เอเจนซีส์ – องค์การอนามัยโลก WHO แถลงล่าสุดว่า กองทัพอิสราเอลทำร้ายเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่และโกดังหลักในเดอีร์ อัล-บาลาห์วันจันทร์(21 ก.ค) กระทบต่อปฎิบัติการในกาซา ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ ร้องเทลอาวีฟเปิดทางให้สื่อต่างประเทศเข้าไปรายงานสถานการณ์ในเขตฉนวนกาซาได้เสรีหลังพบนักข่าวเอเอฟพีหลายคนด้านในกำลังเสี่ยงขาดอาหารถึงขั้นเสียชีวิต ภายใน 24 ช.มล่าสุดมีชาวปาเลสไตน์รวมเด็กและทารกดับจากการขาดอาหารไปแล้ว 15 ราย
ไทม์ออฟอิสราเอลรายงานวันนี้(22 ก.ค)ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noel Barrot)ออกมาเรียกร้องให้อิสราเอลเปิดไฟเขียวอนุญาตให้สื่อต่างชาติเข้าไปในเขตฉนวนกาซาท่ามกลางการเตือนวิกฤตอดอาหารร้ายแรงรวมนักข่าวที่อยู่ในพื้นที่ หลังเกิดสงครามนาน 21 วัน
“ผมร้องขอให้สื่อเอกเทศน์และอิสระสามารถเดินทางเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นที่นั่นและเพื่อเป็นประจักษ์พยาน” บาร์โรต์ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุนานาชาติฝรั่งเศสระหว่างกำลังเยือนทางภาคตะวันออกของยูเครน
ทั้งนี้อิสราเอลที่ผ่านมาได้สั่งห้ามเกือบทั้งหมดสำหรับสื่อต่างประเทศในการที่จะเดินทางเข้าไปในกาซาหลังเกิดสงครามเมื่อวันที่ 7 ต.ค ปี 2023 ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีข้ามแดนเข้าไปในอิสราเอล
เทลอาวีฟแสดงเหตุผลการห้ามสื่อต่างชาติเข้าสู่กาซาว่า เป็นความวิตกกังวลความปลอดภัยขั้นสูงมากต่อผู้ที่จะเข้าไปด้านในเว้นแต่เป็นการเยือนที่ต้องได้รับการอารักขาและจัดการโดย IDF เท่านั้น
คำขอจากรัฐมนตรีต่างประเทศแดนน้ำหอมเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สมาพันธ์นักข่าวเอเอฟพีออกแถลงการณ์เรียกร้อง โดยอัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า
สมาพันธ์นักข่าวเอเอฟพี (The AFP Journalists’ Association) ร่อนแถลงการณ์เตือนว่า นักข่าวเอเอฟพีที่ทำงานอยู่ในเขตฉนวนกาซากำลังเสี่ยงที่จะต้องเสียชีวิตจากการต้องขาดอาหาร
พบว่ามีนักข่าว 1 คนจากทั้งหมด 10 คนของนักข่าวฟรีแลนซ์อิสระที่ทำงานให้กับสำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสได้โพสต์เมื่อวันที่ 19 ก.คทางโซเชียลมีเดียว่า
“ผมไม่มีกำลังในการทำงานด้านสื่อสารมวลชน ตัวของผมนั้นผอมมากและผมไม่สามารถทำงานได้”
ถึงแม้ว่านักข่าวเหล่านี้จะได้รับเงินเดือน แต่ทว่าจากการที่ต้องอยู่แต่ภายในเขตกาซาที่โดนปิดล้อมและสถานการณ์ด้านในมีความรุนแรงสูงจากที่ไม่มีสิ่งที่จะหาซื้อได้ไปจนถึงมีการปั่นราคาสินค้าสูงเกินจะหาซื้อไหว
สมาพันธ์นักข่าวเอเอฟพีกล่าวว่า “พวกเรากำลังอยู่ในความเสี่ยงต่อการที่จะรับรู้ถึงการเสียชีวิตคนเหล่านี้ที่อาจจะเกิดได้ทุกขณะ และสิ่งนี้ไม่สามารถเป็นที่อดทนต่อเราได้”
อัลญะซีเราะห์ชี้ว่า สถานการณ์วิกฤตขาดอาหารในกาซารุนแรงมากมีทารก 1 รายและเด็ก 1 คนเพิ่งตายจากการขาดอาหาร โดยกระทรวงสาธารณสุขกาซาออกแถลงการณ์ว่า ภายใน 24 ช.มที่ผ่านมามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการขาดอาหารไปแล้วจำนวน 15 คน ส่งผลทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการขาดอาหารทั้งหมดรวม 101 คนและในจำนวนนี้รวมเด็ก 80 คนนับตั้งแต่เริ่มเกิดสงครามกาซา
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันจันทร์(21)ว่า องค์การอนามัยโลก WHO ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กองทัพอิสราเอลทำร้ายเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของ WHO และรวมไปถึงยังโจมตีโกดังหลักที่ตั้งอยู่ในเดอีร์ อัล-บาลาห์( Deir al-Balah) วานนี้(21) ขัดขวางปฎิบัติการช่วยเหลือทางสาธารณสุข
โกดังหลักของ WHO ตั้งอยู่ภายในโซนอพยพนั้นโดนกองกำลัง IDF โจมตีในวันอาทิตย์(20) ทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ด้านในโกดัง โดยองค์การอนามัยโลกแถลงว่า โกดังมีความเสียหายหลังเกิดเหตุ
WHO แถลงยืนยันว่าจะยังคงอยู่ในเดอีร์ อัล-บาลาห์ต่อและจะขยายปฎิบัติการออกไปถึงแม้จะโดนโจมตีก็ตาม
ทั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่ประจำของ WHO ถูกโจมตี 3 ครั้งและมี 4 คนถูกควบคุมตัว และอีก 3 คนถูกควบคุมชั่วคราวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รถถัง IDF เคลื่อนตัวเข้าสู่เขตเดอีร์ อัล-บาลาห์
องค์การอนามัยโลกชี้ว่า นอกจากนี้การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลยังทำให้เกิดเพลิงไหม้และความเสียหายเป็นวงกว้าง
เดอะการ์เดียนชี้ว่า กองกำลังรถถังอิสราเอลเข้าสู่เขตทางใต้และเขตตะวันออกของเดอีร์ อัล-บาลาห์ ซึ่งเป็นพื้นที่แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยว่า กองทัพอิสราเอลเชื่อว่าอาจเป็นจุดที่ตัวประกันอาจถูกจับไว้
รถถังยิวยิงโจมตีเข้าไปในพื้นที่ยิงไปที่บ้านเรือนประชาชนและมัสยิก สังหารชาวปาเลสไตน์ไปไม่ต่ำกว่า 3 รายและมีอีกจำนวนไม่มากนักบาดเจ็บอ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินการแพทย์กาซา