xs
xsm
sm
md
lg

3 มาตรการ บีบ“เขมร”ยอมจำนน ปิดด่าน-ตัดไฟ-น้ำมัน ทำราคาสินค้าพุ่ง 100%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“รศ.ดร.อัทธ์” เผย มาตรการปิดด่าน-ห้ามนำเข้าสินค้าและน้ำมัน-เลิกซื้อไฟฟ้าจากไทย ส่งผลให้ราคาสินค้าในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นถึง 100% และสินค้าไทยจะหมดไปจากตลาดเขมรภายใน 2-3 เดือน แนะ ถล่มธุรกิจสีเทา กดดัน“ผู้นำกัมพูชา”เจรจาเปิดด่าน ด้าน“หม่อมปลื้ม” ชี้ หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้เขมรจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน เชื่อ “ฮุน เซน”ต้องการดินแดนไทย เพื่อสร้างผลงานให้“ลูกชาย” ก่อนที่วาระสุดท้ายของเขาจะมาถึง

เป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งสำหรับมาตรการของรัฐบาลไทยและกัมพูชาซึ่งได้มีการปิดด่าน ห้ามนำเข้าสินค้าและน้ำมันจากไทย รวมถึงยกเลิกการซื้อไฟฟ้าและอินเทรอ์เนตจากไทย เพื่อตอบโต้ข้อพิพาทเรื่องดินแดนระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งกำลังส่งผลให้ชาวกัมพูชาได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ โดยหลายฝ่ายกำลังประเมินว่าหากดำเนินมาตรการดังกล่าวในระยะยาวจะส่งผลอย่างไรต่อกัมพูชา

รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน
รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน วิเคราะห์ว่า หากกัมพูชาดำเนินมาตรการปิดด่าน ห้ามนำเข้าสินค้าจากไทย ยกเลิกการซื้อน้ำมัน ไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ตจากไทยในระยะยาว จะส่งผลให้สินค้าไทยหมดจากร้านค้าในกัมพูชาภายใน 2-3 เดือน โดยสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยที่ส่งไปกัมพูนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับสอง รองจากจีน กัมพูชาจึงต้องหันไปนำเข้าสินค้าจากจีนและเวียดนามมากขึ้น

ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งไทยครองตลาดกัมพูชาถึง 60% และปัจจุบันกัมพูชาเหลือสำรองใช้อีกเพียงแค่ 7 วันนั้น ทางกัมพูชาก็กำลังเจรจาซื้อน้ำมันจากสิงคโปร์ ซึ่งสิ่งที่จะตามคือราคาสินค้าในกัมพูชาจะแพงขึ้น 100% และส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 4-5% ขณะที่อินเทอร์นั้นกัมพูชาก็หันไปซื้อจากมาเลเซีย ฮ่องกง และเวียดนาม ส่วนไฟฟ้าก็หันไปสั่งซื้อจาก สปป.ลาว และจีน ทำให้ต้นทุนในการดำรงชีวิตของชาวกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “หม่อมปลื้ม” ระบุว่า กัมพูชาพึ่งพาไทยใน 2 เรื่องหลักๆคือ

1.รายได้จากคนไทยที่เข้าไปท่องเที่ยวและเล่นการพนันในกัมพูชา ซึ่งคิดเป็น 30% ของรายได้จากการท่องเที่ยวและบ่อนการพนันในกัมพูชาทั้งหมด หากคนไทยไม่สามารถเดินทางข้ามแดนไปเล่นพนันในกัมพูชาได้เนื่องจากมาตรการปิดด่านในระยะยาว รายได้ดังกล่าวจะหายไปประมาณ 30% ซึ่งถือว่าเยอะมาก ดังนั้นเชื่อว่าทางกัมพูชาจะดำเนินนโยบายปิดด่านได้ไม่นานนักเพราะผู้ประกอบการกาสิโนได้รับผลกระทบอย่างหนัก

