ศูนย์ข่าวภูเก็ต – สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินนำทีมหน่วยงานภาครัฐในภูเก็ตลงพื้นที่หาดนุ้ย ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้าไปใช้ที่สาธารณประโยชน์ ผู้ยึดครองที่ดินไม่ให้เข้าพื้นที่ ถอยกลับมาลงบันทึกประจำวัน ที่ สภ.กะรน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ร้อยตำรวจตรี พงศกร มีพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ประสานไปยังนายไพโรจน์ ศรีละมุน นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายสรศักดิ์ รณะนันทย์ ผอ.ศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต
นายมานิต เอกสุวรรณ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต นางสาวลลนา หาญผจญศึก นักวิชาการที่ดินชำนาญการพิเศษ สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท วิวัฒน์ ชำนาญกิจ และพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรน ร่วมเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้าไปใช้ที่สาธารณประโยชน์ สำหรับประชาชนใช้ร่วมกันและพื้นที่ป่าไม้แปลงป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด และก่อสร้างอาคาร โดยผิดกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร บริเวณหาดนุ้ย ซอยแหลมมุมนอก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทั้งที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ผลการเข้าตรวจสอบพบว่า บริเวณที่ดินแปลงเอกสารสิทธิของ สปก. จังหวัดภูเก็ต ได้ถูกบุกรุกแผ้วถางและก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าว แต่ผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวกลับไม่ยินยอมให้คณะพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่แต่อย่างใด โดยกล่าวอ้างว่าที่ดินแปลงดังกล่าวยังเป็นคดีพิพาท ระหว่างเอกชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ต่อมาพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เดินทางต่อเข้าไปยังบริเวณหาดนุ้ย พบว่ามีการปิดประตูเหล็กล็อคกุญแจโซ่ใส่กลอน และดึงทำลายป้ายการตรวจยึด ของเจ้าพนักงานป่าไม้ ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรกะรน ได้ประสานไปยังทนายความของเจ้าของที่ดินแปลงที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว เพื่อขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว และได้แจ้งให้ทราบแล้วว่านายอำเภอเมืองภูเก็ต ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง แต่กลับได้รับการปฏิเสธ
ทั้งนี้เพื่อมิให้สถานการณ์ในพื้นที่บานปลายเกิดความรุนแรง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรกะรน จึงแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ และพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดิน เข้าลงบันทึกประจำวัน เพื่อตรวจสอบว่าการกระทำของเอกชนรายดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายใดหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เห็นชอบให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นกลไกประสานการปฏิบัติราชการเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนที่ดินแปลงดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ต่อไป