xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเร่งเก็บกู้ระเบิด พร้อมตอบโต้ทันที ไม่จำเป็นต้องรอรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ทหารไทยเจ็บ 3 นายเหยียบกับระเบิดชายแดนเขมร! แม่ทัพภาค 2 สั่งกู้เร่งด่วน พร้อมตอบโต้ทันทีไม่รอรัฐบาล ยันฝั่งตรงข้ามวางชัดเจน กองทัพบกเสริมกำลังพล-ยุทโธปกรณ์หนักคุมเข้ม เก็บหลักฐานยื่น UN ประท้วงกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

จากเหตุการณ์ที่มีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ส่งผลให้สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ในเรื่องนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แสดงท่าทีว่า ผลการตรวจกับระเบิดช่องบกว่า จุดแรกที่พบ 3 ทุ่น ลักษณะการวาง บนผิวดิน รัศมีการวางห่างกัน 40 เซนติเมตร มีใบไม้ปกปิดจุดที่ 2 เจอ 5 ทุ่น การวางเหมือนแบบแรกแต่รัศมีการวางกระจายออกไป ห่างประมาณ 90 เซนติเมตร จากการกู้กับระเบิดทั้ง 8 ลูก มีตัวอักษรชัดเจน ประกอบการวางสามารถบ่งชี้ได้ว่าเป็นของใหม่ หากเป็นของเก่า จะมีวัชพืชปกคลุม สำหรับจุดที่วางเลยแนวการวางกำลังทหารกัมพูชาประมาณ 100-150 เมตร กองกำลังสุรนารีจะเก็บกู้ทั้งหมดเนื่องจากอยู่ในแผ่นดินไทยโดยใช้ความระมัดระวัง และคาดว่ายังมีหลงเหลืออยู่อีกเป็นหลักร้อย เป็นชนิดเดียวตามที่ปรากฏเป็นข่าว

พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ได้ดำเนินการรายงาน ไปถึงศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และกองทัพบกจะนำเสนอรัฐบาล ให้กระทรวงต่างประเทศยื่นเรื่องไปที่ ยูเอ็น เรื่องอนุสัญญาออตตาวา ยืนยันว่าคู่กรณี เป็นคนวางชัดเจน ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 2 ที่จะดำเนินการต่อไปและเป็นเรื่องการทางทหาร ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐบาล ถือเป็นยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการตอบโต้ได้เลย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด Mine Clearing เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดต่อ และรถถากถางติดตั้งเกราะ เพื่อเป็นการเคลียร์ทำพื้นที่ให้ปลอดภัย ซึ่งมีการติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยและป็นการเก็บหลักฐาน เพื่อชี้ให้เห็นว่าทางกัมพูชาได้ละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ ทางไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศจะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่าน UN และทางกองทัพบกจะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลสอบกรณีกับระเบิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ช่วงเย็นวันที่ 19 กรกฎาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา(ศบ.ทก.) ได้เรียกประชุมฝ่ายเลขาฯ ของคณะกรรมการ ศบ.ทก.ในวันนี้ เวลา 14.00 น. โดยจะเป็นการกำหนดแนวทางกรณีกองทัพภาคที่ 2 รายงานผลการตรวจสอบกรณีกำลังพลที่จังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและเหยียบกับระเบิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 2 เก็บข้อมูลหลักฐาน และผลการพิสูจน์ ทั้งหมดรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรให้ฝ่ายเลขาฯ ศบ.ทก.ทราบ

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า จากนั้นในวันที่ 21 กรกฎาคม จะเป็นการประชุมคณะกรรมการ ศบ.ทก. ชุดใหญ่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เต็มคณะทั้งจากกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงที่เป็นคณะกรรมการของ ศบ.ทก. เข้าร่วม เพื่อหารือถึงผลการพิสูจน์กับระเบิด และการกำหนดท่าทีที่จะดำเนินการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น