อิหร่านแถลงเช้าวันนี้ (18 มิ.ย.) ว่าได้ยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพุ่งตรงไปยังอิสราเอล ในปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ล่าสุดระหว่าง 2 ชาติคู่แค้นแห่งตะวันออกกลาง โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้เตหะราน “ยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข”
ทรัมป์ ยืนกรานว่าสหรัฐฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล ขณะเดียวกันก็แสดงออกอย่างไม่อ้อมค้อมว่าความอดทนของเขากำลังใกล้หมดลง หลังการสู้รบย่างเข้าสู่วันที่ 6
ฝูงเครื่องบินรบอิสราเอลได้บุกเข้าไปถล่มเป้าหมายภายในกรุงเตหะรานในช่วงก่อนรุ่งสางของวันนี้ (18) หลังกองทัพยิวประกาศเตือนผ่านโซเชียลมีเดียให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในเขต 18 (District 18) ของเมืองหลวงอิหร่านรีบอพยพ
สื่อทางการอิหร่านรายงานว่ามีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นที่เขตปิรูซี (Piroozi) ซาบาลัน (Sabalan) และซัยยาด (Sayyad) ในกรุงเตหะราน
รัฐบาลอิหร่านตอบโต้ด้วยการออกคำเตือนให้ประชาชนในกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลเตรียมพร้อมรับการโจมตี และกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) อ้างว่าได้มีการยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก Fattah-1 ซึ่ง “สร้างสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า” ภายในเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งนี้
“คลื่นระลอกที่ 11 ของปฏิบัติการ Operation Honest Promise 3 มีการใช้ขีปนาวุธ Fattah-1” สถานีโทรทัศน์อิหร่านเผยแพร่ถ้อยแถลงของ IRGC
ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกนั้นสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเสียงเกิน 5 เท่าและเปลี่ยนทิศทางระหว่างการบินได้ ทำให้ยากแก่การตรวจจับหรือยิงสกัด
อิหร่านยังได้ส่ง “ฝูงโดรน” เข้าไปโจมตีอิสราเอล ซึ่งกองทัพยิวระบุว่าสามารถยิงสกัดเอาไว้ได้ 2 ตัวเหนือพื้นที่ทะเลสาบเดดซี
บรรดาชาติมหาอำนาจต่างพยายามหาวิธียับยั้งไม้ให้ความขัดแย้งครั้งนี้ลุกลามจนกลายเป็นสงครามทั่วภูมิภาค
บัดร์ อับเดลัตตี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ ได้ต่อโทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน รวมถึง สตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนของสหรัฐฯ ในค่ำวันอังคาร (17) โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้การทูตแก้ปัญหา
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ ได้จุดประกายข้อสงสัยว่าสหรัฐฯ อาจยื่นมือเข้าแทรกแซงสงครามอิสราเอล-อิหร่าน หลังจากที่เขารีบร้อนเดินทางกลับจากการประชุมซัมมิต G7 ที่แคนาดา ในขณะที่บรรดาผู้นำชาติอื่นๆ ที่เหลือได้ออกคำแถลงร่วมเรียกร้องหยุดยิง
หลังกลับถึงวอชิงตันเมื่อวานนี้ (17) ทรัมป์ ก็ได้ยื่นคำขู่ทันทีให้อิหร่าน “ยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข” แถมยังคุยด้วยว่าสหรัฐฯ สามารถ “ลอบสังหาร” ผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ
“เรารู้แน่นอนว่าบุคคลที่ถูกเรียกว่าผู้นำสูงสุดนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายดาย แต่เขายังปลอดภัยอยู่ที่นั่น เพราะเรายังไม่คิดที่จะกำจัดเขา (ฆ่า!) อย่างน้อยก็ในตอนนี้” ทรัมป์ แถลงผ่าน Truth Social
ทรัมป์ ยังได้ประชุมร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งจบลงโดยไม่มีการแถลงผลให้สาธารณชนทราบ
แม้จะเคยประกาศย้ำหลายครั้งว่าต้องการดึงสหรัฐฯ ออกจาก “สงครามที่ไม่รู้จบ” ในตะวันออกกลาง แต่ ทรัมป์ กลับส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส นิมิตซ์ เข้าไปในภูมิภาคพร้อมกับฝูงบินอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ย้ำว่า ทรัมป์ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยื่นมือเข้าแทรกแซงหรือไม่
แม้จะมีเสียงเตือนจากนานาชาติ แต่ดูเหมือนอิหร่านและอิสราเอลจะยังไม่พร้อม “ถอย” จากปฏิบัติการแก้แค้นที่ดำเนินมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (13) เมื่ออิสราเอลเป็นฝ่ายเปิดฉากทิ้งบอมบ์ถล่มเป้าหมายทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ของเตหะรานก่อน
อิสราเอลอ้างว่าสามารถสังหาร อาลี ชาดมานี ผู้บัญชาการระดับสูงของอิหร่านที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 4 วัน รวมไปถึง โกลัม อาลี ราชิด ซึ่งเป็นผู้บัญชาการคนก่อนหน้าเขา
ที่มา: เอเอฟพี