2. สินค้าอุปโภคบริโภคและน้ำมันสำเร็จรูปที่ไทยส่งไปขายในกัมพูชา เนื่องจากกัมพูชาไม่สามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากไทย ซึ่งกรณีที่ไทยไม่สามารถส่งผักผลไม้ไปขายในกัมพูชา ทางไทยไม่ได้เสียหายมากนัก ผู้ประกอบการเสียหายก็จริงแต่สักพักเขาก็สามารถหาตลาดส่งออกใหม่ได้ ขณะที่ชาวกัมพูชาเดือดร้อนจากการที่ไม่สามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยได้ เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง รวมถึงน้ำมันซึ่งนำเข้าจากไทย โดย ปตท.มีปั๊มน้ำมันอยู่ในกัมพูชา 200 ปั๊ม คิดเป็น 50% ของน้ำมันทั้งหมดที่ใช้ในกัมพูชา การที่กัมพูชาบอกว่าไม่เอาน้ำมันของไทยจึงไม่มีทางเป็นไปได้ ขณะที่ ปตท.นั้นมีปั๊มน้ำมันในไทยเกือบ 2,000 แห่ง อีกทั้งยังลงทุนในลาวและเวียดนามด้วย ซึ่งรายได้หลักไม่ได้มาจากกัมพูชา นอกจากนั้นปั๊มน้ำมันยี่ห้ออื่นในกัมพูชาก็ยังนำเข้าน้ำมันจาก ปตท.ด้วย การปิดปั๊มน้ำมันในกัมพูชาจึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ ปตท.มากนัก

“ หากกัมพูชาดำเนินการทั้งหมดอย่างที่ผู้นำประเทศกล่าวอ้าง ไม่ว่าจะเป็น ปิดด่านถาวร ไม่ซื้อน้ำมันไทย จะส่งผลให้เศรษฐกิจกัมพูชาเป็นอัมพฤกษ์ชั่วคราว ถ้าดำเนินนโยบายเหล่านี้จริงๆกัมพูชาจะอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน จึงเชื่อว่าอีกไม่นานการค้าขายระหว่างไทย-กัมพูชาจะกลับมาเป็นปกติ และรัฐบาลกัมพูชาจะแกล้งหลับตาข้างหนึ่งเพื่อให้สินค้าและน้ำมันของไทยเข้าไปขายในกัมพูชาได้ ขณะที่ทางการไทยก็ไม่ได้อยากปิดด่าน แต่ที่ต้องปิดด่านเพราะกัมพูชาเสริมกำลังทหารเข้ามา ดังนั้นเชื่อว่าอีกไม่นานกัมพูชาจะหยุดเสริมกำลังและทั้งสองประเทศมีการเปิดด่าน ขณะเดียวกันหากมีการปิดด่านในระยะยาวจะเกิดแรงกดดันจากประชาชนและผู้ประกอบการในกัมพูชา และเมื่อมีแรงกดดันมากขึ้น รัฐบาลกัมพูชาก็ต้องเปิดด่าน ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนก็เป็นได้ ” หม่อมปลื้ม ระบุ

หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “หม่อมปลื้ม”
หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ มองว่า หากมีการปิดด่านในระยะยาวผู้ประกอบการไทยจะ Reroute หรือหาช่องทางใหม่ในการส่งสินค้าไปกัมพูชา โดยจะขนส่งสินค้าผ่านทางประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ส่งเข้าเวียดนามก่อนแล้วจึงส่งเข้ากัมพูชาอีกที ซึ่งราคาสินค้าก็จะสูงขึ้นเพราะมีค่าขนส่ง ขณะที่ผู้ประกอบการกัมพูชาก็เดือดร้อนต้องวิ่งหาช่องทางใหม่ในการนำเข้าสินค้า เราก็จะเห็นสินค้าไทยวิ่งไปเวียดนามก่อนจะวกเข้ากัมพูชา ดังนั้นไม่เชื่อว่าสินค้าไทยจะหายไปจากกัมพูชา น้ำมันก็เช่นกัน ปั๊ม ปตท.ก็ยังอยู่ในกัมพูชาเหมือนเดิม และใช้วิธีนำเข้าน้ำมันผ่านประเทศเพื่อนบ้านเช่นเดียวกัน

