ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล มีผลบังคับใช้ในวันอังคาร (24 มิ.ย.) หลังจากที่ดีลนี้ทำท่าล้มคว่ำในช่วงต้นๆ และประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ออกมาแสดงความหงุดหงิดผิดหวังอย่างแรงกับทั้งสองฝ่าย
อิสราเอลได้ออกมากล่าวหาอิหร่านก่อนหน้านี้ว่า ยังคงยิงขีปนาวุธหลายลูกเข้าสู่น่านฟ้าของตน หลังเวลาที่กำหนดให้ยุติศึกตามข้อข้อตกลงหยุดยิงผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง และรัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งอยู่ในพรรคขวาจัดสุดโต่ง ออกมาประกาศตอบโต้โดยขู่ว่า “เตหะรานจะต้องขวัญผวา”
ส่วน อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ได้สั่งการให้กองทัพเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีระดับเข้มข้น โดยพุ่งเป้าที่ทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐาน “การก่อการร้าย” ในเตหะราน เพื่อตอบโต้การละเมิดสัญญาหยุดยิงของอิหร่าน
ทางด้านสื่อภาครัฐของอิหร่านรายงานว่า ฝ่ายทหารได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงขีปนาวุธเข้าไปในอิสราเอล อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเสียงไซเรนเตือนภัยดังอยู่ทั่วภาคเหนือของอิสราเอลในช่วงสายๆ วันอังคาร และเอพีระบุว่ามีนายทหารอิสราเอลผู้นี้กล่าวว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัฐยิวสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธอิหร่าน 2 ลูกที่ยิงเข้ามา
ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ก่อนออกเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมซัมมิตองค์การนาโตที่กรุงเฮก, เนเธอร์แลนด์ว่า ในความคิดเห็นของเขา ทั้งสองฝ่ายต่างก็ละเมิดข้อตกลงที่เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ฉบับนี้ แต่เขาใช้ถ้อยคำรุนแรงเป็นพิเศษในการตำหนิอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรสนิทของสหรัฐน เวลาเดียวกันก็เสนอแนะว่าอิหรานยิงใส่อิสราเอลด้วยความผิดพลาดไม่ตั้งใจ
ทว่าต่อมา เขาระบุว่า สามารถรักษาข้อตกลงหยุดยิงเอาไว้ได้ โดยโพสต์ข้อความในแพลตฟอร์มสื่อสังคม “ทรูธ โซเชียล” ของเขาว่า “อิสราเอลไม่ได้กำลังจะโจมตีอิหร่าน เครื่องบินทุกลำจะหันหัวเลี้ยวมุ่งหน้ากลับบ้าน ในขณะที่พวกเขาทำ “คลื่นระนาบ” อย่างฉันมิตรให้อิหร่าน ไม่มีใครจะได้รับอันตรายอะไร การหยุดยิงมีผลบังคับแล้ว!”
ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็แถลงว่า เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ยกเลิกการโจมตีใส่อิหร่านอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น ภายหลังพูดคุยทางโทรศัพท์กับทรัมป์
การสู้รบขัดแย้งคราวนี้ ซึ่งนับถึงวันอังคารก็ดำเนินมา 12 วันแล้ว เริ่มต้นขึ้นด้วยการที่อิสาเอลใช้กำลังทางอากาศถล่มเป้าหมายที่เป็นพวกสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์และทางทหารในอิหร่าน โดยบอกว่าจะไม่ยอมให้เตหะรานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งพวกเขาแสดงความหวั่นเกรงว่าอิหร่านใกล้จะทำระเบิดมหาประลัยนี้สำเร็จแล้ว
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้เข้าร่วมการโจมตีอิหร่าน ด้วยการทิ้งลูกระเบิดขนาดยักษ์ “บังเกอร์ บัสเตอร์” และขีปนาวุธ เข้าใส่สถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน แล้วอิสราเอลยังได้เพิ่มการโจมตีใส่เป้าหมายต่างๆ ที่กำลังกระทำอยู่ ความเคลื่อนไหวเช่นนี้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลกว่า สงครามอาจจะขยายตัวบานปลายออกไป
อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ (23) หลังจากเตหะรานเปิดฉากการโจมตีตอบโต้ในแบบจำกัดเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในกาตาร์ ซึ่งทรัมป์บอกว่าเป็นการตอบโต้ที่อ่อนแรงเต็มที แล้วจากนั้นเขาก็ประกาศว่าทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างตกลงที่จะหยุดยิงแล้ว
