ภูมิใจไทยประเดิมฝ่ายค้าน! จ่อซักฟอกนายกฯ ชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านลงชื่อครบ 99 เสียง แม้เสียงของตัวเองไม่พอใจ ย้ำคลิปเสียงชัดเจน ไร้ความไว้วางใจ ประธานสภาฯ ยันสิทธิฝ่ายค้าน
ภายหลังพรรคภูมิใจไทยต้องถูกมาเป็นฝ่ายค้าน ก็ได้เดินหน้าปะฉะดะกับฝ่ายรัฐบาลทันที โดยเริ่มตั้งแต่ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเตรียมนำพืชกัญชากลับเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่พรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทย มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ คือ การเตรียมยื่นญัตติเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันทีที่มีการเปิดประชุมสภาในวันที่ 3 กรกฎาคม
นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงมติที่ประชุมพรรคว่า ที่ประชุมได้พูดคุยเรื่องการทำหน้าที่ของพรรคหลังจากนี้ โดยหลังจากการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปีที่ 3 ที่จะเปิดในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ พรรคมีมติว่าต้องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราขอเชิญชวนพรรคประชาชน พรรคพลังประชารัฐ พรรคเป็นธรรม และพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งอยู่ในสัดส่วนของพรรคฝ่ายค้านให้ร่วมกันลงชื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถึงประเด็นการปฎิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเนื้อหาของญัตติเข้าใจว่าทุกท่านได้เห็นกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
"มติพรรคที่ออกมาวันนี้เรา สส.พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 69 เสียง ในนามสมาชิกพรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะเซ็นยื่นญัตติเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมกันทุกท่าน เพราะคลิปเสียงชัดเจนมากที่สุดแล้วว่าเราไม่สามารถไว้วางใจนายกรัฐมนตรีได้" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ตามกระบวนการของกฎหมายหากเปิดประชุมสมัยสามัญประจำปีแล้ว พรรคการเมืองหากเข้าชื่อตามข้อบังคับ และกฎหมายสามารถยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะเป็นการประชุมสมัยใหม่สมัยแรกสามารถยื่นได้เพราะใน1ปีให้อภิปรายไม่ไว้วางใจโดยการลงมติได้เพียง1ครั้ง คราวที่แล้วถือว่าเป็นของปีที่แล้ว เมื่อเริ่มปีใหม่ และเป็นสมัยที่1 ก็ดำเนินการได้แต่หากอภิปรายในสมัยที่1 แล้วสมัยที่ 2 มีการอภิปราย ก็ดำเนินการได้ แต่จะไม่มีการลงมติ
ส่วนข้อวิจารณ์เป็นการยื่นอภิปรายเร็วเกินไปหรือไม่นั้น ประธานสภาฯ ระบุว่า ในประเด็นนี้ไม่อาจวิจารณ์ได้ เพราะเป็นไปตามสิทธิ์ของฝ่ายค้าน ที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่มีประเด็นจะซักถามให้รัฐบาลตอบ และมีการลงมติ
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมาตรา 151 บัญญัติว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ เมื่อได้มีการเสนอญัตติแล้ว จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้ เว้นแต่จะมีการถอนญัตติหรือมีการลงมติไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับจำนวน สส.ที่ทำหน้าที่ในปัจจุบันมีทั้งหมด 495 คน ดังนั้น จำนวนหนึ่งในห้ามตามมาตรา 151 คือ 99 คน