“ ที่จริงแล้วสินค้าจีนที่ขายในกัมพูชาราคาถูกกว่าสินค้าไทย แต่ที่ชาวกัมพูชานิยมสินค้าไทยมากกว่าเพราะมั่นใจในคุณภาพ ในระยะยาวกัมพูชาก็อาจจะเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคไปซื้อสินค้าจีน ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเพราะต้องนำเข้าน้ำมันจากสิงคโปร์นั้นก็จะเป็นภาระของประชาชนในระยะแรก แต่ในอนาคตก็จะซื้อน้ำมันจากเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันตอนนี้คือภาคการเกษตรของกัมพูชาซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังและมะม่วง เนื่องจากไทยมีมาตรการยกเลิกนำเข้ามันสำปะหลังและการปิดด่านซึ่งทำให้ชาวกัมพูชาไม่สามารถนำพืชผลเกษตรมาขายในไทยได้ จึงเป็นแรงกดดันของรัฐบาลกัมพูชา” หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ กล่าว

รศ.ดร.อัทธ์ มองว่า เหตุผลที่กัมพูชากล้าใช้มาตรการปิดด่าน เลิกซื้อสินค้า น้ำมัน กระแสไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ตจากไทย ซึ่งส่งผลให้ชาวกัมพูชาเดือดร้อน เพราะเขาประเมินแล้วว่าเป็นช่วงที่รัฐบาลไทยคะแนนนิยมตกต่ำและมีความสนิสนมกับผู้นำกัมพูชาจึงน่าจะคุยกันง่าย อีกทั้งเขายังกุมความลับของผู้นำไทยไว้เยอะ ถ้าเล่นเกมนี้น่าจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อกัมพูชา ส่วนผลกระทบที่มีต่อคะแนนนิยมของนายฮุน มาเนตนั้นไม่น่าจะส่งผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะตระกูลฮุนไม่มีคู่แข่งทางการเมือง ประชาชนไม่มีตัวเลือก เขาคุมประชาชนได้หมดแล้ว


ด้าน หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ วิเคราะห์ว่า ขณะนี้กัมพูชากำลังดำเนิน 2 มาตรการพร้อมกันคือ ด้านหนึ่งพยายามดึงไทยเข้าสู่การพิจารณาของ ICJ (ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ) หรือที่เรียกกันว่าศาลโลก ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าจึงเร่งดำเนินมาตรการอีกด้านหนึ่งคือพยายามยั่วยุเพื่อให้เกิดการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เพื่อนำภาพนี้ไปร้องเรียนต่อสหประชาชาติว่าถูกไทยรุกรานและดึงประเทศที่สามเข้ามา เมื่อทหารไทยไม่ใช้กำลังอาวุธสักที ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงปล่อยคลิปที่พูดคุยกับนายกฯแพทองธาร เพื่อจุดประเด็นให้เกิดการรัฐประหารและให้สายเหยี่ยวขึ้นมาเป็นรัฐบาลจะได้ใช้อำนาจสั่งการให้มีการสู้รบ เพราะเขามองว่ารัฐบาลที่มาจากทหารคงพร้อมที่จะบวกกับกัมพูชา แต่กองทัพไทยก็ไม่หลงกลกัมพูชา

“ กัมพูชาตั้งใจรุกรานไทยเพื่อให้เกิดข้อขัดแย้งรุนแรงเพื่อดึงไทยเข้าสู่ ICJ และให้ UN เข้ามา โดยเป้าหมายของฮุน เซน คือต้องการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ฮุน มาเน็ต นายกฯกัมพูชา ซึ่งเป็นบุตรชาย คือได้ 3 ปราสาทของไทย และพื้นที่ช่องบกตกเป็นของกัมพูชา ก่อนที่วาระสุดท้ายของฮุน เซน จะมาถึง เพื่อให้ระบอบฮุนเซนยังคงอยู่ต่อไปได้ในวันที่ฮุน เซน ไม่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจะเขย่ารัฐบาลนี้ไปเรื่อยๆ ” หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ กล่าว