เนทันยาฮูยอมรับข้อตกลงหยุดยิง
ด้านนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงถ่ายทอดสดทางทีวีว่า อิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับอิหร่าน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ (23 มิ.ย.) เขารายงานต่อคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของประเทศว่า อิสราเอลบรรลุเป้าหมายทั้งหมดในสงครามครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการขจัดภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัวของอิหร่าน สังหารผู้นำทางทหาร และโจมตีที่ทำการรัฐบาลของอิหร่านหลายแห่ง อีกทั้งยังสามารถควบคุมน่านฟ้าเตหะราน ก่อนสำทับว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงหากอิหร่านละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
มีรายงานว่า ไม่นานก่อนถึงกำหนดเวลาหยุดยิง อิสราเอลยังคงโจมตีเมืองต่างๆ ของอิหร่าน หลังจากอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนทรูธ โซเชียล ก่อนเส้นตายหนึ่งชั่วโมงว่า “ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้แล้ว โปรดอย่าฝ่าฝืน”
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงหยุดยิงมีกำหนดเริ่มต้นเวลา 4.00 น.วันอังคารตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช (11.00 น.ตามเวลาไทย) โดยที่อิหร่านจะเป็นฝ่ายยุติปฏิบัติการทางทหารก่อน และอิสราเอลดำเนินการตามในอีก 12 ชั่วโมงต่อมา
ที่อิหร่าน สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านแถลงว่า กองทัพได้บีบให้อิสราเอลยอมรับความพ่ายแพ้และยอมรับข้อตกลงหยุดยิงฝ่ายเดียว และทหารอิหร่านจะเตรียมพร้อมตลอดเวลาเพื่อตอบโต้ความก้าวร้าวของศัตรู
ก่อนหน้านั้น อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนเอ็กซ์ว่า ยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงหรือการยุติปฏิบัติการทางทหาร อย่างไรก็ตาม หากอิสราเอลยุติการโจมตีนับจากเวลา 4.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของเตหะราน อิหร่านจะไม่โจมตีตอบโต้อีก และสำทับว่า อิหร่านจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยุติปฏิบัติการทางทหารในภายหลัง
อิหร่านทิ้งทวน
กองทัพอิสราเอลเผยว่า อิหร่านโจมตีด้วยขีปนาวุธ 20 ลูกก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มบังคับใช้ ส่งผลให้อาคารที่พักอาศัยที่มีคนอยู่หนาแน่นอย่างน้อย 3 แห่งในเมืองเบียร์ชีบา ได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน
ที่อิหร่าน สำนักข่าวกึ่งทางการทัสนิมรายงานโดยอ้างคำแถลงของรองผู้ว่าการจังหวัดกีลานว่า อาคารที่พักอาศัย 4 แห่งถูก “ผู้ก่อการร้าย” ทำลายราบคาบเมื่อเช้าวันอังคาร โดยมีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 33 คน
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คำแถลงฉบับนี้หมายถึงการโจมตีของอิสราเอลหรือไม่ ทว่า สำนักข่าวนูร์นิวส์ของอิหร่านรายงานว่า โมฮัมมาเดรซา เซดิกี นักวิจัยนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผล
สงคราม 12 วัน
การประกาศของทรัมป์ว่า อิสราเอลและอิหร่านตกลง “หยุดยิงโดยสมบูรณ์” เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเมื่อวันจันทร์อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศอัล อูเดอิดในกาตาร์ ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่ที่สุดของอเมริกาในตะวันออกกลาง
ทรัมป์ประกาศผ่านทรูธ โซเชียลว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่จะเริ่มต้นเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาวอชิงตันจะส่งผลให้ “สงคราม 12 วัน” ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านยุติลงอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์คุยเรื่องข้อตกลงหยุดยิงโดยตรงกับเนทันยาฮูเมื่อวันจันทร์ ขณะที่รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์, มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ หารือกับเจ้าหน้าที่อิหร่านทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
