แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบบลูบังเกอร์จาก ”อุเทนถวาย” ปลื้มฝีมือเด็กช่างช่วยชาติ ชี้ถ้ามองอุเทนถวายไม่ดี ก็ต้องมองแม่ทัพฯ ไม่ดีด้วยเพราะเป็นเด็กอาชีวะ - ลูกพระวิษณุกรรมเหมือนกัน ฝากรุ่นพี่อย่าปลูกฝังรุ่นน้องเป็นศัตรูสถาบันอื่น ย้ำประเทศหมดเวลาทะเลาะกัน ให้มีเมตตาต่อกัน เสียสละแล้วคนจะมองอาชีวะดีขึ้น เตรียมเดินสายช่างกลทั่วประเทศ หยอดขอนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษาเด็กช่างแห่งประเทศไทย
วันนี้(15 ก.ค.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย ได้ทำพิธีมอบบลูบังเกอร์ ให้แก่กองทัพภาคที่ 2 เพื่อเสริมความมั่นคง และความปลอดภัยให้กับทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมารับมอบด้วยตนเอง โดยมีคณบดีและผู้บริหารของอุเทนถวาย เป็นผู้ส่งมอบด้วย
พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวกับคณบดีและผู้บริหารของอุเทนถวาในตอนหนึ่งว่า ตนในฐานะที่ได้รับใช้ราช ราชวงศ์ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 9 จนมาถึงรัชกาลที่ 10 เป็นราชองครักษ์เวรมาตั้งแต่ยศพันตรี จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ไม่ได้หากไม่มีสถาบัน วันนี้ต้องขอบคุณผู้บริหารและคณาจารย์ ที่มีแนวคิดในความเสียสละและต้องการทำเพื่อส่วนรวม ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งตนเกิดมาชาติหนึ่งก็อยากเห็นคนไทย นำความคิดและศักยภาพที่มีมาช่วยกัน ทหารเก่งเฉพาะเรื่องของการทหาร ส่วนที่กำบัง มาอย่างไรตนไม่ทราบ แต่วันนี้ก็ได้รับจากพี่น้องชาวอุเทนถวาย
พลโท บุญสิน ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ได้มาเยือนอุเทนถวาย เหมือนได้ย้อนอดีตไปสมัยเมื่อตนเรียนเด็กช่าง เพราะตนเป็นเด็กอาชีวะเก่า วันนี้ ได้มาเห็นบรรยากาศเก่า ๆ ก็มีความคิดถึงสมัยเรียน และตนอยากเป็นที่ปรึกษาเด็กช่างแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่รู้ว่ามีตำแหน่งนี้หรือไม่ ซึ่งตนอยากบอกน้อง ๆ ว่าเรื่องการตีรันฟันแทงไม่มีประโยชน์ หมดสมัยไปแล้ว เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้น อยากให้ดูว่าประเทศชาติปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ผู้ที่เสียสละและรักชาติบ้านเมืองเท่านั้นที่จะรักษาแผ่นดินนี้ไว้ได้ ให้ลูกหลานมีที่อยู่อาศัย จึงอยากนำเด็กช่างมาช่วยกันทำความดีเพื่อชาติ รู้จักเสียสละ เรียนรู้หลักศาสนา ไม่เช่นนั้นจะไม่กลัวบาป จะมีความเห็นแก่ตัว ยืนยันว่าเวรกรรมต่าง ๆ มีจริง ตนเป็นทหารก็เจอมาหมดแล้ว ได้เห็นการเสียชีวิตทุกรูปแบบ ในการต่อสู้กับผู้เห็นต่างในพื้นที่ที่มีปัญหา
พลโท บุญสิน ยังกล่าวชื่นชม สถาบันอุเทนถวาย ที่มีแนวคิดในการพัฒนาและสร้างสรรค์บลูบังเกอร์ขึ้น เพื่อเสริมความปลอดภัยของทหารในพื้นที่ชายแดน ซึ่งกองทัพบก โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 จะให้ความร่วมมือเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ในทุกรูปแบบ และตราบใดที่ตนยังเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 อยู่
จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้พบปะ และกล่าวให้โอวาทกับนักศึกษาอุเทนถวายตอนหนึ่ง ว่าตนเป็นศิษย์เก่าอาชีวะ มีจิตวิญญาณเป็นเด็กช่าง เรียน ปวช. และ ปวส. ชีวิตผกผันมาเป็นทหาร เข้ามาในรั้ววิษณุกรรมนึกถึงอดีตทันที เห็นพวกเราแล้วมีความสุขและขอชื่นชม ที่พวกเราช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ มีโครงการดี ๆ ผลิตบังเกอร์ให้ทหารที่อยู่หน้าแนวได้รับความปลอดภัย น้อง ๆ ทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นทหาร ตำรวจ เราเป็นวิศวกรหรือทำอาชีพอื่น ๆ ก็สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ ขอให้เป็นคนดีของแผ่นดิน ของประเทศชาติ และนึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษของพวกเรา ที่ให้แผ่นดินพวกเราอยู่ ต้องอดทน ขยัน มุ่งมั่นที่จะเรียนหนังสือเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับประเทศชาติต่อไป
