ทักษิณมั่นใจแพทองธารรอด เหน็บขนาด สว.ยังไม่มีจริยธรรม แย้มเสียงเพิ่ม "หนูเปล่านาเขามาเอง"

อ่านประกอบ : "แม้ว" ยันสะบั้นสัมพันธ์ "ฮุนเซน" แล้ว ทำกับลูกสาวขนาดนี้ เจ็บใจทำได้ยังไง เชื่อจงใจอัดคลิป

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวที 55 ปี NATION ผ่าทางตันประเทศไทย ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่นกรุ๊ป โดยมองว่า การที่ประเทศไทยถึงทางตัน แสดงว่ามีคนอุดไว้ ถ้าดึงมันออกก็ไม่ตัน เหตุเกิดที่ไหนดับที่นั่น เข้าใจว่าเมืองไทยคนอยากเป็นนายกฯ เยอะ ลูกชายนักการเมืองรายหนึ่งไปเที่ยวเมืองนอก ประกาศเลยว่า พ่อต้องเป็นนายกฯ ในเดือน ก.ค.นี้ สงสัยพ่อจะดูหมอดูหรือไม่ บางคนอยากเป็นนายกฯ ยอมทำทุกอย่าง เพราะว่าอยากให้หมอดูแม่น เดี๋ยวหมอดูจะไม่แม่น ตนมองว่าการเมืองมีหลายรูปแบบ วันนี้มีเรื่องนิติสงครามเข้ามาเกี่ยวข้อง บางทีเป็นเรื่องของตัวเลขในสภาฯ คณิตศาสตร์ทางการเมือง ทุกคนเก่งคณิตศาสตร์หมด คงไม่มีอะไร มันไม่มีอะไรเกินกว่าจะแก้ได้ บอกได้เลยว่าไม่ตัน

ส่วนการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาล ทำให้เกิดทางตันหรือไม่ นายทักษิณยืนยันว่าไม่ได้ขอให้ออก แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องมีผลงาน ชอบสู้ด้วยนโยบาย พอแถลงไปแล้วไม่เป็นไปตามนั้น ก็ต้องพยายามผลักดัน แต่เกิดทางตันที่กระทรวงมหาดไทย นโยบายหลายเรื่อง เช่น การแก้ปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหาความยากจน หนี้สิน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) ต้องอาศัยกลไกกระทรวงมหาดไทย ต้องแก้ตรงนั้น พรรคเพื่อไทยพยายามจะขอแก้ แม้กระทั่งการทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย ต้องทำสัญญาเช่าระยะยาว 99 ปี ก็ต้องผ่านกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ติดตรงนั้นอีก ตันตรงนั้นหลายจุด

"เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของใครของมัน เราบอกว่า พูดชัดเจนเลย พรรคเพื่อไทยขอมหาดไทยคืน เขาก็บอกว่า เราขอแลก ไม่ตกลง เราก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะออกหรือไม่ นายกฯ (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) เล่าให้ฟังว่า เราแค่ขอตรงนี้นะ อยากให้อยู่ด้วยกันในพรรคร่วมรัฐบาล พอดีมีเหตุฮุน เซน" นายทักษิณ กล่าว และว่า กรณีที่พรรคภูมิใจไทยมีคอนเนกชันหรือไม่กับสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ตนไม่กล้าปรักปรำใคร แต่บังเอิญอย่างน่าสงสัย

นายทักษิณกล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลที่เหลือเพียง 253-254 เสียง ยังไม่เป็นทางตันหรือไม่ ว่า แก้ด้วยคณิตศาสตร์การเมือง โดยเฉพาะเสียงในสภาผู้แทนราษฎร การที่พรรคภูมิใจไทยออกไปเป็นฝ่ายค้าน ขย่มร่วมกับกลไกของ สว. ร้องนายกฯ แพทองธาร จนถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่ สว.ถูกกล่าวหาฮั้วเลือกตั้ง จริยธรรมไม่มีแล้ว ร้องจริยธรรมทำไม คนร้องไม่มีจริยธรรม จริยธรรมไม่เหลือแล้วไปร้องคนอื่น ทำยังไงให้รัฐบาลล่ม แต่พรรคร่วมรัฐบาลบอกว่าไม่ต้องไปยุ่ง แต่ตนมีรายงานการสืบสวนว่าเตรียมการตั้งแต่เลือกตั้ง สส. ใครคุม สส. 15 คนจะได้ สว. 1 คน ส่วนเสียงที่ห่างกัน 19 เสียง นายทักษิณตอบเป็นนัยว่า เดี๋ยวก็ต้องร้องเพลง หนูเปล่านะเขามาเอง ถึงมีพรรคอกแตก 2 พรรคก็ไม่มีปัญหา เพราะพวกเราเป็นเบิร์ด รักทุกคน