นอกจากนั้น ทำเนียบขาวยังยืนยันว่า การโจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ช่วยให้อิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีรัฐบาลกาตาร์ช่วยเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยอีกทาง
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธ 14 ลูกโจมตีฐานทัพอากาศอัล อูเดอิดเป็น “การตอบโต้ที่เบามาก” ซึ่งอเมริกาคาดไว้แล้วและสามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เตหะรานยังแจ้งล่วงหน้าผ่านทางกาตาร์ ซึ่งสะท้อนว่า อิหร่านต้องการผ่อนคลายสถานการณ์ความขัดแย้ง
ทางด้านสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านยืนยันว่า การโจมตีฐานทัพอัล อูเดอิดเป็นการตอบโต้การกระทำที่ก้าวร้าวและอวดดีของอเมริกาต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่สำทับว่า ขีปนาวุธที่ยิงไปมีจำนวนเท่ากับจำนวนระเบิดที่อเมริกาใช้ ซึ่งตีความได้ว่า เตหะรานมุ่งตอบโต้อย่างเท่าเทียมมากกว่าต้องการทำให้ความขัดแย้งบานปลาย
ทั้งนี้ “สงคราม 12 วัน” ที่อิสราเอลเป็นฝ่ายเริ่มต้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนและบาดเจ็บกว่า 1,000 คนในอิสราเอล ขณะที่กลุ่มฮิวแมน ไรต์ แอกทิวิสต์ในวอชิงตันระบุว่า ฝ่ายอิหร่านมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 974 คน และบาดเจ็บ 3,458 คน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ได้อพยพพลเมืองอเมริกัน
ราว 250 คนออกจากอิสราเอลตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า ขณะนี้มีชาวอเมริกันอยู่ในประเทศนี้ราว 700,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองสัญชาติอเมริกัน-อิสราเอล
(ที่มา: เอพี/รอยเตอร์/เอเอฟพี)
อิสราเอลได้ออกมากล่าวหาอิหร่านก่อนหน้านี้ว่า ยังคงยิงขีปนาวุธหลายลูกเข้าสู่น่านฟ้าของตน หลังเวลาที่กำหนดให้ยุติศึกตามข้อข้อตกลงหยุดยิงผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง และรัฐมนตรีคลังอิสราเอล ซึ่งอยู่ในพรรคขวาจัดสุดโต่ง ออกมาประกาศตอบโต้โดยขู่ว่า “เตหะรานจะต้องขวัญผวา”
ส่วน อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล ได้สั่งการให้กองทัพเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีระดับเข้มข้น โดยพุ่งเป้าที่ทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐาน “การก่อการร้าย” ในเตหะราน เพื่อตอบโต้การละเมิดสัญญาหยุดยิงของอิหร่าน
ทางด้านสื่อภาครัฐของอิหร่านรายงานว่า ฝ่ายทหารได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงขีปนาวุธเข้าไปในอิสราเอล อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นและเสียงไซเรนเตือนภัยดังอยู่ทั่วภาคเหนือของอิสราเอลในช่วงสายๆ วันอังคาร และเอพีระบุว่ามีนายทหารอิสราเอลผู้นี้กล่าวว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัฐยิวสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธอิหร่าน 2 ลูกที่ยิงเข้ามา
ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ก่อนออกเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมซัมมิตองค์การนาโตที่กรุงเฮก, เนเธอร์แลนด์ว่า ในความคิดเห็นของเขา ทั้งสองฝ่ายต่างก็ละเมิดข้อตกลงที่เพิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ฉบับนี้ แต่เขาใช้ถ้อยคำรุนแรงเป็นพิเศษในการตำหนิอิสราเอล ซึ่งเป็นพันธมิตรสนิทของสหรัฐน เวลาเดียวกันก็เสนอแนะว่าอิหรานยิงใส่อิสราเอลด้วยความผิดพลาดไม่ตั้งใจ
ทว่าต่อมา เขาระบุว่า สามารถรักษาข้อตกลงหยุดยิงเอาไว้ได้ โดยโพสต์ข้อความในแพลตฟอร์มสื่อสังคม “ทรูธ โซเชียล” ของเขาว่า “อิสราเอลไม่ได้กำลังจะโจมตีอิหร่าน เครื่องบินทุกลำจะหันหัวเลี้ยวมุ่งหน้ากลับบ้าน ในขณะที่พวกเขาทำ “คลื่นระนาบ” อย่างฉันมิตรให้อิหร่าน ไม่มีใครจะได้รับอันตรายอะไร การหยุดยิงมีผลบังคับแล้ว!”
ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็แถลงว่า เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ยกเลิกการโจมตีใส่อิหร่านอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น ภายหลังพูดคุยทางโทรศัพท์กับทรัมป์
การสู้รบขัดแย้งคราวนี้ ซึ่งนับถึงวันอังคารก็ดำเนินมา 12 วันแล้ว เริ่มต้นขึ้นด้วยการที่อิสาเอลใช้กำลังทางอากาศถล่มเป้าหมายที่เป็นพวกสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์และทางทหารในอิหร่าน โดยบอกว่าจะไม่ยอมให้เตหะรานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งพวกเขาแสดงความหวั่นเกรงว่าอิหร่านใกล้จะทำระเบิดมหาประลัยนี้สำเร็จแล้ว
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯได้เข้าร่วมการโจมตีอิหร่าน ด้วยการทิ้งลูกระเบิดขนาดยักษ์ “บังเกอร์ บัสเตอร์” และขีปนาวุธ เข้าใส่สถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน แล้วอิสราเอลยังได้เพิ่มการโจมตีใส่เป้าหมายต่างๆ ที่กำลังกระทำอยู่ ความเคลื่อนไหวเช่นนี้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลกว่า สงครามอาจจะขยายตัวบานปลายออกไป
อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ (23) หลังจากเตหะรานเปิดฉากการโจมตีตอบโต้ในแบบจำกัดเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในกาตาร์ ซึ่งทรัมป์บอกว่าเป็นการตอบโต้ที่อ่อนแรงเต็มที แล้วจากนั้นเขาก็ประกาศว่าทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างตกลงที่จะหยุดยิงแล้ว
เนทันยาฮูยอมรับข้อตกลงหยุดยิง
ด้านนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงถ่ายทอดสดทางทีวีว่า อิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิงกับอิหร่าน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ (23 มิ.ย.) เขารายงานต่อคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของประเทศว่า อิสราเอลบรรลุเป้าหมายทั้งหมดในสงครามครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการขจัดภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัวของอิหร่าน สังหารผู้นำทางทหาร และโจมตีที่ทำการรัฐบาลของอิหร่านหลายแห่ง อีกทั้งยังสามารถควบคุมน่านฟ้าเตหะราน ก่อนสำทับว่า อิสราเอลจะตอบโต้อย่างรุนแรงหากอิหร่านละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
มีรายงานว่า ไม่นานก่อนถึงกำหนดเวลาหยุดยิง อิสราเอลยังคงโจมตีเมืองต่างๆ ของอิหร่าน หลังจากอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนทรูธ โซเชียล ก่อนเส้นตายหนึ่งชั่วโมงว่า “ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้แล้ว โปรดอย่าฝ่าฝืน”
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงหยุดยิงมีกำหนดเริ่มต้นเวลา 4.00 น.วันอังคารตามเวลามาตรฐานเมืองกรีนิช (11.00 น.ตามเวลาไทย) โดยที่อิหร่านจะเป็นฝ่ายยุติปฏิบัติการทางทหารก่อน และอิสราเอลดำเนินการตามในอีก 12 ชั่วโมงต่อมา
ที่อิหร่าน สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านแถลงว่า กองทัพได้บีบให้อิสราเอลยอมรับความพ่ายแพ้และยอมรับข้อตกลงหยุดยิงฝ่ายเดียว และทหารอิหร่านจะเตรียมพร้อมตลอดเวลาเพื่อตอบโต้ความก้าวร้าวของศัตรู
ก่อนหน้านั้น อับบาส อารากชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โพสต์บนเอ็กซ์ว่า ยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิงหรือการยุติปฏิบัติการทางทหาร อย่างไรก็ตาม หากอิสราเอลยุติการโจมตีนับจากเวลา 4.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของเตหะราน อิหร่านจะไม่โจมตีตอบโต้อีก และสำทับว่า อิหร่านจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการยุติปฏิบัติการทางทหารในภายหลัง
