ไฟสงครามเดือด ดราม่าในไทยร้อนแรง! ปชป.โดนทัวร์ลง ปิดเว็บช่วยเหลือ ปมเผยพิกัด แพทองธารก็เจอดราม่าสองเด้ง ทั้งโพสต์ที่ตั้งศูนย์อพยพ และปมคนป่วยรอพบหมอ เหตุอดีตนายกฯเยี่ยมรพ. ภาพลักษณ์สำคัญกว่าชีวิตประชาชนหรือไม่?
ท่ามกลางไฟสงครามจากการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา ปรากฎว่าภายในประเทศไทยก็ยังอุดมไปด้วยดราม่าทางการเมืองอีกสารพัด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพรรคประชาชน และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างการถูกพักงานตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ
เริ่มกันที่พรรคประชาชนที่โดนทัวร์ลงกระหน่ำจากการโพสต์ข้อความที่มีการเปิดเผยชื่อสถานที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือประชาชน โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า พรรคประชาชนยินดีปิดเว็บไซต์รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามคำร้องขอของ ศบ.ทก.แต่ขอยืนยันว่า 1. เว็บไซต์ของพรรคประชาชน ไม่เคย มีการเผยแพร่ข้อมูลใดที่รัฐบาลมีความกังวลว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทย หรือจะถูกรัฐบาลกัมพูชานำไปใช้ในการโจมตีพลเรือนไทย (เช่น พิกัดที่ตั้งของศูนย์อพยพ พิกัดตำบลกระสุนตก รายละเอียดการวางกำลังพลและอาวุธของทหาร)
2. เว็บไซต์ของพรรคประชาชน ได้รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล เฉพาะที่ถูกเผยแพร่โดยหน่วยงานของรัฐ (เช่น พื้นที่อันตรายที่หน่วยงานรัฐสั่งให้ประชาชนอพยพออก ศูนย์รับบริจาคโลหิตทั่วประเทศจากการเผยแพร่ของสภากาชาดไทย) หรือที่ปรากฏต่อสาธารณะอยู่แล้ว (เช่น สถานพยาบาล ตามที่ปรากฏใน Google Maps)
3. เว็บไซต์ของพรรคประชาชน มีเจตนาในการรวบรวมข้อมูลของหลายหน่วยงานรัฐ (เช่น ประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงกองทัพบก) เพื่อให้ประชาชนคนไทยเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยสะดวกในเว็บไซต์เดียว โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าใช้บริการเว็บไซต์เกิน 3 ล้านครั้ง
"แต่เพื่อให้รัฐบาลมีสมาธิกับภารกิจที่สำคัญในการปกป้องชีวิตประชาชน ทางพรรคประชาชนยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และได้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ตามคำขอของรัฐบาลแล้ว" โฆษกพรรคประชาชน ระบุ
ไม่ต่างอะไรกับนายกฯแพทองธาร ที่มีดราม่าฉ่ำๆ ถึงสองเรื่องซ้อน เรื่องแรก เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก การลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ และพบประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ในตอนต้นระบุว่า "วันนี้ดิฉันเดินทางมายังจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน ณ ...(ระบุสถานที่จุดที่ 1) และพบกับประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ...(ระบุสถานที่จุดที่ 2) โดยพบว่าระบุสถานที่ชัดเจนว่าอยู่ตรงไหน ปรากฏว่ามีชาวเน็ตจำนวนมากวิจารณ์ว่า น.ส.แพทองธารบอกพิกัดทำไม เป็นห่วงคนทางบ้าน ทั้งที่ทหารขอความร่วมมือห้ามระบุพิกัดและตำแหน่งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเวลานี้ เพราะอาจจะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือโจมตีผู้บริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม ได้มีการลบข้อความในส่วนดังกล่าวในเวลาต่อมา ขณะที่อีกเรื่องแม้จะไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเองโดยตรงแต่คนในครอบครัวก็มีส่วนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ขึ้นมา โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความสะเทือนใจว่า ขณะพาแม่ซึ่งมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง และเกิดอาการปวดหัวรุนแรง อาเจียน เดินไม่ได้ และพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเอง เนื่องจากเกรงใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยผู้ป่วยคนอื่นอพยพในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
ทว่า แต่เมื่อขับรถใกล้ถึงหน้าห้องฉุกเฉิน กลับถูกสั่งให้ “หยุดรอ” เพราะมีอดีตนายกรัฐมนตรีรายหนึ่งเดินทางมาเยี่ยมและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยยังไม่สามารถนำผู้ป่วยเข้าไปในโซนฉุกเฉินได้ทันที
“เรามีแม่แค่คนเดียว หนึ่งวินาทีก็มีค่ามากสำหรับคนรอ ไม่รู้เลยว่าแม่เป็นหนักแค่ไหน แค่ขอให้ได้เข้าไปถึงมือหมอไวที่สุดก็พอ” เจ้าของโพสต์ระบุ
โดยหลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจึงรีบเข้าช่วยเหลือแม่ของผู้โพสต์อย่างเต็มที่ และพาเข้ารับการตรวจ CT สแกนสมองโดยด่วน ซึ่งลูกสาวได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน พร้อมภาวนาขอให้แม่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้สร้างเสียงวิจารณ์ในโซเชียลอย่างกว้างขวาง หลายคนตั้งคำถามว่า “ภาพลักษณ์” ของผู้นำหรือบุคคลสาธารณะ ควรมาเหนือ “ความเป็นความตาย” ของประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินที่วินาทีเดียวอาจเปลี่ยนทุกอย่าง