กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ อ่านแถลงการณ์ไล่ “แพทองธาร” ลาออกจากตำแหน่งทันที ทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ชี้นายกฯ ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์ ประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง สมคบคิดใช้อำนาจหน้าที่ตอบสนองต่อความต้องการของอริราชศัตรู ผิดกฎหมายอาญา ขัดต่อบทบทบัญญัจิของรัฐธรรมนูญ
วันนี้(28 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.05 น.ที่อนุสาวรีย์ ชัยสมรภูมิ นายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นตัวแทนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย อ่านแถลงการณ์ มีใจความสรุปได้ว่า
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ออกนโยบายทําลายความมั่นคง ทําลายสถาบันหลักของชาติ
กระทําการในลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ
มีพฤติการณ์ตามที่เป็นข่าวสาธารณะในเชิงสมคบคิดและแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อํานาจหน้าที่ ไปในทางตอบสนองต่อความต้องการของอริราชศัตรู ทั้งแสดงตัวตนด้วยคําพูดและการกระทํา ที่ทําให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรู ที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำละเมิดอํานาจอธิปไตยต้องการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และขัดต่อคําถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกันแม้ปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดตามข่าวสาธารณะและการยอมรับของนายกรัฐมนตรี บรรดาคณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงสนับสนุนให้แพทองธาร ชินวัตร ทําหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จึงอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทําการกับนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทําความผิดตามกฎหมายอาญา กระทําการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเฉกเช่นเดียวกัน
เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความมั่นคง และอํานาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม
ให้แพทองธาร ชินวัตร ลาออกทันที
และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที
พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเป็นขวัญกําลังใจยืนเคียงข้างทหารรวมกันทําหน้าที่ ปกป้องแผ่นดิน และอํานาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมั่นคง แล้วรวมกัน ปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยและประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และอัตลักษณ์สังคมไทย โดยยึดถือหลักศีลธรรมหลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อันจะทําให้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาจนเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งในด้านการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศสืบไป
สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย
วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