ฮุน เซน แฉต่อ เป็นคนช่วย "ยิ่งลักษณ์" น้องสาวของทักษิณ ให้ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาหลบหนีออกจากประเทศไทย ผ่านด่านปอยเปตในเดือนสิงหาคม 2560 ก่อนขึ้นเครื่องบินส่วนตัวจากเสียมเรียบหนีไปสิงคโปร์หาพี่ชาย ก่อนหนีไปดูไบต่อ
วันนี้ (27 มิ.ย.) ระหว่างในการประชุมกับสมาชิกสภาท้องถิ่นในจังหวัดพระวิหาร นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา กล่าวว่า จริง ๆ ตนไม่ได้ต้องการจะเปิดเผยข้อมูลนี้ แต่ถูกบังคับให้พูด เพราะถูกโจมตีส่วนตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน
“ผมสงสารยิ่งลักษณ์ เธอยังคงมีหนังสือเดินทางกัมพูชาและอาศัยอยู่ต่างประเทศ แต่เธอต้องทนทุกข์เพราะพี่ชายของเธอ และตอนนี้ก็เพราะหลานสาวของเธอด้วย ผมไม่อยากพูดออกไป แต่ก็ต้องพูด เพราะมีการใช้รถยนต์พายิ่งลักษณ์ออกจากด่านปอยเปต หลังจากนั้นก็มีเครื่องบินของเธอบินมาจากสิงคโปร์มาลงที่เสียมเรียบทันที พอเครื่องบินลงจอด เธอขึ้นรถไปทันที วันนี้ความจริงก็ปรากฏเสียที” ฮุนเซนระบุ
นอกจากนี้ นายฮุนเซน ยังชี้แจงว่า กัมพูชาไม่ได้ใช้ดินแดนของตนเพื่อต่อต้านประเทศไทย แต่กลับกระทำด้วยเมตตาธรรม และมนุษยธรรมต่างหาก
“ผมเสียใจที่มิตรภาพ 30 ปีถูกทำลายลงโดยลูกสาวของเพื่อน” ฮุนเซนกล่าวถึง น.ส.แพทองธาร พร้อมทั้งแสดงความผิดหวังต่อสิ่งที่เขาเห็นว่าเป็นการโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าของแพทองธาร พร้อมกล่าวเสริมว่า “นายกรัฐมนตรีของไทยอาจดูหมิ่นกองทัพทหารของไทยได้ แต่ไม่สามารถดูหมิ่นผมได้”
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันอายุ 58 ปี ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 28 ในช่วงปี 2554-2557 ภายหลังเกิดรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฯ นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว แต่ยิ่งลักษณ์ไม่มาศาลฯ จึงมีการออกหมายจับและริบเงินประกัน 30 ล้านบาท โดยมีรายงานว่ายิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนวันนัด โดยผ่านทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ผ่านไปยัง อ.ปอยเปต จ.บันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศสิงคโปร์เพื่อพบกับนายทักษิณ พี่ชาย และเดินทางพร้อมกับนายทักษิณไปยังนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์