นายทักษิณ กล่าวว่า ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้แบก ตนมองปัญหาเป็น Chalenge (ความท้าทาย) ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับตน คิดว่าเป็นปัญหาก็เครียดตายไม่ต้องนอน เราอยู่ในโลกที่มีกติกา เราก็ต้องเคารพกติกา ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการทำหน้าที่ เราก็พักซะ แต่คนมีหน้าที่ก็ทำไป มันเป็นเรื่องที่เราต้องอยู่ด้วยกติกา ถ้าเราไม่เคารพกติกา ไปบิดเบี้ยวกติกา มันก็อยู่ยาก ถ้าคนอื่นชกใต้เข็มขัด ผมก็กระทืบเท้า นิติสงครามสมัยก่อนกับสมัยนี้ไม่เหมือนกัน เพราะมีกติกาหยุมหยิม การที่องค์กรอิสระชี้นำพรรคไม่ควรจะเป็น แต่เมื่อกติกาเป็นแบบนี้ต้องเดินไปก่อน ตนโดนยุบพรรคจนชิน เป็นเรื่องที่สู้ไปแก้ไป อยู่ในกติกาให้ได้

ส่วนคดีของ น.ส.แพทองธาร วิตกกังวลหรือไม่ เมื่อถึงคำวินิจฉัยจะพ้นหน้าที่ และทำให้เกมการเมืองหลังจากนี้แปรเปลี่ยนถึงขั้นยุบสภา นายทักษิณ กล่าวว่า “ก็มั่นใจ มั่นใจตามข้อกฎหมาย ตามข้อเท็จจริง และมั่นใจในความบริสุทธิ์ใจของลูกผม เชื่อว่าศาลน่าจะรับฟังด้วยเหตุด้วยผลที่ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร ก็อธิบายได้หมดทุกอย่าง” ถามว่า ดูเหมือนคนที่ออกไป เขามั่นใจว่าไม่รอด นายทักษิณ กล่าวว่า “ก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้มีใครไปทำอะไรหรือไม่ ถ้าโดยหลักข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายแล้ว มันรอด” ส่วนการตั้งรัฐบาลชั่วคราว นายทักษิณตอบว่า "จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด"

ถามว่าได้ดูหรือไม่ว่า หากพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล สถานการณ์จะยุ่งเหยิงกว่านี้ นายทักษิณ กล่าวว่า แน่นอน ตนเดาอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้เขาออก แต่เขาออก ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็อย่าไปเสียใจกับมัน เราไม่สามารถคอนโทรลได้ เพราะว่าเราชวนแล้วเขาไม่เอา เราก็ช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำยังไง เราก็อยู่ได้ ถามว่ากระทรวงอื่นไม่เอาเลยเหรอ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เอา เขาจะเอากระทรวงเดียว คือ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม แต่ที่ไม่ให้เพราะเรารู้อดีต การเมืองบ้านเรามีกฎไว้เลี่ยง ตนลืมอดีตแล้ว พยายามจะเริ่มต้นใหม่ ที่ผ่านมามีการออกแบบการเมืองที่แย่ที่สุด พยายามกีดกันตนจนบ้านเมืองมีปัญหา ซึ่งการเมืองแบบเบี้ยหัวแตก การมีพรรคเล็กพรรคน้อยทำให้ทำงานยาก บางคนให้ไปบริหารกระทรวง ทำแค่ธุรการกับธุรกิจ กติกาแบบนี้สร้างวัฒนธรรมไม่ทำไม่ผิด กลายเป็นคนทำผิด ส่วนจะมีรอบที่สามกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เมื่อการเมืองออกแบบอย่างนี้ สูตรคณิตศาสตร์ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ เมื่อไหร่จำเป็นก็กลืนเลือด

เมื่อถามว่า คิดว่านายทักษิณเป็นทางตันทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า อาจไม่ชอบหน้าตนเป็นพิเศษถึงมีขาประจำมาตั้งแต่ 20 ปีแล้ว ตอนพ่อตาย ตนลืมถามว่าพ่อของตนมีปัญหากับพ่อมันหรือเปล่า พวกนี้ถ้ามาคุยกับตน บางคนไม่รู้จัก ไม่เคยเจอกัน เห็นแต่ในทีวี ตนเป็นคนที่สร้างตัวจากไม่มีอะไร สร้างด้วยตัวเอง ส่วนที่ น.ส.แพทองธารถามว่าพ่อไปทำอะไรให้เกิดอุปสรรค ตนก็กรวดน้ำไปเถอะ อย่าไปคิดอะไรมาก ส่วนโอกาสที่พรรคเพื่อไทยไปผสมกับพรรคสีส้มหรือไม่ วันนี้ยังไม่มีความจำเป็นในวันนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นศัตรูกับพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่การจะทำงานกับใครต้องมั่นใจว่าไปด้วยกันได้ และไม่ขัดนโยบายหลัก โดยเฉพาะเรื่องสถาบันฯ เพราะตนได้รับพระเมตตาสูงสุด จึงไม่มีทางจะไปทำงานกับใครที่กระทบสถาบันฯ ตนไม่ได้คุยกันเลย ส่วนพรรคสีน้ำเงินกับพรรคสีส้มจับมือกันนั้น ถ้าจะจับก็จับหลวมๆ เพราะปลาคนละน้ำ เป็นพรรคที่เกิดจากการหาเสียงสไตล์เดียวกัน พรรคไทยรักไทยเกิดอย่างไร พรรคส้มก็ปราศรัยตาม

นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้พรรคแกนนำรัฐบาลยังมีความสามัคคี ทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหา แต่ต้องคุมสภาไม่ให้โดดสภาฯ ส่วนผลที่ออกมาหลังคดี น.ส.แพทองธาร มีหลายออปชัน ถ้า น.ส.แพทองธารรอด ก็กลับไปทำงานเหมือนเดิมเต็มที่ ผลักดันนโยบายต่อ ทีนี้ยาว ถ้าสมมติว่าไม่รอด มีทางเลือก 2 อย่าง คือ เสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หรือยุบสภาฯ มี 3 ออฟชัน นายชัยเกษมยังฟิต ตีกอล์ฟสบายมาก ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใด เขายังอยู่เป็น สทร. เพราะรักบ้านเมือง การเมืองไม่มีทางตัน ส่วนจะมีบทบาทการเมืองมากขึ้นหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จำเป็นก็ต้องมี ขอให้บ้านเมืองรอด ทัวร์จะลงก็ไม่เป็นไร ตื่นเช้ามาทำอะไร จะต้องขึ้นศาลก็ขึ้นไป มันแก่แล้ว ปล่อยวางไปเยอะแล้ว ผมหยุดแล้วแต่ท่านไม่หยุด ผมต้องทำงานให้บ้านเมือง จะให้ผมทำอย่างไร ภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ ถ้าผมไม่เสือกแล้วใครจะเสือก มันยาก วันนี้ปัญหาบ้านเมืองอย่างนี้ ผมอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะเป็นอดีตนายกฯ ลูกเป็นนายกฯ มีอะไรก็ต้องช่วยกัน ขนาดตนยังออกนอกประเทศไปเจรจาไม่ได้เพราะถูกล่ามขาไว้

ถามว่ามีใครล่ามขาหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องต่อเนื่องจากการรัฐประหารปี 2557 ตอนนั้นคดีตนจะหมดอายุความ จึงล็อกขาโดยใช้คดี 112 ที่เกาหลี ซึ่งไม่มีอะไรเลย มีความหยุมหยิมของระบบที่วางไว้ไม่ดี โดยเฉพาะองค์กรอิสระที่อนุญาตให้ใครก็ได้ไปร้อง คดีก็รกไปหมด บางคนรับจ้างร้อง รับจ้างหยุดร้อง อย่ามากลัว ตนหมูเรียกพี่ ใครเจอตนหมูจะตาย เชิงอำนาจตนไม่คานอำนาจ มีแต่จะช่วยคน ตนคุยชัดเจน ถ้าคุยชัดเจนก็จบไม่มีอะไร ส่วนเรื่องเขากระโดง ทุกอย่างต้องไปเป็นตามกติกากฎหมาย คดีอัลไพน์ก็โดน ใครนั่งทับสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็โดนมาตรา 157 บ้านเมืองไม่ใช่ผู้เสียหายก็ร้องได้ เลอะเทอะไปหมด ตนเห็นใจนายภูมิธรรม เวชยชัย มาจากกลาโหมต้องขึงขัง แต่กลไกต้องทำงาน เห็นว่าเขาจะบุกไปดูเอง ถ้าผู้ว่าฯ ไม่ทำงานก็โดน ส่วนจะเรียกความมั่นใจต่อรัฐบาลอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า พ่อนายกฯ อยู่นี่ ยังไงก็ดูแลบ้านเมืองเต็มที่ มีอะไรบอกรัฐมนตรีช่วยทำหน่อย แม้นายกฯ ถูกพักทำหน้าที่ก็ไม่มีสูญญากาศ ข้าราชการไม่ต้องเกียร์ว่าง สายน้ำไม่ไหลกลับ ระบบราชการเปลี่ยนไปเยอะ จะรีเทิร์นก็รอสมัยหน้า

ส่วนเรื่องคะแนนนิยมทรุดตัวลง เลือกตั้งครั้งหน้าได้เท่าเดิมหรือไม่ นั้น นายทักษิณ กล่าวว่า การเมืองเป็นกระแส แล้วแต่ภาวะการณ์ไหน ตอนนี้โดนรุม โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียซอมบี้ปั่น โกรธกัน เดี๋ยวก็หยุด ส่วนโครงการอะไรที่เคลื่อนได้ก็ต้องเคลื่อน โดนเฉพาะเรื่องที่เป็นรูทีน เช่น ยาเสพติด การแก้หนี้ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องออกกฎหมายก็ต้องทำไป ที่ถอนเรื่องนี้ไม่อยากให้สับสน เขาเรียงลำดับความสำคัญในช่วงนี้ ไม่เป็นไร