เล่นกันแรงชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบเลยก็ว่าได้ หลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยก็เปิดปฏิบัติการล้มนโยบาย “กัญชาเสรี” ที่เคยเป็นเรือธงของค่ายภูมิใจไทย ทันที
หมากตานี้ ทั้ง“นายกฯอิ๊งค์” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประสานเสียงกันว่า กัญชาต้องกลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด และมีความชัดเจนว่าจะอนุญาตให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น จะเร่งทำให้เสร็จโดยเร็ว
ต้องไม่ลืมว่า “กัญชาเสรี” เป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้ป่าวประกาศหาเสียง เมื่อปี 2562 โดยที่ผ่านมาเพื่อไทยและภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยในการผลักดันนโยบายของแต่ละพรรคสู่รูปธรรม แม้จะมีความเห็นต่าง แต่ก็ยอมงอไม่ยอมหัก กระทั่งสุดท้ายเมื่อดีลล้ม ไปต่อไม่ได้ ต่อรองแลกเก้าอี้กันไม่สำเร็จ พรรคภูมิใจไทย ฉวยโอกาสถอนตัวแบบหล่อ ๆ ในจังหวะที่ “อังเคิล ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปล่อยคลิปลับคุยส่วนตัวกับ “หลานอิ๊งค์” ทั้งสองพรรคจึงเข้าสู่สมรภูมิห้ำหั่นให้ดับดิ้นกันไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อพรรคเพื่อไทยทำหมัน “กัญชาเสรี” จากนี้พรรคภูมิใจไทย ก็คงตามทำแท้ง “กาสิโนถูกกฎหมาย” ไม่ลดล
นายสมศักดิ์ ตามแซะนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าเหตุผลที่จะดึงเอากัญชามาเป็นยาเสพติดไม่สำเร็จในช่วงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพราะติดขัดตรงที่มี “รองนายกรัฐมนตรี คนนั้น” ซึ่งหมายถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขวางอยู่นั่นเอง
พร้อมทั้งสร้างวาทกรรมความพะรุงพะรังกับการดำเนินการที่ผ่านมา เช่น ประกาศว่ากัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองยาและแพทย์แผนไทย ทำให้มีการเปิดร้านหรือคาเฟ่กัญชากันเต็มบ้านเต็มเมือง โดยไม่มีการตรวจสอบควบคุม ขณะที่กัญชาเพื่อการแพทย์กลับไม่ได้รับการวิจัย พัฒนา ต่อยอดอย่างที่ควรจะเป็น
พรรคเพื่อไทย เปิดปฏิบัติการโค่นล้มนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองพรรคเล่นเกม “ตบจูบ”กันไม่ว่างเว้น ตามที่นายสมศักดิ์ สาธยายว่า นายกรัฐมนตรี (แพทองธาร) ได้สั่งการให้ตนเองและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปประชุมหารือกันตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2568 และได้ข้อสรุปออกมาว่ากัญชาจะต้องใช้ทางการแพทย์เท่านั้น
หลังจากนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงเปิดรับฟังความเห็นประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 พบว่าเสียงส่วนใหญ่ยอมรับให้กัญชากลับเข้าไปอยู่ในบัญชียาเสพติด ตนเองจึงลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 กำหนดว่าคนที่ซื้อกัญชาจะต้องมีใบสั่งจากแพทย์ เพื่อยืนยันว่าใช้ทางการแพทย์จริง ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่อยากขอใบอนุญาต หรือต่ออายุใบอนุญาต จะต้องไปทำตามกฎกระทรวงอีกฉบับ จะใช้ระยะเวลาพิจารณาเพื่ออนุญาตนานกว่า เป็นไปตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์ ยังเย้ยพรรคภูมิใจไทย ต่อข้อถามที่ว่า พรรคภูมิใจไทย จะผลักดันเสนอร่าง พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา ให้เสร็จในสมัยการประชุมนี้ ว่า “ฝันไป เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทย ฝันไปและย้อนเกล็ดว่าหลังจากกัญชาและกระท่อมหลุดจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 ต้องทำกฎหมายกัญชาใหม่ให้เสร็จภายใน 120 วัน ปรากฏว่าทำไม่สำเร็จ กลับมีร้านจำหน่ายกัญชาเกิดขึ้น 10,000 กว่าร้าน ทั้งที่กฎหมายยังไม่บังคับใช้ แต่อนุญาตให้ขายเชิงพาณิชย์แล้ว
“ผมได้ชี้แจงกลับไปให้รัฐบาลรับทราบ จึงเป็นที่มาการรื้อกฎหมายนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดใน 45 วัน” นายสมศักดิ์ บอกเล่า
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เพื่อบังคับใช้แทนประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ในสมัยที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
น่าสังเกตว่า ประกาศสองฉบับที่ออกมา มีเนื้อหาสาระสำคัญส่วนที่เหมือนกัน กล่าวคือ ประกาศเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 กำหนดไว้ในข้อ 2 เฉพาะส่วนของช่อดอก เป็นสมุนไพรควบคุม, ข้อ 3 (5) ห้ามจำหน่ายเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน คือ จำหน่าย เฉพาะทางการแพทย์ เท่านั้น และข้อ 3(6) – (8) ห้ามขายผ่านตู้ ห้ามโฆษณา ห้ามขายใกล้วัด โรงเรียน หอพัก สวนสาธารณสะ สวนสัตว์ สวนสนุก
