อเมริกันชน 79% กังวลตกเป็นเป้าหมายการแก้ค้นเอาคืน หลังวอชิงตันบอมบ์สถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่คะแนนนิยมในตัวทรัมป์ก็ดิ่งต่ำสุดนับจากรับตำแหน่งเมื่อต้นปี ซึ่งรวมถึงคะแนนการสนับสนุนด้านนโยบายการต่างประเทศและเศรษฐกิจ
วันจันทร์ (23 มิ.ย.) รอยเตอร์/อิปซอสส์ ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 1,139 คนทั่วประเทศที่ใช้เวลารวบรวมข้อมูล 3 วันนับจากที่อเมริกาโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านในวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ซึ่งพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจถึง 79% กังวลว่า อิหร่านอาจเล็งโจมตีพลเรือนอเมริกันเพื่อตอบโต้การโจมตีของวอชิงตัน และ 84% กังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กำลังลุกลาม
ผลสำรวจนี้ตอกย้ำความแตกแยกอย่างรุนแรงในอเมริกาเกี่ยวกับสิ่งที่วอชิงตันควรทำต่อไป รวมทั้งความเสี่ยงทางการเมืองที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเผชิญอยู่ ขณะที่คะแนนนิยมของเขาก็หล่นไปอยู่ที่ 41% ต่ำที่สุดนับจากเข้ารับตำแหน่งในเดือนม.ค.
ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 36% แบ่งออกเป็นผู้สนับสนุนเดโมแครต 13% และรีพับลิกัน 69% เห็นด้วยกับการโจมตีอิหร่าน สำหรับคำถามที่ว่าสนับสนุนให้โจมตีต่อหรือไม่ มี 32% เท่านั้นที่สนับสนุน เทียบกับ 49% ที่คัดค้าน
ทั้งนี้ในพรรครีพับลิกันของทรัมป์มี 62% บอกว่าสหรัฐฯควรโจมตีต่อไป และ 22% คัดค้านความคิดนี้ ขณะที่พวกผู้สนับสนุนรีพับลิกันมีความเห็นขัดแย้งกันมากกว่า กับคำถามที่ว่า สนับสนุนให้อเมริกาถอนตัวจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านทันทีหรือไม่ โดย 42% บอกว่า วอชิงตันควรยุติการมีส่วนร่วมในสงครามนี้ และ 40% คัดค้านการที่อเมริกาจะถอนตัว
สำหรับผู้สนับสนุนเดโมแครตนั้นส่วนใหญ่คัดค้านการบอมบ์อิหร่านต่อ และต้องการให้ยุติความขัดแย้งทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ ทรัมป์สั่งให้กองทัพสหรัฐฯ โจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์แห่งสำคัญของอิหร่าน 3 แห่ง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายกสรต่างประเทศครั้งสำคัญและสุ่มเสี่ยงอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้ทรัมป์ ย้ำเรื่อยมาว่า จะหลีกเลี่ยงการแทรกแซงทางทหารในสงครามใหญ่ในต่างแดน
ทรัมป์กอบโกยคะแนนนิยมและสร้างแบรนด์ทางการเมืองด้วยคำสัญญา “อเมริกาต้องมาก่อน” ระหว่างหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว และก่อนเข้ารับตำแหน่งทั้งสมัยแรกและวาระปัจจุบันยังย้ำว่า ไม่เห็นด้วยที่อเมริกาจะไปยุ่งเกี่ยวในสงครามของชาติอื่น
อย่างไรก็ตาม ผลโพลคราวนี้กลับแสดงให้เห็นว่า คะแนนนิยมในด้านนโยบายการต่างประเทศของทรัมป์ยังดิ่งลง 4% อยู่มาที่ 35% เนื่องจากคนอเมริกันจำนวนมากขึ้นไม่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดการความสัมพันธ์กับอิสราเอล อิหร่าน รัสเซีย และยูเครน ซึ่งกำลังทำสงครามกันอยู่ในขณะนี้
ส่วนคะแนนนิยมสำหรับการจัดการเศรษฐกิจของทรัมป์ลดลงถึง 4% เช่นเดียวกัน อยู่ที่ 35% ขณะที่คะแนนด้านนโยบายคนเข้าเมืองขยับลง 1% เหลือ 43%
(ที่มา: รอยเตอร์)