ส่วนที่กัมพูชาพยายามจะเจรจากับนานาชาติเพื่อให้สนับสนุนกัมพูชาในกรรีที่มีข้อพิพาทกับไทยนั้น “หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์” ชี้ว่า ไม่มีประเทศใดที่ให้การสนับสนุนกัมพูชา โดยเฉพาะอเมริกาและสหภาพยุโป เพราะคณะกรรมาธิการแต่ละชุดของรัฐสภายุโรปทราบกันดีอยู่แล้วว่ากัมพูชามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนคนที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านฮุน เซน และละเมิดสิทธิทางการเมืองของฝ่ายค้าน เช่น กรณีของลิม กิมยา ฝ่ายค้านกัมพูชา และพร พันนา นักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา ที่ถูกสั่งเก็บในประเทศไทย รวมถึงกรณีของพิสิษฐ์ ปิลิกา และตูจ ซุนนิก ภรรยาน้อยของฮุน เซน ที่ถูกสั่งเก็บโดยคนหนึ่งเสียชีวิตและอีกคนพิการนั้น ก็ถูกกล่าวขานไปทั่วโลก กัมพูชาจึงถูกประนามในเรื่องนี้และไม่มีประเทศใดในสหภาพยุโรปให้การสนับสนุนกัมพูชา หลายๆประเทศเยกเลิกสถานทูตในกัมพูชา ขณะที่อเมริกาออกมาตรการแซงชั่นนักธุรกิจชาวกัมพูชาที่จ่ายส่วยให้ฮุน มาเนต อาทิ นายลี ยง พัด ซึ่งทำกาสิโนที่เกาะกง , เครือข่ายฮุ่ยวัน บริษัทกลุ่มการเงินเทาของกัมพูชา

ขณะที่ประเทศในแถบอาเซียนก็ไม่สนับสนุนกัมพูชาเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมากัมพูชามักหาเรื่องรุกล้ำดินแดนของ สปป.ลาวและเวียดนามเพื่อปลุกกระแสคลั่งชาติแบบเดียวที่ทำกับไทย ตอนนี้มีเพียงประเทศเดียวที่ยังช่วยเหลือกัมพูชาคือจีน เนื่องจากจีนยังมีฐานทัพเรือเรียมในสีหนุวิลล์และนำเรือรบมาจอดที่นั่น แต่จีนมีนโยบายไม่แทรกแซงการเมืองในประเทศอื่นจึงไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา

“ เหลือแต่จีนที่คบกัมพูชา ส่วนประเทศในอาเซียนไม่มีใครคบเพราะฮุน เซน ขวางวาระของประเทศอาเซียนมาตลอด เช่น ในการประชุมอาเซียนที่กรุงพนมเปญทั้งฟิลิปปินส์ เสียดนาม สิงคโปร์ และอีกหลายประเทศต้องการออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อปฏิเสธการที่จีนจะส่งเรือเข้ามาลาดตระเวนในน่านน้ำสากลซึ่งใกล้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ฮุน เซน กลับกระโดดขวางเพราะกระทบผลประโยชน์จีน ฮุน เซน ยอมจีนทุกอย่างเพราะอเมริกาและสหภาพยุโรปไม่คบ ฮุน เซน คือปัญหาของภูมิภาค ” หม่อมปลื้ม ระบุ

ไทยปิดด่านพรมแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว สกัดนักพนันข้ามไปปอยเปต
ส่วนที่หลายฝ่ายวิตกว่าหากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศนั้น “รศ.ดร.อัทธ์” แนะว่า แรงกดดันที่จะทำให้กัมพูชาต้องเจรจาเปิดด่านมีอยู่ 3 เรื่องด้วย คือ

1. มาตรการทางทหาร โดยตรึงกำลังทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมาตรการที่กองทัพทำอยู่ในขณะนี้ถือ
ว่าถูกต้องแล้ว

