วันนี้ (24 ก.ค.) อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันที่ 24 ก.ค. เวลา 11.28 น.
สถานการณ์ล่าสุด
11.28 น. กัมพูชาใช้ BM-21 โจมตีพื้นที่พลเรือนของไทย เร่งอพยพประชาชน อ.บ้านกรวด จ.สุรินทร์ อ.พนมดงรัก อ.สังขะ จ.ศรีสะเกษ อ.น้ำขุ่น อ.กันทรลักษ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
10.58 น. F-16 ยิง บก.พลน้อย.สสน.8 บก.พลน้อย.สสน.9 ของกัมพูชาถูกทำลาย
10.49 น. เครื่องบินขับไล่ F16 จำนวน 6 ลำ เตรียมตอบโต้พื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
10.31 น. กองทัพบกแจ้งพื้นที่ปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร (ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอานม้า และช่องจอม
10.04 น. ฝ่ายกัมพูชาพยายาม รุกล้ำพื้นชายแดน บริเวณปราสาทตาควาย กองทัพบกอนุมัติยิงปืนใหญ่เพื่อปกป้องอธิปไตย
09.54 น. จังหวัดชายแดนเกิดการปะทะทุกพื้นที่ ได้แก่ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ พบกัมพูชา ยิงใส่พื้นที่ชุมชนบริเวณศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เร่งอพยพด่วน
09.44 น. กัมพูชาใช้จรวด BM-21 ยิงจากฐานยิงเขาแหลมห่างช่องจอม ประมาณ 6 กิโลเมตร ตกใส่ปราสาทโดนตวล จ.ศรีสะเกษ
09.14 น. เกิดการปะทะตลอดหน้าแนว ทั้งอาวุธปืนเล็ก อาวุธหนักบริเวณปราสาท และกัมพูชามีการใช้อาวุธปืนยิงแตกอากาศ เข้ามาฝั่งไทย ทหารไทยบาดเจ็บแล้ว 1 นาย
08.50 น. กัมพูชาใช้ปืนใหญ่ยิงปราสาทตาเมือนธม
08.41 น. กัมพูชาเปิดฝ่ายยิงเข้าใส่ฐานหมูป่า ตรงข้ามปราสาทตาเมือนธม 200 เมตร กัมพูชาเอาประชาชนเป็นโล่ ปืนใหญ่กัมพูชาวางไว้ในพื้นที่ชุมชน
ที่มา : เรียบเรียงจากเฟซบุ๊ก กองทัพบก ทันกระแส, กองทัพภาคที่ 2
ด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า จากเหตุปะทะบริเวณปราสาทตาเมือนธม ขณะนี้สถานบริการของกระทรวงสาธารณสุข เริ่มปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ โดยโรงพยาบาลพนมดงรัก เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว ส่วนโรงพยาบาลกาบเชิง กำลังเคลื่อนย้ายคนไข้ตามแผน
กระทรวงมหาดไทย รายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินการอพยพประชาชนที่พักอาศัยตามแนวชายแดนไปยังพื้นที่ปลอดภัยตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังแล้ว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ พื้นที่จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราด และ ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เตรียมความพร้อมอพยพประชาชนตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจของประชาชนตามแผนปฏิบัติการที่ได้ซักซ้อมไว้ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด พร้อมทั้งดำเนินการด้านการแพทย์และสาธารณสุข การจัดตั้งโรงครัวประกอบอาหาร การดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่พักพิงชั่วคราว การดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนของประชาชน และด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง