แพทองธารตอบโต้ปมสี จิ้นผิง เตือนกาสิโน ยืนยันแค่คำแนะนำไม่ใช่คำขู่ หลังอนุทินอ้างจีนไม่พอใจนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซัดนักท่องเที่ยวจีนหดจากปัญหาความปลอดภัยในประเทศ ถามเพิ่งออกจากรัฐบาลไม่นานทำไมลืม กระทรวงมหาดไทยดูแลไม่ใช่หรือ
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่กล่าวถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตือนรัฐบาลไทย 3 ครั้งให้หยุดนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า ระหว่างการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ได้มีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งมีคำแนะนำของประเทศตัวเอง ซึ่งเราเองก็รับฟัง และอธิบายให้ฟังว่า เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะมีกาสิโนแค่ประมาณ 10% และเราก็เห็นว่าทางสิงคโปร์และมาเก๊า ทำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์แล้วประสบความสำเร็จ โดยมองว่าหากทุกประเทศที่ใกล้กัน จะมีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เหมือนกัน ก็จะเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว การที่เอามาเล่าในอีกรูปแบบหนึ่งก็มีการใส่สีตีไข่ แต่จริงๆ แล้วเป็นเพียงคำแนะนำของจีน ซึ่งเราก็พร้อมรับฟัง
ส่วนที่นายอนุทิน ระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เตือนไทยถึง 3 ครั้งว่า หากเดินหน้านโยบาย จีนจะปรับมาตรการ ซึ่งจะกระทบกับนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปถึง 90% นั้น น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า "เกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่ที่นักท่องเที่ยวหายไป 90% อ้าว ท่านอดีต มท.1 ออกไปได้ไม่นาน ลืมซะแล้ว เหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาเที่ยวไทย เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย และเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยอย่างไร"
น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า เป็นเรื่องความปลอดภัยที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เข้ามาไทย ซึ่งความจริงแล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซัน) ลดลงประมาณ 30% แต่เรามีนักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้ามาเติมมากขึ้น พร้อมยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีนลดลงจริง เพราะจีนมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ นอกจากนี้ มีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องปัญหาคอลเซ็นเตอร์, การตัดน้ำ ตัดไฟ ที่เมื่อจะตัดก็ตัดยาก ต้องสั่งแล้วสั่งอีก ไม่ทราบว่าได้จดเรื่องนี้หรือไม่ แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่อย่างนั้น
เมื่อถามว่า ที่นายอนุทินระบุว่า หากไทยไม่ยอมถอยนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จีนจะมีการปรับมาตรการเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในไทย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พูดแบบนี้จริงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนที่เราจะอธิบายว่าไม่ได้สนับสนุนกาสิโน และหากประเทศไหนมีกาสิโน ก็จะดูว่านักท่องเที่ยวจีน ที่จะเข้าไปประเทศนั้น จะเป็นอย่างไร เขาไม่ได้บอกว่าจะมีการปรับมาตรการ ซึ่งเราได้มีการถามกลับไปว่า มีข้อแนะนำหรือข้อกำหนดอย่างไรหรือไม่ เพราะเราไม่ได้ปิดประตู พร้อมรับฟังคำแนะนำว่ามีนโยบายต่อการท่องเที่ยวอย่างไรที่จะเป็นประโยชน์กับเรา
"เราทำแบบนี้กับทุกประเทศ ว่ามีอะไรที่จะเอื้อเฟื้อกันได้ อะไรที่จะปรับกันได้ ขอคุยล่วงหน้าก่อน เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พูดเรื่องนี้ เราก็อธิบายต่อว่า เราจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เหมือนที่มาเก๊าและสิงคโปร์ทำ หากทำสำเร็จก็จะมีการจ้างงานเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นขั้นตอนของการพูดคุยกัน แต่เมื่อนำมาเขียนแบบนี้ ใส่สีเข้าไป ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ และการต่างประเทศก็มีบันทึกอยู่" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะแค่ถอนหรือชะลอออกไปนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามมติของสภาผู้แทนราษฎร แต่บางเรื่องแต่บางเรื่องตนขอไม่ตอบเพราะไม่ได้ปัดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่เรื่องของประเทศจีนเพราะตอนนั้นตนทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพราะเกรงว่าหากพูดอะไรไปจะเป็นการไม่เคารพอำนาจศาล
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่า เหตุใดนายอนุทินจึงมาเปิดเผยเรื่องนี้ในวันที่จะมีการถอนร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ขอให้พี่น้องประชาชนตั้งข้อสังเกตได้เลย เพราะก่อนหน้านี้ที่เคยคุยกัน ก็ทราบอยู่แล้วว่า มีเรื่องของการติดขัดในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่อยากให้ทำเป็นกฎหมายพิเศษ อยากให้เป็นกฎหมายแค่เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีกาสิโน จึงถามว่า แบบนี้ใครจะมาลงทุน และเมื่อทำเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ กระทรวงมหาดไทยอาจจะมีติดขัดอะไรหรือไม่ เพราะสามารถออก พ.ร.บ.การพนันแยกออกไปได้ ซึ่งมีการพูดถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว ว่าหากมีการออกเป็นกฎหมายพิเศษเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์เลย จะขัดหรือไม่ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ที่นายกรัฐมนตรีเข้ามารัฐสภาวันนี้เพื่อมาคุมเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเป็นรัฐมนตรี คุมเสียง สส.ไม่ได้
อ่านประกอบ : อนุทินแฉอุ๊งอิ๊งค์ดันทุรังกาสิโน ผู้นำจีนเตือนแล้วไม่ฟัง ทำท่องเที่ยวไทยพังยับเยิน