ขณะที่ประกาศฉบับลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 กำหนดไว้ในข้อ 3 เฉพาะส่วนของช่อดอก เป็นสมุนไพรควบคุม, ข้อ 4 (5) ห้ามจำหน่ายเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน, ข้อ 5 (6) – (8) ห้ามขายผ่านตู้ ห้ามโฆษณา ห้ามขายใกล้วัด โรงเรียน หอพัก สวนสาธารณสะ สวนสัตว์ สวนสนุก
ส่วนสาระสำคัญที่เป็นความแตกต่าง ตามคำอธิบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อยู่ตรงที่ว่า ประกาศฉบับใหม่คนที่จะไปซื้อกัญชาต้องมีใบสั่งหรือใบรับรองแพทย์ และในเรื่องของใบอนุญาตผู้ประกอบการรายใหม่หรือการต่อใบอนุญาตนั้น จะมีการทำกฎกระทรวงขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่ง กำหนดให้มีแพทย์ประจำร้าน หรือหากมีการตรวจทุกเดือนแล้วพบความผิด 2 ครั้ง จะยึดใบอนุญาต
ในขั้นตอนการเอากัญชากลับคืนสู่บัญชียาเสพติดนั้น คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งนายกรัฐมนตรี (มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี) ประธานกรรมการ ให้มีมติ แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กัญชาเป็นยาเสพติด เป็นอันเสร็จสิ้น
นอกเหนือจากการออกประกาศควบคุมกัญชาข้างต้น เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้นำทีมทีมเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.), สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการสุ่มตรวจจัดระเบียบร้านกัญชา 20 จุด ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมร้านลักลอบขายเยลลี่ผสมกัญชาไม่ผ่าน อย.จำนวน 3 แห่ง
ปฏิบัติการครั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการกวาดล้างตัวยาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมถึงสารตั้งต้นยาเสพติด เช่น กระท่อมและกัญชา ไม่เกี่ยวกับกรณีพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
สำหรับปฏิกิริยาจากฟากพรรคภูมิใจไทย ในศึกล้างไพ่กัญชา มีวาทะจาก“หัวหน้าหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ท่าน (นายกรัฐมนตรี) บอกว่าเป็นกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งก็ตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย นายกรัฐมนตรีท่านบอกว่าจะเขียนกฎหมายใหม่เข้าสภา ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทย ทำร่างกฎหมายกัญชาไว้ จำได้หรือเปล่า แต่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันคว่ำในสมัยนั้น ดังนั้นที่พยายามบอกว่าพรรคภูมิใจไทย ทำทิ้งไว้ไม่ใช่เลย เราพยายามทำแต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากพรรคร่วมรัฐบาล
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังพร้อมเอาคืนด้วยว่าสำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโนนั้น พรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนไม่เอากาสิโนอยู่แล้ว แต่ก่อนนี้ในความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเราก็ต้องฟัง แต่วันนี้เราสามารถตัดสินใจได้ด้วยความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
ทางด้านนายศุภชัย ใจสมุทรแกนนำพรรคภูมิใจไทย โพสต์ว่า จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยนับตั้งแต่ปี 2562 ชัดเจนว่าสนับสนุนการกัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น และการปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด ในประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ก็เป็นลงมติเห็นชอบโดยรัฐสภา คือ ทั้ง สว. และ สส. รวมทั้งจากพรรคเพื่อไทย ส่วนร้านที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นจำนวนมากนั้นเพราะกระทรวงสาธารณสุข ผู้อนุญาต ปล่อยปละละเลย จนกล่าวกันว่ามีการหาประโยชน์จากการออกใบอนุญาต และร้านกัญชามีอยู่ทุกซอกทุกมุมของทุกเมือง
จากนั้นน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาโต้นายศุภชัย ว่าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาการแพทย์ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด ต้องไม่ลืมว่าในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใครหรือพรรคไหนนั่ง รมว.สธ. และปลดล็อกกัญชาเองกับมือ จนเกิดปรากฏการณ์คาเฟ่สายเขียวทั่วเมือง เพราะไร้กฎหมายควบคุม ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ป.ป.ส. มีข้อมูลทางวิชาการเปรียบเทียบในปี 2562 ซึ่งกัญชาและพืชกระท่อม ยังเป็นยาเสพติด พบว่าผู้ที่ติดกัญชาในปี 2562 มีประมาณ 200,000-350,000 ราย ขณะที่กระท่อม มีผู้ติดประมาณ 400,000-500,000 ราย กระทั่งภายหลังมีการปลดล็อกพืชกระท่อม (2564) และกัญชา (2565) พบว่ามีผู้ติดยาเสพติดจากข้อมูลที่วิจัย กัญชามีคนติดสูงขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2567 ประมาณเกือบ 700,000 ราย ส่วนกระท่อมจำนวน 1.3 ล้านราย เป็นตัวเลขที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะดำเนินการ หากจะดึงกลับสู่บัญชียาเสพติด ทาง ป.ป.ส.ก็พร้อม
