นายกฯ ลงพื้นที่อรัญประเทศ เจอทั้งกองเชียร์และม็อบไล่ ชูป้าย "นายกขายชาติ" "นายกเนรคุณ" และ "นายกไทยใจเขมร" ด้านเจ้าตัวท่องคำเดิมสันติวิธี ให้ทีมไทยแลนด์ช่วยเหลือการค้าชายแดน ขณะที่ผู้ว่าฯ สระแก้วเสนอระงับความช่วยเหลือแก่กัมพูชาแบบให้เปล่าทุกกรณี ระบุที่ผ่านมายกเว้นค่าธรรมเนียมกลับประเทศ 1,000 บาท สูญรายได้แผ่นดินกว่า 74 ล้าน
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่จังหวัดสระแก้ว รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมายังด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่ามีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งอยู่บริเวณหน้าด่านคลองลึกมาปักหลักบริเวณเส้นทางที่ขบวนนายกรัฐมนตรีผ่านเข้าไปบริเวณภายในด่าน พร้อมชูป้ายและตะโกนไล่นายกรัฐมนตรี โดยที่ป้ายเขียนข้อความระบุว่า "นายกขายชาติ" "นายกเนรคุณ" และ "นายกไทยใจเขมร" ระบุว่า มาไล่นายกฯ พร้อมให้กำลังใจทหารและตำรวจชายแดน
ขณะที่ภายในด่านพรมแดนคลองลึก มีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมารอให้การต้อนรับ มอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมเขียนป้ายเขียนข้อความระบุว่า "พวกเราชาวสระแก้วยินดีต้อนรับนายกฯ แพทองธาร" "ชาวสระแก้วพร้อมสนับสนุนนายกฯ แพทองธารตลอดไป" "นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ สู้ๆ จากคนสระแก้ว" "พวกเราชาวสระแก้ว LOVE YOU นายกฯ แพทองธาร" "ชาวสระแก้วพร้อมที่จะสู้ไปกับท่านนายกฯ แพทองธาร" "ชาวสระแก้วเป็นกำลังใจให้ นายกฯ แพทองธาร" "คนสระแก้ว รักนายกฯ อุ๊งค์อิ๊งค์" เป็นต้น
นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว รายงานสถานการณ์ว่า ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เขาต้องบริหารจัดการ เพราะผู้ค้าขายส่วนใหญ่ที่ตลาดโรงเกลือเป็นคนกัมพูชา เรามีมาตรการผ่อนผันเรื่องการเดินทางอยู่
ก่อนหน้านี้ที่โรงเรียนอรัญประเทศ มีการประชุมหารือเรื่องผลกระทบจากมาตรการกำหนดเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดสระแก้วที่ผ่านมา มีการขออนุญาตทำหนังสือเดินทางปกติ 30-40 เล่ม เพิ่มขึ้นสูงสุดถึงวันละ 200 เล่ม ข้อมูลในทางลับคือส่วนใหญ่เดินทางมาทำงานหรือมาเล่นการพนันที่กาสิโน อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกเว้นค่าธรรมเนียมชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับ ทำให้ช่วงสงการณ์ที่ผ่านมาสูญเสียรายได้กว่า 74 ล้านบาท หลายภาคส่วนเสนออยากให้มีการเก็บเงินเช่นเดิม เพื่อนำงบประมาณกลับมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ ยังเสนอขอให้ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย- กัมพูชา 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนด จังหวัดสระแก้วเห็นควรระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบกลางในการก่อสร้างสะพาน เนื่องจากสะพาน มิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบท ซึ่งอยู่บริเวณ ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างให้
ส่วน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของสภาหอการค้าจังหวัดสระแก้วเรื่องปัญหาชายแดน โดยย้ำว่า การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหน่วยงานในพื้นที่เข้าใจปัญหาดีกว่าระดับส่วนกลาง ส่วนกองทัพได้ใช้สันติวิธีอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเห็นว่าทำอย่างไรให้เกิดสันติวิธี ไม่ให้การปะทะเกิดขึ้น ตนไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ทหารบริเวณหน้างานเป็นหมื่นราย ก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้ทหารตรงนั้นไม่เกิดการปะทะหรือสู้รบกัน และยังกลับบ้านไปหาครอบครัวได้ ส่วนเรื่องการค้าชายแดนมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่ ตรวจสอบสินค้าที่ติดค้างบริเวณชายแดน เช่น มันสำปะหลัง และ หาช่องทางระบายสินค้า รวมทั้งพิจารณามาตรการ ปรับปรุงการจัดซื้อของรัฐ-เอกชน และการให้โควตาส่งออกใหม่
ขณะเดียวกัน จะให้ทีมไทยแลนด์รวมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนและร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เน้นให้รัฐมนตรีและข้าราชการลงพื้นที่จริง เพื่อรับรู้สถานการณ์หน้างาน มีการปรับระบบราชการเพื่อช่วยเหลือเร็วขึ้น โดยเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดนำร่อง เสนอแนวทางปรับกลไกการช่วยเหลือประชาชนให้เร็วขึ้น โปร่งใส ไม่ต้องรอเป็นครึ่งปี ส่วนการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำจุดยืนจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น สแกมเมอร์ พร้อมสั่งการให้ กสทช. และหน่วยงานด้านความมั่นคงตรวจสอบบริษัทเอกชน ที่อาจเกี่ยวข้องหรือส่งผลต่อความมั่นคง
น.ส.แพทองธาร ย้ำว่ารัฐบาลยังมีศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชนหากได้รับข้อมูลปัญหาที่ตรงจุด โดยเน้นให้ทุกฝ่ายลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนและให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างแท้จริง