ทั้งนี้ หนึ่งในนักศึกษาอุเทนถวาย ได้ถาม พลโท บุญสิน ถึงภาพลักษณ์ของสถาบัน ที่ถูกสังคมภายนอกมองว่าเกเร ในมุมมองของแม่ทัพที่ได้มาเห็นวันนี้เป็นอย่างไร พลโท บุญสิน กล่าวว่า ถ้าเขามองอุเทนถวายไม่ดี ก็ต้องมองแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ดีด้วย เพราะแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นเด็กอาชีวะ เป็นลูกพระวิษณุกรรมเก่า ทุกครั้งที่เขาด่าอาชีวะ แม่ทัพภาค 2 เจ็บใจตลอด เขาไม่รู้ว่าผมคือลูกพระวิษณุกรรมคนหนึ่ง ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด สิ่งนี้เราต้องใช้เวลาแสดงออกต่อสังคม
พร้อมฝากถึงน้อง ๆ ว่าความดีเราไม่ต้องไปพูด แต่เราต้องทำ ทำเรื่อย ๆ สังคมก็จะเห็นเอง อย่างช่วงที่ผ่านมารุ่นพี่เรา ไปมอบสิ่งของ มอบบลูบังเกอร์ มอบงบประมาณช่วยเหลือกองทัพภาคที่ 2 เป็นกำลังแรงหนึ่งต่อสู้เพื่อแผ่นดินไทย ขอให้พี่น้องคนไทยได้เห็น และมีข่าวออกมา ประชาชนก็จะชื่นชมอุเทนถวาย สิ่งที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป อย่าเอาอดีตมาเป็นตัวตั้ง พร้อมฝากถึงรุ่นพี่เราว่า อาชีวะทุกที่ก็เป็นลูกพระวิษณุกรรมเหมือนกัน เป็นคนไทยเหมือนกัน อย่าไปมองว่าเขาเป็นศัตรู ฝากรุ่นพี่อย่าไปปลูกฝังรุ่นน้องให้เป็นศัตรูกับสถาบันอื่นเด็ดขาด อย่าไปคิดแบบเก่า มันหมดสมัยไปแล้ว
“สมัยพี่เอง ก็เคยดวลกัน วิ่งไปตั้งหลักก่อนค่อยดวล ก็เคยบาดเจ็บ แต่ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะรุ่นพี่มาบอก แต่หมดเวลาแล้ว ประเทศไทยไม่มีเวลาที่คนไทยจะทะเลาะกันแล้ว น้องดูเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นตัวหลักประเทศข้างเคียงเขารวมกันเป็นหนึ่ง เอะอะมาเขารวมตัวได้เป็นแสน เพื่อต่อสู้ให้ผู้นำเขาและแผ่นดินเขา เราต้องมีเมตตาต่อกัน อาชีวะ น้อง ๆ มัธยมต้น มัธยมปลาย คนคือไทยคนหนึ่ง เขามีบิดามารดา มีครอบครัว บางคนเป็นลูกคนเดียว เพราะฉะนั้นเราต้องมีเมตตา เช่นไปเข้าวัดทำศาลา เสียสละเพื่อส่วนรวม สิ่งเหล่านี้จะทำให้สังคมมองเราดีเอง ส่วนตัวแม่ทัพไม่เคยมองอุเทนถวายดุดันเลย แต่เป็นสถาบันหนึ่งที่แม่ทัพเคยอยากจะเข้ามาเรียน เพราะเรียนช่างบ้านนอกมา ทั้งอุเทนถวาย เทคโนพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นชื่อที่คุ้นชื่อและชั้นนำ จึงขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อ เพื่อศักดิ์ศรีสถาบันเรา อาชีวะศึกษา”
จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้เข้าร่วมพิธีรับมอบบลูบังเกอร์บริเวณฐานปฏิบัติการ จำลอง 225 โยธาพญาไท พร้อมร้องเพลงชาติกับนักศึกษา คณาจารย์ ก่อนเข้าชม บลูบังเกอร์ที่พัฒนา 5 แบบ พร้อมรับมอบวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกและขวัญกำลังใจจาก พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต (พระขี่ม้าบิณฑบาตร) เจ้าอาวาส สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง จังหวัดเชียงราย ที่ค่ายอาสาฯ อุเทนถวายไปซ่อมสะพานให้เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ จ.เชียงราย ปี 2567 พร้อมรับ
มอบโล่ บุคคลดีเด่นจากสมาคมศิษย์เก่า
ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน เชื่อมั่นว่า บลูบังเกอร์ จะเป็นประโยชน์ให้กับทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน ซึ่งต้องพิจารณาว่าจะนำไปใช้ในพื้นที่ส่วนหลังหรือแนวหน้า เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยพิจารณาเรื่องความปลอดภัยของกำลังพล โดยจะมีการทดลอง ประเมินผลในการป้องกันกระสุนปืนหรือสะเก็ดระเบิดจากปืนใหญ่ในระดับใดบ้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนารุ่นต่อๆไป
สำหรับ บลูบังเกอร์" (Blue Bunker Army) คือนวัตกรรมใหม่แห่งหลุมหลบภัยและฐานปฏิบัติงานเคลื่อนที่ ที่ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของอุเทนถวายได้ร่วมกันประกอบและจัดสร้างขึ้น เพื่อส่งมอบให้กับกองทัพภาคที่ 2 สำหรับทหารแนวหน้าทุกคน และขยายผลสู่โรงเรียน ชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
โดยผลิตจากวัสดุท่อโปไปป์ที่สามารถกันกระสุนได้ แข็งแรงทนทานสูง น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก และยังสามารถยกระดับใส่เทคโนโลยี เครื่องมือสื่อสาร เพื่อเป็นฐานบัญชาการได้อีกด้วย ทั้งนี้ทางอุเทนถวาย ได้ผลิตบลูบังเกอร์ ขึ้นเพื่อสนับสนุนกองทัพบกไทย เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ ตามแนวชายแดน หรือมอบให้กับพี่น้องประชาชนที่ มี บ้านเรือน อยู่ตามใกล้พื้นที่ชายแดน