xs
xsm
sm
md
lg

อิหร่านรัวขีปนาวุธ 100 ลูกเอาคืนอิสราเอล คุยใช้วิธีใหม่หลอกระบบป้องกันภัยของยิว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ชายชาวยิวเคร่งศาสนา ตรวจดูความเสียหายของสถานที่ซึ่งถูกขีปนาวุธอิหร่านโจมตี ทางด้านตะวันออกของกรุงเทลอาวีฟ เมื่อวันจันทร์ (16 มิ.ย.)
อิหร่านคุย พัฒนากลยุทธ์ใหม่ หลอกระบบป้องกันภัยอิสราเอลล็อกเป้าใส่กันเอง หลังซัดขีปนาวุธถล่มเมืองใหญ่แดนยิงอย่าง เทลอาวีฟ และ ไฮฟา 100 ลูกตั้งแต่เช้ามืดวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน ด้านรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลเต้น เตือนประชาชนในเตหะรานต้อง “ชดใช้เร็วๆ นี้” นอกจากนั้นกองทัพยิวยังอวดอ้างสามารถคุมน่านฟ้าด้านตะวันตกของอิหร่านยาวไปถึงเตหะราน

หลังจากเป็นศัตรูและทำสงครามเงากันมาเป็นสิบปี วันศุกร์ที่แล้ว (13 มิ.ย.) อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศอิหร่านชนิดเกินความคาดหมาย โดยอ้างว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เตหะรานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งอิหร่านยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง

การโจมตีของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตในอิหร่านอย่างน้อย 224 คน ซึ่งรวมถึงผู้บัญชาการทหารระดับสูง นักวิจัยนิวเคลียร์ แต่ 90% เป็นพลเรือน ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน

วันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ 4 ของการสู้รบขัดแย้งคราวนี้ กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ประกาศความสำเร็จในการโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกใหญ่ราว 100 ลูก โดยระบุว่า ใช้วิธีการใหม่ที่ทำให้ระบบป้องกันภัยแบบหลายชั้นของอิสราเอลล็อกเป้าโจมตีกันเอง และเปิดโอกาสให้ขีปนาวุธของอิหร่านโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ พร้อมเตือนว่า การโจมตีระลอกต่อๆ ไปจะมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และสร้างความเสียหายมากขึ้น

“ด้วยแนวทางริเริ่มและศักยภาพต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้ ถึงแม้อิสราเอลจะได้รับการสนับสนุนอย่างครอบคลุมจากสหรัฐฯ และมหาอำนาจตะวันตก และมีเทคโนโลยีในการป้องกันที่ล้ำสมัยที่สุด แต่เราก็ยังประสบความสำเร็จในการทำให้ขีปนาวุธพุ่งโจมตีเป้าหมายในดินแดนที่ถูกยึดครองได้มากที่สุด” ไออาร์จีซี ระบุ

พันเอกเรซา ไซยัด โฆษกกองทัพอิหร่าน ยังทำสงครามจิตวิทยา โดยเตือนให้พลเรือนทิ้งอิสราเอลที่กำลังจะเป็นดินแดนที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป และสำทับว่า ที่หลบภัยไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้

ขณะทีภาพจากวิดีโอเผยให้เห็นขีปนาวุธหลายลูกเหนือเมืองเทลอาวีฟ และเสียงระเบิดที่ดังไปถึงเยรูซาเลม อาคารที่พักอาศัยหลายแห่งในเทลอาวีฟถูกทำลาย แรงระเบิดยังทำให้หน้าต่างโรงแรมและบ้านเรือนหลายแห่งใกล้สถานกงสุลอเมริกันแตกเสียหาย

ไมค์ ฮักคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เผยว่า สถานกงสุลในเทลอาวีฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ

การโจมตีระลอกล่าสุดของอิหร่านยังสร้างความเสียหายในหลายเมือง ซึ่งรวมถึงเบเนบราค เปตาทิกวา และไฮฟา ที่รายงานระบุว่า มีผู้บาดเจ็บราว 30 คน และปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังดำเนินอยู่

การโจมตีของอิหร่านเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลเปิดฉากบุกทางอากาศและโจมตีเป้าหมายทั่วอิหร่านตั้งแต่ชายแดนด้านตะวันตกที่ติดกับอิรักจนถึงกรุงเตหะรานและเมืองมัชฮัดทางตะวันออกในวันอาทิตย์ (15 มิ.ย.)

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงในวันจันทร์ว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 11 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 100 คนจากการโจมตีของอิหร่านในช่วงคืนวันอาทิตย์ รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้งนี้ 24 คน

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ขู่ว่า เตหะรานจะต้องจ่ายแพงจากการจงใจสังหารพลเรือน

ด้าน อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประณามว่า เผด็จการโอหังในเตหะรานกลายเป็นฆาตกรขี้ขลาดที่โจมตีบ้านเรือนพลเรือนเพื่อขัดขวางไม่ให้กองทัพอิสราเอลเดินหน้าโจมตีซึ่งกำลังจะทำให้แสนยานุภาพของอิหร่านล่มสลาย และเตือนว่า ประชาชนในเตหะรานจะต้องจ่ายคืนเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาแคตซ์ได้ออกคำแถลงอีกฉบับระบุว่า อิสราเอลไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชนในเตหะราน

ทางฝ่ายกองทัพอิสราเอลแถลงว่า โจมตีศูนย์บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามและกองทัพอิหร่านซ้ำ สังหารเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโส 4 คน ซึ่งรวมถึงหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม รวมทั้งทำลายแท่นยิงขีปนาวุธจากพื้นผิวสู่พื้นผิวของอิหร่าน 1 ใน 3 และมีขีปนาวุธเพียง 7 ลูกจากไม่ถึง 100 ลูกที่อิหร่านยิงมาเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ตกในเขตแดนอิสราเอล

นอกจากนั้นกองทัพอิสราเอลยังอวดอ้างว่า ทำให้ระบบขีปนาวุธและการป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านเสื่อมประสิทธิภาพจนถึงจุดที่เครื่องบินของอิสราเอลสามารถบินเหนือเตหะรานโดยปราศจากการคุกคามร้ายแรงใดๆ รวมทั้งยังควบคุมน่านฟ้าด้านตะวันตกของอิหร่านไปจนถึงเตหะราน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ก่อนการโจมตีของอิหร่านในช่วงเช้าวันจันทร์ มอสสาด ซึ่งเป็นหน่วยงานจารกรรมของอิสราเอล ลักลอบนำโดรนติดระเบิดและอาวุธที่มีความแม่นยำเข้าไปในอิหร่าน และหลังจากนั้นอิหร่านเผยว่า ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนที่เชื่อว่า จารกรรมข้อมูลให้อิสราเอล

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น