2. มาตรการทางเศรษฐกิจ เช่น ปิดด่าน ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามข้ามไปเที่ยว-เล่นพนัน ซึ่งประเทศไทยกำลัง
ดำเนินการอยู่ แต่ว่าทำช้าเกินไป จริงๆแล้วไทยควรประกาศปิดด่านทันทีตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2568 ซึ่งมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารเขมรที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เพื่อเป็นการประท้วงที่ทหารกัมพูชารุกล้ำแผ่นดินไทย เมื่อปิดด่านแล้วยังไม่ถอนกำลังอีกก็ดำเนินการตัดเน็ตบางจุด ตัดไฟบางจุด ห้ามนักท่องเที่ยวข้ามไปเที่ยวฝั่งกัมพูชา ห้ามนักพนันข้ามไปเล่นที่บ่อนในกัมพูชา กดดันแบบนี้ไปเรื่อยๆ

3. กดดันธุรกิจสีเทาซึ่งเป็นจุดอ่อนของกัมพูชา ทั้ง คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ การฟอกเงิน ซึ่งล้วนอยู่ในบัญชีของ
สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปอยู่แล้ว โดยดึงนานาชาติ ทั้งสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา จีนและประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องการฟอกเงิน และโยงไปถึงเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการค้ายาเสพติด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นพันธกิจของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ดึงจีนและประเทศในภูมิภาคแถบนี้เข้าร่วมด้วย

“ นี่คือ 3 แรงกดดันที่ทำให้กัมพูชาเร่งเจรจาเปิดด่าน ซึ่งการกดดันธุรกิจสีเทานั้นเป็นเรื่องอ่อนไหวที่สุดสำหรับเขาเพราะเป็นรายได้หลักในขณะนี้ โดยกัมพูชามีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวและกาสิโนปีละเป็นแสนล้าน คิดดูว่าถ้าคนไทยไม่ไปเที่ยว ไม่ไปเล่นในบ่อนกัมพูชา เขาจะอยู่ได้ไหม ยิ่งถ้าไทยดึงนานาชาติเข้ามาร่วมปิดช่องทางการฟอกเงินของธุรกิจสีเทาในกัมพูชาก็เท่ากับปิดประตูตายเลย คือถ้าจะเล่นกันก็เอาให้สุด อย่างไรก็ดี การปะทะจะเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะเกิดขึ้น เกมนี้ใครลั่นไกก่อนแพ้เลย ” รศ.ดร.อัทธ์ ระบุ

ด้าน หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในกัมพูชาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฮุน เซน ไม่อยู่แล้ว หลังจากนั้นจะเกิดความขัดแย้งระหว่างทหารที่จงรักภักดีกับฮุน มาเนต และทหารที่พยายามแยกตัวจากฮุน มาเน็ต อาจได้เห็นกลุ่มชนชั้นนำเดิมกลับมาเคลื่อนไหวทางการเมือง และฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศจะกล้ากลับไปขับเคลื่อนการเมืองในกัมพูชา ฮุน เซน จึงต้องพยายามสร้างผลงานให้ลูกชาย แต่มาตรการที่ทำมาทั้งหมดในช่วงนี้กลับมีผลกระทบย้อนกลับไปทำร้ายฮุน มาเนต คือทำให้ความนิยมจะลดลง

“ นี่คือระยะสุดท้ายของฮุน เซน ถ้าฮุน เซน ไม่อยู่แล้ว ฮุน มาเนต จะต้องเผชิญกับ transaction crisis หรือวิกฤตในช่วงเปลี่ยนผ่านผู้นำ ถ้าผู้นำคนเก่ามีอำนาจเยอะ รุ่นต่อมาก็ต้องพยายามกระชับอำนาจ เมื่อฮุน เซน ไม่อยู่ ฮุน มาเนต ก็ต้องผจญกับทหารที่ไม่จงรักภักดี เผชิญกับชนชั้นนำเดิมที่พยายามเข้ามีบทบาททางการเมือง รวมถึงฝ่ายค้านที่ต้องการกลับมามีบทบาท ผมคิดว่ากัมพูชาในอีก 10 ข้างหน้าจะน่าเป็นห่วงมาก ฮุน เซน จึงทำทุกอย่างเพื่อสร้างผลงานและสร้างฐานอำนาจให้ฮุน มาเนต ส่วนคนที่จะโค่นฮุน มาเนตก็คือทหารซึ่งเป็นกำลังสำคัญของผู้นำกัมพูชาในขณะนี้นั่นเอง ” หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น