ต้อนจนมุม เจ้าอาวาสวัดม่วงสารภาพขายทองจริง หลังตำรวจแกะรอยพบเช็ค 5 ล้านบาท โยงธุรกรรมร้านทองเยาวราช คดีเงิน 10 ล้าน ทอง 250 บาทหาย ตำรวจเร่งสอบเส้นทางการเงิน เตรียมแจ้งข้อหา
คดีการหายไปของเงินสดกว่า 10 ล้านบาท และทองคำแท่งหนักถึง 250 บาทจากวัดม่วง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร กลายเป็นหนึ่งในคดีที่สังคมจับตามอง เมื่อทรัพย์สินของวัดจำนวนมากหายไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนที่ตำรวจจะค่อย ๆ แกะรอย จนพบจุดเชื่อมโยงสำคัญที่ไม่ธรรมดา
เรื่องนี้เริ่มต้นจากกระบวนการในการตรวจสอบการบริหารจัดการของวัดม่วงที่พบว่า เงินสดจำนวน 10 ล้านบาท และทองคำแท่ง 250 บาทหายไปอย่างน่าประหลาด ตำรวจจึงเริ่มการสืบสวนอย่างเป็นทางการ โดยมีชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในที่สุดจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้นเมื่อตำรวจพบข้อมูลจากร้านทองแห่งหนึ่งในย่านเยาวราช ซึ่งได้บันทึกธุรกรรมการขายทองคำแท่งจำนวนประมาณ 170 บาท เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ขายได้รับเงินสดบางส่วน อีกส่วนได้รับเป็น **เช็คเงินสด 2 ใบ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ล้วงลึกลงไปยังพบเห็นอีกว่าเช็คทั้งสองใบนั้นถูกนำไปขึ้นเงินที่ธนาคาร และเงินถูกส่งต่อไปให้เจ้าอาวาสวัดม่วงโดยตรง
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามเจ้าอาวาสถึงเงินและทองที่หายไป ตอนแรกเจ้าอาวาสอ้างว่า "ไม่รู้เรื่อง"* แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำเอกสารจากร้านทองและธนาคารมาแสดง เจ้าอาวาสกลับเปลี่ยนคำให้การว่า "ลืม" ก่อนที่ในที่สุดจะยอมรับว่าได้นำทองไปขายจริง
ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุว่า “เบื้องต้นจากการไปไล่บี้สอบถามเจ้าอาวาส ตัวท่านเองก็ยอมรับว่าจำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง ลืมบ้าง ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นเหม่ ที่จะถูกดำเนินคดีด้วย”
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ส่วนจะมีการซื้อขายทองตามที่มีรายงานออกมานั้น อยู่ระหว่างการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการไล่เส้นทางการเงินต่างๆ แต่จะไปลงลึกว่าเจอทองกี่บาทนั้น ยังไม่ทราบ เพราะรู้เพียงคร่าวๆ ว่าท่านพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รู้แค่ว่าท่านจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าท่านจำได้หรือไม่ว่าเอาทองไปขายจำนวนเท่าไหร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก็ความจำเริ่มดีขึ้น หลังจากการซักถามข้อเท็จจริง เบื้องต้นก็ยอมรับว่าเอาทองไปขายจริงๆ