ศาลรธน.ชี้ชะตา "แพทองธาร"! ประชุมพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ ปมคลิปเสียงสนทนา "ฮุนเซน" 4 แนวทางชี้ขาด สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่? "แพทองธาร" ยอมรับกังวลกระทบงานรัฐ ด้าน "จุลพันธุ์" มั่นใจไม่ผิดปกติ ผู้นำคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา
ถนนทุกสายจับจ้องไปที่การประชุมตุลาการศาลรัฐรรมนูญ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ ฐานการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับอดีตนายกฯกัมพูชา สมเด็จ ฮุนเซน
โดยหลายฝ่ายประเมินกันเบื้องต้นการประชุมของศาลรัฐธรรมนูญสามารถได้ถึง 4 แนวทาง ได้แก่
1. ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่หยิบคำร้องขึ้นมาพิจารณา 2. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง สั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ 3. ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง ไม่สั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ 4. ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา ซึ่งแนวทางที่ 4 นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากการยื่นเรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมาถ้าผู้ยื่นดำเนินการตามองค์ประกอบของรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็แทบจะรับไว้ทุกกรณี
ขณะเดียวกัน มีท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่ามีความกังวลต่อการอาจถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
"ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ถามว่ากังวลหรือไม่ก็มีความกังวล เราก็พยายามทำ และเน้นเรื่องกระบวนการทำงาน ไม่อยากให้มันสะดุด เพราะอย่างที่สื่อถามวันนี้มีเรื่องกำแพงภาษี รวมถึงมีอีกหลายอย่างที่ต้องเจรจากับต่างประเทศเยอะ เพราะฉะนั้นก็ไม่อยากสะดุด อยากทำให้มันดี" ท่าทีจากนายกฯ
ด้านนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงความคิดเห็นว่า ในพรรคเพื่อไทยไม่มีการพูดคุยและเตรียมตั้งรับเรื่องนี้ เพราะเรามีความมั่นใจ สิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก็ขอยืนยันตามเดิมว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไม่ได้เป็นสิ่งผิดปกติ เพราะกระบวนการพูดคุยกันระดับประเทศโดยการยกหูคุยกันนั้น ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้นำทำกัน วันก่อนนายกรัฐมนตรีก็ยกหูคุยกับแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เพื่อหารือในการเดินหน้าพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคมต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดาและธรรมชาติ สิ่งที่พูดไปก็ไม่ได้มีผลร้ายหรือผลเสียต่อประเทศไทย