ส่วนเกษตรกรผู้ปลูกกัญชา อย่างเช่นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.หนองบัวศาลา โรงกัญชาที่ลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ถูกปล่อยทิ้งรกร้าง บางส่วนปลูกพืชผักสวนครัวแทน นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ เล่าว่า วิสาหกิจฯ ลงทุนและได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 แต่เมื่อมีการปลดล็อกกัญชาเสรี ไม่มีมาตรการควบคุมรองรับ กระทบต่อการปลูกกัญชาที่มีมาตรฐาน โดยช่อกัญชาอบแห้งที่วิสาหกิจชุมชนเก็บเกี่ยวช่วงเดือนธันวาคม 2567 และเก็บรักษากว่า 100 กิโลกรัม ขายไม่ออก และยังมีราก ใบ และต้นอบแห้งจำนวนมากที่ค้างสต็อกขายไม่ออกเช่นกัน
สำหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลล่าสุด วิสาหกิจชุมชนแม่ข่ายและลูกข่ายวางแผนกลับมาผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์ที่มีมาตรฐาน พร้อมยื่นขอรับรองมาตรฐาน GACP เพื่อให้เกิดการควบคุมที่ชัดเจน ทุกฝ่ายเดินหน้าไปได้อย่างถูกต้อง และไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำรอยเหมือนอดีต
ทางด้านผู้ประกอบการ ร้านจำหน่ายกัญชานายปรัญชัย ไชยมนตรี ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการกัญชาและเศรษฐกิจเพื่อการแพทย์ พัทยา ชลบุรีเปิดเผยว่า ร้านค้าสมาชิกกว่า 100 แห่งในพื้นที่เมืองพัทยา ส่วนใหญ่กังวลเกี่ยวกับทิศทางของกฎหมายและมาตรการควบคุมใหม่ โดยเฉพาะการจำหน่ายที่ยังไม่ชัดเจน และอยากให้รัฐบาลผลักดันร่างกฎหมายกัญชา ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ไม่ใช่แค่ออกประกาศที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และขอเรียกร้องให้มีมาตรการชดเชยหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมเสนอให้จัดโซนจำหน่ายกัญชาเฉพาะในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว และคำนึงถึงผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้กัญชาเพื่อการรักษา
ตามไทม์ไลน์จากจุดเริ่มสู่จุดจบนโยบายปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเพื่อการแพทย์และเศรษฐกิจ เริ่มต้นขึ้นในฤดูกาลเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคภูมิใจไทย ขึ้นป้ายหาเสียงนโยบายกัญชาเสรี ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา วาระที่หนึ่ง เปิดทางให้เพาะปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น โดยจดแจ้ง และให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ และมีข้อกำหนดกัญชาเชิงพาณิชย์ โดยวาดฝันทำเงินเป็นหมื่นล้านแสนล้าน นักลงทุนน้อยใหญ่แห่แหนเข้าร่วมวง
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ เป็นการปลดล็อกกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติดในประเทศไทย
อีกสองปีถัดมา สมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี มีพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 นายกฯเศรษฐา ให้นโยบายกระทรวงสาธารณสุข ทบทวนแก้ไขประกาศกระทรวงฯ ให้ดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น แต่ทางพรรคภูมิใจไทยค้านสุดตัว และมีเสียงร่ำร้องจากเกษตรกร นักลงทุน ผู้ใช้กัญชาทางการแพทย์ ฯลฯ ทำให้นายกฯเศรษฐา กลับลำไม่นำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด เพื่อยุติความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 และสั่งการต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อควบคุมการบังคับใช้กัญชาให้ใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัย และเศรษฐกิจเท่านั้น
อย่างไรก็ดี อย่างที่รู้กันว่าร่างกฎหมายกัญชง กัญชา ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ถูกสส.พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ คว่ำในวาระสอง และการผลักดันออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. .... ยกใหม่ ยังไม่มีความคืบหน้า โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ยังไม่มีการบรรจุในวาระของสภาฯ ระหว่างนี้ก็มีประกาศกระทรวงฯ ฉบับปรับปรุงใหม่ ออกมาเพื่อการควบคุมกัญชา
เป็นการเดินหน้าสู่การดับฝันนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ที่ “นายกฯอิ๊งค์” คาดหวังว่าจะเรียกเรตติ้งตีตื้นขึ้นมาบ้าง