาธิการฯตัดงบประมาณไปแล้ว ส่วนวันที่ 6 สิงหาคม จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายเพื่อสรุปภาพรวม ทั้งนี้ จะเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2 และ 3 ในวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ โดยจะพิจารณาเรียงเป็นรายมาตรา
ด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า การพิจารณาในวาระที่สองและสามในวันที่ 13-15 สิงหาคมนั้น ในส่วนของบุคคลที่จะอภิปรายงบประมาณในวาระที่ 2 นั้น เรามี ส.ส.ที่แปรญัตติไว้หลายคน ซึ่งจะอภิปรายในรายมาตรา และการปรับลดงบประมาณในแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงานที่มีความไม่เหมาะสม เราก็จะปรับลดลง
สำหรับข้อเสนอของฝ่ายค้านที่ต้องการให้นำงบกลางรายจ่ายฉุกเฉินและจำเป็นไปช่วยแก้ปัญหาผลกระทบจากภาษีการนำเข้าสหรัฐอเมริกา นายอัครเดช กล่าวว่า ต้องมีมาตรการในการรองรับ และในส่วนของการเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกาที่ออกมาที่ให้เรา 19% นั้น ไม่ทราบในรายละเอียดเลยว่าสินค้าตัวใดบ้างที่รัฐบาลไปทำข้อตกลงกับทางสหรัฐอเมริกาที่จะนำเข้าไทยในอัตราภาษีเท่าไหร่ ซึ่งหากมีผลกระทบก็ต้องใช้งบประมาณที่ตั้งขึ้นมามาเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และต้องหามาตรการรองรับในระยะยาว ในส่วนนี้ตนคิดว่ามีความจำเป็นต้องมีงบประมาณจำนวนหนึ่งให้นายกรัฐมนตรีได้บริหารจัดการ