ปชป.เริ่มออกอาการ บ่นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน งบกระจุกคมนาคม ไม่กระจายทั่วถึง รมต.พรรคสีฟ้าบ่นกลาง ครม. ภูมิธรรมต้องไกล่เกลี่ย ชี้ยังปรับได้ หวั่นซ้ำรอยร้าวรัฐบาล
ย้อนกลับไปภายหลังรัฐบาลล้มเลิกโครงการเงินดิจิทัล และตัดสินใจนำงบประมาณกว่า 1.57 แสนล้านบาทมาเป็นงบประมาณสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี อนุมัติกรอบวงเงิน 115,375 ล้านบาท จำนวน 481 โครงการ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ได้ผลในระยะยาว ปรากฎว่าเวลานั้นมีเสียงวิจารณ์พอสมควรถึงการเกลี่ยสัดส่วนการใช้เงินงบประมาณ เนื่องจากงบประมาณจำนวนไม่น้อยไปกระจุกตัวอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ผ่านการพิจารณา 26 โครงการ วงเงิน 45,864 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 6 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงและพัฒนาถนนเชื่อมเมืองรอง 2. เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง 3.พัฒนาโครงข่ายส่งเสริมพื้นที่เกษตรกรรม 4. ปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย 5. แก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟและถนนเสมอระดับ 6. แก้ไขปัญหาจราจร พื้นที่คอขวด และพื้นที่ขาดความเชื่อมโยง โดยคาดว่า จะสามารถพัฒนาถนนในภาพรวมได้ 417 กิโลเมตร ซ่อมบำรุง ปรับปรุง และยกระดับเส้นทางได้ 1,689 แห่ง อำนวยความปลอดภัยได้ 3,604 แห่ง และสามารถสร้างการจ้างงานได้ 2.85 แสนคน
ปรากฎว่าเวลานี้เริ่มมีเสียงบ่นจากรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลออกมากลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เห็นแล้ว โดยมีรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยในช่วงท้ายการประชุม นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกเรื่องงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ทั้งที่ไม่ได้มีอยู่ในวาระขึ้นมาหารือ โดยนายเดชอิศม์ พูดในที่ประชุมลักษณะท้วงติงว่า การจัดสรรงบดังกล่าวไม่ทั่วถึง กระจุกแต่ไม่ได้กระจาย
ขณะที่ นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นสนับสนุนไปในแนวทางเดียวกับนายเดชอิศม์ ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและตัวแทนสำนักงบประมาณ ช่วยกันอธิบายว่า การจัดสรรงบทั่วถึงทุกพื้นที่ ทั้งนี้ มีการถกกันเรื่องนี้สักพักใหญ่ จนนายภูมิธรรม ต้องไกล่เกลี่ยว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่จบ ยังสามารถปรับปรุงได้อยู่
ไม่รู้เหมือนกันว่างานนี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความร้าวฉานของรัฐบาลที่ปัจจุบันเหลือแต่ซากหรือไม่