ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันอังคาร(15ก.ค.) เผยว่าเขาบรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซีย ผลก็คือได้รับคำมั่นสัญญาณจัดซื้ออย่างมากจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ตามหลังการเจรจาหลีกเลี่ยงเพดานภาษีระดับสูง
ทรัมป์ โพสต์ข้อความบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าสินค้าต่างๆของอินโดนีเซียที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ จะถูกรีดภาษี 19% ถือว่าลดลงอย่างมากจากระดับ 32% ที่ประธานาธิบดีอเมริกาเคยขู่ก่อนหน้านี้
"ส่วนหนึ่งในข้อตกลง อินโดนีเซียสัญญาจะซื้อพลังงานสหรัฐฯ 15,000 ล้านดอลลาร์(4.8แสนล้านบาท), สินค้าการเกษตรของอเมริกา 4,500 ล้านดอลลาร์(1.45แสนล้านบาท) และเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ ในนั้นจำนวนมากเป็น 777" ทรัมป์เขียน
รัฐบาลทรัมป์อยู่ภายใต้แรงกดดันให้ปิดข้อตกลงการค้าต่างๆ ท่ามกลางการเจรจาอย่างกระวีกระวาดเมื่อเร็วๆนี้ ในขณะที่ประเทศต่างๆหาทางต่อรองกับวอชิงตัน เพื่อหลีกเลี่ยงแผนรีดภาษีของประธานาธิบดีรายนี้
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ทรัมป์ เพิ่งเปิดตัวข้อตกลงการค้าไปไม่ได้ข้อตกลง โดยนอกเหนือจากอินโดนีเซียแล้ว ข้อตกลงอื่นมีเพียงแค่กับสหราชอาณาจักรและเวียดนาม เช่นเดียวกับข้อตกลงในการปรับลดศึกรีดภาษีตอบโต้กันไปมากับจีนเป็นการชั่วคราว
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ ส่งเสียงขู่อีกรอบว่าจะรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซีย 32% ระบุในจดหมายที่ส่งถึงผู้นำของประเทศแห่งนี้ ว่ามันจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม
ทรัมป์ ระบุบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า ภายใต้ข้อตกลง ที่ได้ข้อสรุปหลังจากที่เขาพูดคุยกับ ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย บรรดาสินค้าส่งต่อเพื่อหลีกเลี่ยงเพดานภาษีระดับสูง จะยังต้องเจอกับมาตรการรีดภาษีสูงลิ่ว
เขาบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่าข้อตกลงอื่นๆอยู่ระหว่างการเจรจา ในนั้นรวมถึงกับอินเดีย ขณะเดียวกันก็ยังคงเดินหน้าพูดคุยกับสหภาพยุโรป
ดิโน แพตติ จาลัล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย เผยกับเวทีกิจกรรมนโยบายต่างประเทศในวันอังคาร(15ก.ค.) ว่าพวกคนวงในของรัฐบาลบ่งชี้ว่าพวกเขามีความพึงพอใจกับข้อตกลงใหม่
เมื่อเดือนเมษายน ทรัมป์ กำหนดมาตรการรีดภาษีพื้นฐาน 10% กับคู่หูการค้าเกือบทุกชาติ แต่ขณะเดียวกันก็แถลงแผนว่าท้ายที่สุดแล้วจะปรับเพิ่มเพดานภาษีกับประเทศต่างๆหลายสิบชาติ ในนั้นรวมถึงอียูและอินโดนีเซีย
อย่างไรก็ตามก่อนมาตรการรีดภาษีสูงลิ่ว ซึ่งกำหนดแตกต่างกันไปแต่ละประเทศ จะมีผลบังคับใช้ ทรัมป์ได้เลื่อนเส้นตายอออกไปจากวันที่ 9 กรกฏาคม เป็น 1 สิงหาคม ถือเป็นการเลื่อนรีดภาษีเป็นครั้งที่ 2 ของเขา
ในจดหมายที่ทะยอยส่งถึงบรรดาคู่หูการค้านับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ระบุว่ามาตรการรีดภาษีที่ประเทศต่างๆต้องเผชิญนั้นจะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม โดยจนถึงตอนนี้เขาส่งหนังสือไปแล้วมากกว่า 20 ฉบับ ในนั้นรวมถึงสหภาพยุโรป, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ มาเลเซีย
แคนาดาและเม็กซิโก 2 ชาติที่เบื้องต้นไม่ได้เป็นเป้าหมายในมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของทรัมป์ในเดือนเมษายน ก็ได้รับจดหมายแบบเดียวกัน ที่อัพเดทเพดานภาษีที่สินค้าของพวกเขาต้องเผชิญ
พวกนักวิเคราห์เตือนว่าหากปราศจากข้อตกลงการค้า เหล่าอเมริกันชนอาจได้ข้อสรุปว่ายุทธศาสตร์ของทรัมป์ ในการยกเครื่องความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับทั่วโลกนั้น "ไม่ได้ผล"
"ในความคิดของประชาชน มาตรการรีดภาษีคือความเจ็บปวด ข้อตกลงต่างๆจะถือเป็นกำไร ถ้าไม่มีข้อตกลง ประชาชนจะสรุปว่ายุทธศาสตร์ของเขาบกพร่อง" วิลเลียม ไรน์ช ที่ปรึกษาระดับสูงของศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และระหว่างประเทศ เคยบอกกับเอเอฟพี
(ที่มา:เอเอฟพี)