แฉกองทุนฯโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ส่อฉาวสุดซอย!อดีตนายก อบต.คนดัง-ชาวบ้าน ลุยรื้อคดีฟ้อง คพรต.ยัน ตร.

ลำปาง - อดีต นายก อบต.คนดังแม่เมาะ 3 สมัย พร้อมตัวแทนชาวบ้านลุยสุดซอย..ขอคุ้ยโครงการกองทุนโรงไฟฟ้าแม่เมาะยกกระบิ หลังหอบทั้งภาพ/คลิป ยื่นฟ้องประธาน คพรต.สบป้าด กับพวก เอี่ยวโครงการ 2.5 ล้านมีเงื่อนงำ ตร.กลับสั่งไม่ฟ้อง ต้องร้องปปช. จนมีมติให้อัยการสั่งตำรวจรับคดี-สอบเพิ่มแล้ว


นายสุนทร ใจแก้ว อดีต นายก อบต.สบป้าด ซึ่งเป็นอดีตนายก อบต.คนดังของแม่เมาะ จ.ลำปาง อีกคนหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งติดต่อกัน 3 สมัย เปิดเผยว่า ตนพร้อมกับตัวแทนชาวบ้านได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เมื่อ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา กันทั้งวัน

กรณีฟ้อง ผกก.พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ รวม 4 นาย ที่ไม่รับคำร้องที่ตนและตัวแทนชาวบ้านเข้าแจ้งความประธานกองทุน คพรต.ตำบลสบป้าด พร้อมคณะกรรมการ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกี่ยวกับโครงการที่ได้รับจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 4 โครงการ รวม 2.5 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก ตนและตัวแทนชาวบ้านสบป้าด ม.1 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้เข้าแจ้งความ ประธานกองทุน คพรต.ตำบลสบป้าด พร้อมคณะกรรมการ คพรต.ตำบลสบป้าด ที่ สภ.แม่เมาะ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.67 ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีพฤติกรรมทุจริต ยักยอกเงินโครงการ 4 โครงการ วงเงินรวม 2.5 ล้านบาท

ได้แก่ 1.โครงการเลี้ยงปลาดุก งบประมาณ 500,000 บาท 2.จัดซื้อโครงการสส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวโพด งบประมาณ 500,000 บาท 3.จัดซื้อโครงการส่งเสริมอาชีพปลูกข้าวโพดเพื่อการเกษตร งบประมาณ 500,000 บาท 4.จัดซื้อโครงการส่งเสริมอาชีพการเกษตรกรปุ๋ยเพื่อลดต้นทุน งบประมาณ 500,000 บาท

นายสุนทร ได้ระบุว่าตนและตัวแทนชาวบ้านพบว่า ประธานกองทุนฯ ซึ่งมีในตำแหน่ง นายก อบต.สบป้าด ด้วย ได้มอบหมายให้ รองนายก อบต.สบป้าด เป็นผู้เขียนโครงการ 3 โครงการ เพื่อให้กองทุนหมู่บ้านสบป้าดเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง เองทั้งหมด โดย ฝ่ายกรรมการกองทุนหมู่บ้านสบป้าดไม่ได้เขียนโครงการเอง และกองทุนรอบโรงไฟฟ้า ได้อนุมัติโครงการต่างๆ เมื่อ พ.ย.2566

หลังจากกองทุนได้อนุมัติโครงการแล้ว พบว่าทางประธานกองทุนฯ ได้ให้ รองนายก อบต.เป็นผู้ดำเนินการประสานร้านค้าเข้าร่วมเป็นคู่สัญญา ซึ่งจะพบว่ามีร้านค้าที่เป็นเครือญาติของประธานกองทุนฯ รวมอยู่ด้วยและได้รับงบประมาณจำนวนมาก ที่เห็นชัดเจนคือการจัดซื้อจัดจ้างใน 3 โครงการ งบประมาณ 1.5 ล้านบาท คือการซื้อพันธุ์ปลาดุกและอาหารปลา

