การเจรจาทางการทูตระหว่างวอชิงตันกับอิหร่านไม่อาจรื้อฟื้นกลับมาได้จนกว่าสหรัฐฯจะตัดความเป็นไปได้ในการโจมตีอิหร่านอีก จากคำกล่าวของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเตหะรานระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์(29มิ.ย.) ก่อนที่ล่าสุดในวันจันทร์(30มิ.ย.) อิหร่านเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตมากถึง 935 ราย ในช่วง 12 วันแห่งการทำศึกสงครามกับอิสราเอล
มาจิด ทักช์ต ราวานชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี ระบุสหรัฐฯส่งสัญญาณว่าต้องการคืนสู่โต๊ะเจรจา ราว 1 สัปดาห์ หลังจากโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม "เรายังไม่เห็นพ้องวันเวลาใดๆ เราไม่เห็นด้วยกับรูปแบบดังกล่าว ตอนนี้เรากำลังหาคำตอบในคำถามนี้ เราจะยอมเห็นพฤติกรรมความก้าวร้าวซ้ำๆในระหว่างที่เรากำลังประสานงานเจรจางั้นหรือ?"
"สหรัฐฯจำเป็นต้องมีความชัดเจนอย่างที่สุด เกี่ยวกับคำถามที่มีความสำคัญอย่างมากนี้" เขากล่าว
ทั้ง 2 ประเทศอยู่ระหว่างเจรจากันเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ครั้งที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์และโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของเตหะรานเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่สหรัฐฯเข้าร่วมด้วยการทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่ง ฟอร์โด, นาทานซ์ และอิสฟาฮาน ในวันที่ 21 มิถุนายน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเผยกับบีบซีด้วยว่า สหรัฐฯส่งสัญญาณมาว่าพวกเขาไม่ได้มีความต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของอิหร่าน ด้วยการเล็งเป้าเล่นงาน อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุด และเน้นย้ำว่าอิหร่านควรได้รับอนุญาตให้เดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมต่อไป
"ระดับการเสริมสมรรถนะสามารถพูดคุยกันได้ สามารถพูดคุยกันได้ในแง่ของปริมาณ แต่การมาบอกว่าคุณไม่ควรเสริมสมรรถนะยูเรเนียม คุณไม่ควรมียูเรเนียมเสริมสมรรถนะ และถ้าคุณไม่เห็นด้วย เราจะทิ้งบอมบ์พวกคุณ มันคือกฎผู้แข็งแกร่งกว่าเป็นผู้อยู่รอด" เขากล่าว
อิสราเอลอ้างว่าโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ใกล้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆได้แล้ว แต่เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติแต่อย่างเพียงเดียว
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าปฏิบัติการโจมตีก่อความเสียหายแก่โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านมากน้อยแค่ไหน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ อ้างว่ามันถูกกำจัดโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามทาง ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เชื่อว่าอิหร่านจะสามารถกลับมาเริ่มผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะได้อีกรอบ ภายในเวลาไม่กี่เดือน
ภายใต้ข้อตกลงปี 2015 อิหร่านได้รับอนุญาตให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมในความบริสุทธิ์ต่ำกว่า 3.67% เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชิงพาณิชย์
ทรัมป์ นำสหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวในปี 2018 และอิหร่านตอบโต้ด้วยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับความบริสุทธิ์ 60% เหนือกว่าระดับที่ใช้ในด้านพลเรือน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสำหรับผลิตอาวุธ อย่างไรก็ตามหากมีการกลั่นเพิ่มเติม ในทางทฤษฎีแล้วมันเพียงพอที่จะผลิตระเบิดนิวเคลียร์มากกว่า 9 ลูก
ความเห็นของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าสื่อมวลชนแห่งรัฐฯของอิหร่านรายงานในวันจันทร์(30มิ.ย.) อ้างอิงข้อมูลจากฝ่ายตุลาการ ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 935 รายในประเทศ ระหว่างการทำสงครามเป็นเวลา 12 วันกับอิสราเอล
"ระหว่างที่ระบอบไซออนิสต์ทำสงครามกับประเทศของเราเป็นเวลา 12 วัน จนถึงตอนนี้พบร่างของผู้เสียสละ 935 ราย" สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ รายงานอ้างคำแถลงของโฆษกของฝ่ายตุลาการ ซึ่งมีขึ้นเกือบๆ 1 สัปดาห์ หลังอิหร่านและอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
โฆษกรายนี้บอกว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย 132 รายและเด็ก 38 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลเล่นงานเรือนจำเอวินในเตหะราน เพิ่มเป็น 79 ราย ในนั้นเป็นผู้ต้องขัง ญาติๆที่เดินทางมาเยี่ยมและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
อิสราเอลเปิดยุทธการทิ้งบอมบ์เล่นงานอิหร่านครั้งใหญ่ในวันที่ 13 มิถุนายน ปลิดชีพพวกผู้บัญชาการทหารระดับสูงและเหล่านักวิทยาศาสตร์ปรมาณูไปหลายราย ในขณะที่โจมตีของอิสราเอลถล่มทั้งฐานทัพทหาร ที่ตั้งทางนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับพื้นที่ชุมนุมทั่วอิหร่าน
อิหร่านแก้แค้นด้วการยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนโจมตีหลายระลอก ซึ่งพุ่งเข้าเล่นงานเมืองหลักของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงเทลอาวีฟและไฮฟา สังหารผุ้คนไป 28 ราย ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่าย จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 มิถุนายน
(ที่มา:เอเอฟพี/บีบีซี)