ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (8 ก.ค.) ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการเก็บภาษีศุลกากร 50% จากทองแดงนำเข้า และเตรียมรีดภาษีจากเซมิคอนดักเตอร์และผลิตภัณฑ์ยาต่างๆ ในไม่ช้านี้ ในความเคลื่อนไหวที่คาดว่าจะทำให้สงครามการค้าโลกร้อนระอุขึ้นไปอีก
เพียง 1 วันหลังจากที่ส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีกดดันคู่ค้า 14 ประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ทรัมป์ ได้ออกมาขู่เก็บภาษีเพิ่มพิเศษอีก 10% จากบราซิล อินเดีย และรัฐสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่ม BRICS
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า การเจรจากับสหภาพยุโรปและจีนเป็นไปด้วยดี แต่ก็ไม่วายขู่สำทับว่า ตนอาจจะส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีถึง EU ภายในไม่กี่วันนี้
คำพูดของ ทรัมป์ ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาวคาดว่าจะยิ่งกระพือความไร้เสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจโลกที่กำลังสั่นคลอนจากมาตรการทางภาษีที่เขาขู่จะใช้กับสินค้าทุกประเทศที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
ราคาทองแดงสัญญาล่วงหน้าขยับพุ่งขึ้นไปกว่า 10% หลัง ทรัมป์ ขู่จะรีดภาษีจากโลหะซึ่งจำเป็นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ยุทโธปกรณ์ทางทหาร กริดไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภคอีกหลายรายการ โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ก็ได้กำหนดอัตราภาษีสูงลิ่วสำหรับเหล็กกล้า อะลูมิเนียม และรถยนต์นำเข้ามาแล้ว
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า การปรับอัตราภาษีศุลกากรสำหรับทองแดงนำเข้าจะเริ่มมีผลเมื่อใด
ราคาหุ้นกลุ่มบริษัทยาต่างๆ ก็ร่วงตามกันเป็นแถว หลังจาก ทรัมป์ ขู่จะเก็บภาษี 200% จากผลิตภัณฑ์ยานำเข้า ซึ่งเจ้าตัวเคยบอกว่าอาจจะชะลอไปประมาณ 1 ปี
ขณะเดียวกัน หลายประเทศทั่วโลกก็กำลังพยายามหาวิธีลดผลกระทบจากภาษี ทรัมป์ หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ ชะลอการบังคับใช้ออกไปเป็นวันที่ 1 ส.ค.
รัฐบาล ทรัมป์ เคยให้สัญญาว่าจะต้องได้ข้อตกลงการค้า “90 ฉบับภายใน 90 วัน” หลังจากประกาศอัตราภาษีตอบโต้ชาติต่างๆ เมื่อต้นเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ได้สำเร็จ คือสหราชอาณาจักรและเวียดนาม และ ทรัมป์ กล่าวว่าข้อตกลงกับอินเดียนั้น “ใกล้สำเร็จ” แล้ว
“มันถึงเวลาแล้วที่สหรัฐอเมริกาจะต้องเริ่มเก็บเงินจากประเทศต่างๆ ที่ปล้นเราไป และหัวเราะลับหลังเราว่าเราช่างโง่เขลาเสียเต็มประดา” ทรัมป์ กล่าว
ทรัมป์ ยังโพสต์ Truth Social เมื่อค่ำวานนี้ (8) ว่า สหรัฐฯ จะมีการออกจดหมายแจ้งอัตราภาษีอีก “อย่างน้อย 7 ฉบับ” ภายในเช้าวันพุธ (9) และเพิ่มเติมอีกในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ประเทศคู่ค้าทั่วโลกต่างโอดครวญเหมือนๆ กันว่า การเจรจากับสหรัฐฯ เป็นเรื่องยากแม้จะแค่บรรลุกรอบข้อตกลงก็ตาม เนื่องจากพฤติกรรมของผู้นำสหรัฐฯ ที่มักจะประกาศอัตราภาษีใหม่ๆ อย่างคาดเดาไม่ได้ จนทำให้กระบวนการเจรจาต่อรองภายในยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น
หลังจากที่ ทรัมป์ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจาก 14 ประเทศ กลุ่มวิจัย Yale Budget Lab ในสหรัฐฯ ได้ออกมาประเมินว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันจะต้องจ่ายอัตราภาษีนำเข้าแท้จริง (effective tariff rate) เพิ่มเป็น 17.6% จากระดับ 15.8% ก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 90 ปี
ที่มา: รอยเตอร์