กองทุนหมู่บ้านได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว เมื่อ 11 , 12 , 16 มีนาคม 2567 แต่สมาชิกได้รับสิ่งของไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในโครงการ ได้แก่จำนวนพันธุ์ปลา และ อาหารปลา เมื่อตรวจสอบราคาจริงตามท้องตลาดแล้วพบว่าราคาที่กองทุนหมู่บ้านเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนฯ สูงกว่าท้องตลาด และ เป็นคนละยี่ห้อกับที่นำมาส่งมอบให้กับสมาชิก

เมื่อรวมราคาสิ่งของที่สมาชิกได้รับ เทียบกับงบประมาณที่ได้รับมากพบว่า เงินหายไปเกินครึ่ง ซึ่งสมาชิกได้รับการชี้แจงว่าต้องมีการหักเงินบางส่วนเข้ากองทุนฯและหักภาษี รวมถึงได้มีร้านค้านำเงินส่วนต่างมาคืนให้กับสมาชิกด้วย ทำให้สมาชิกไม่สบายใจและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงได้นำหลักฐานทั้งสำเนาโครงการฯต่างๆที่ได้กล่าวถึงรวมถึงโครงการอื่นๆ ซึ่งมีงบประมาณ 2.5 ล้านบาท พร้อมรูปภาพ/คลิปเสียงการเรียกรับเงินทอน ฯลฯ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.67 และได้ยื่นแจ้งความเพิ่มเติมในข้อหาทุจริตเรียกรับเงินทอน อีก 12 โครงการ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 67

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ได้รวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งให้กับส่งอัยการจังหวัดลำปาง “สั่งไม่ฟ้อง” โดยระบุเหตุผลว่า “ขาดอายุความ” หลังจากนั้นทางประธานกองทุนฯ ก็ได้แจ้งความกลับนายสุนทรและตัวแทนชาวบ้านในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้นนายสุนทร พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ได้ยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการจังหวัดคดีศาลแขวงลำปางอีกครั้ง กรณีพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องโดยอ้างว่าขาดอายุความดังกล่าว พร้อมกับ ยื่นหนังสือถึง ผบก.ภ.จ.ลำปาง เพื่อให้โยกย้ายและตรวจสอบพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนทั้งหมด และยื่นหนังสือถึง ผอ.สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดลำปาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผกก.สภ.แม่เมาะ พร้อมพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง รวม 4 นาย ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157

กระทั่ง 1 ก.ค.68 ผอ.สำนักงานอัยการได้มีมติให้อัยการส่งสำนวนคืนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินการสอบสวนเพิ่มใน 8 ประเด็น ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 61 วรรคสอง

ทางด้านพนักงานสอบสวน ภูธรจังหวัดลำปาง จึงได้เชิญให้นายสุนทรพร้อมตัวแทนชาวบ้านให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีฟ้อง ผกก.และพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง ที่สั่งไม่ฟ้องโดยอ้างขาดอายุความ ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ก็ได้เริ่มขวนการสอบสวนผู้ที่ถูกกล่าวหา คือ ประธานกองทุนฯพร้อมพวก เพิ่มใน 8 ประเด็น ตามที่ ป.ป.ช.มีมติลงความเห็น แล้วเช่นกัน

ทั้งนี้นายสุนทร ได้กล่าวว่า หลังจากนี้ตนเองพร้อมตัวแทนชาวบ้านจะเดินเรื่องเพื่อขอตรวจสอบโครงการทั้งหมดของกองทุนรอบโรงฟ้าแม่เมาะ ซึ่งได้รับงบประมาณในการบริหารกว่าปีละ 300 ล้านบาท ที่เป็นดินแดนสนธยา ให้เกิดความโปร่งใส ในการใช้งบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่และจังหวัดลำปางด้วย