อิหร่านทิ้งทวน
กองทัพอิสราเอลเผยว่า อิหร่านโจมตีด้วยขีปนาวุธ 20 ลูกก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มบังคับใช้ ส่งผลให้อาคารที่พักอาศัยที่มีคนอยู่หนาแน่นอย่างน้อย 3 แห่งในเมืองเบียร์ชีบา ได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 20 คน
ที่อิหร่าน สำนักข่าวกึ่งทางการทัสนิมรายงานโดยอ้างคำแถลงของรองผู้ว่าการจังหวัดกีลานว่า อาคารที่พักอาศัย 4 แห่งถูก “ผู้ก่อการร้าย” ทำลายราบคาบเมื่อเช้าวันอังคาร โดยมีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บ 33 คน
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า คำแถลงฉบับนี้หมายถึงการโจมตีของอิสราเอลหรือไม่ ทว่า สำนักข่าวนูร์นิวส์ของอิหร่านรายงานว่า โมฮัมมาเดรซา เซดิกี นักวิจัยนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผล
สงคราม 12 วัน
การประกาศของทรัมป์ว่า อิสราเอลและอิหร่านตกลง “หยุดยิงโดยสมบูรณ์” เกิดขึ้นไม่นานหลังจากเมื่อวันจันทร์อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศอัล อูเดอิดในกาตาร์ ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่ที่สุดของอเมริกาในตะวันออกกลาง
ทรัมป์ประกาศผ่านทรูธ โซเชียลว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่จะเริ่มต้นเที่ยงคืนวันจันทร์ตามเวลาวอชิงตันจะส่งผลให้ “สงคราม 12 วัน” ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านยุติลงอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวคนหนึ่งเผยว่า ทรัมป์คุยเรื่องข้อตกลงหยุดยิงโดยตรงกับเนทันยาฮูเมื่อวันจันทร์ ขณะที่รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์, มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ หารือกับเจ้าหน้าที่อิหร่านทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
นอกจากนั้น ทำเนียบขาวยังยืนยันว่า การโจมตีสถานที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ (21 มิ.ย.) ช่วยให้อิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีรัฐบาลกาตาร์ช่วยเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยอีกทาง
ผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวว่า การที่อิหร่านยิงขีปนาวุธ 14 ลูกโจมตีฐานทัพอากาศอัล อูเดอิดเป็น “การตอบโต้ที่เบามาก” ซึ่งอเมริกาคาดไว้แล้วและสามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เตหะรานยังแจ้งล่วงหน้าผ่านทางกาตาร์ ซึ่งสะท้อนว่า อิหร่านต้องการผ่อนคลายสถานการณ์ความขัดแย้ง
ทางด้านสภาความมั่นคงแห่งชาติของอิหร่านยืนยันว่า การโจมตีฐานทัพอัล อูเดอิดเป็นการตอบโต้การกระทำที่ก้าวร้าวและอวดดีของอเมริกาต่อโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่สำทับว่า ขีปนาวุธที่ยิงไปมีจำนวนเท่ากับจำนวนระเบิดที่อเมริกาใช้ ซึ่งตีความได้ว่า เตหะรานมุ่งตอบโต้อย่างเท่าเทียมมากกว่าต้องการทำให้ความขัดแย้งบานปลาย
ทั้งนี้ “สงคราม 12 วัน” ที่อิสราเอลเป็นฝ่ายเริ่มต้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนและบาดเจ็บกว่า 1,000 คนในอิสราเอล ขณะที่กลุ่มฮิวแมน ไรต์ แอกทิวิสต์ในวอชิงตันระบุว่า ฝ่ายอิหร่านมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 974 คน และบาดเจ็บ 3,458 คน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ได้อพยพพลเมืองอเมริกัน
ราว 250 คนออกจากอิสราเอลตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า ขณะนี้มีชาวอเมริกันอยู่ในประเทศนี้ราว 700,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองสัญชาติอเมริกัน-อิสราเอล
(ที่มา: เอพี/รอยเตอร์/เอเอฟพี)